TikTok สร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชนใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างปลอดภัย ส่ง 4 ฟีเจอร์ใหม่ในโหมด Family Pairing
เพื่อให้ผู้ปกครองดูแลการใช้งานดิจิทัลของบุตรหลานได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น
TikTok แพลตฟอร์มสร้างสรรค์วิดีโอสั้นชั้นนำระดับโลก เดินหน้าพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยบนแพลตฟอร์มพร้อมสร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชนใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างมีความรู้และปลอดภัย ด้วยการเพิ่ม 4 ฟีเจอร์ใหม่ในโหมด Family Pairing หรือ โหมดแนะนำโดยผู้ปกครอง ที่จะมาช่วยเพิ่มในเรื่องความเป็นส่วนตัว เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถเชื่อมต่อและเข้าไปบริหารจัดการแอคเคาน์ของบุตรหลานในการตั้งค่าความปลอดภัยต่างๆ อันเป็นจุดเริ่มต้นของการส่งเสริมให้เกิดสุขภาวะดิจิทัล (Digital Wellbeing) และการให้ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลให้กับเยาวชน
สำหรับในประเทศไทยการสร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชนไทยได้ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างปลอดภัย ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนสืบเนื่องจากผลการสำรวจล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน 2563 ที่ผ่านมา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เปิดเผยตัวเลขที่น่าสนใจเกี่ยวกับสถานการณ์การใช้งานออนไลน์ของเด็กไทย พบว่า เด็กไทยใช้เวลากับอินเตอร์เน็ตยาวนานขึ้น โดยร้อยละ 26 ใช้อินเตอร์เน็ตวันละ 3 – 5 ชั่วโมง และกลุ่มที่ใช้วันละ 6 – 8 ชั่วโมง มีสัดส่วนใกล้เคียงกัน ส่วนอีก 15% ใช้อินเตอร์เน็ตวันละ 8 – 10 ชั่วโมง และสัดส่วนถึง 22% ที่ใช้อินเตอร์เน็ตมากกว่า 10 ชั่วโมง ขณะที่เด็กไทยราว 80% รู้ระบบออนไลน์ใช้ประโยชน์ได้ดี แต่ยังมีอีก 20% ที่ใช้ไปในทางที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังมีการรายงานถึงปัญหาภัยออนไลน์คุกคามเด็กและเยาวชนที่รุนแรงและกว้างขวางขึ้น ซึ่ง TikTok เองก็มุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยบนแพลตฟอร์มมาโดยตลอดโดยเฉพาะสำหรับเด็กและเยาวชน
โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา TikTok เปิดตัว Family Pairing หรือ โหมดแนะนำโดยผู้ปกครอง ที่ช่วยเชื่อมต่อการใช้แพลตฟอร์มระหว่างแอคเคาน์ของผู้ปกครองกับแอคเคาน์ของบุตรหลาน เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถเข้าไปตั้งค่าความปลอดภัยในการใช้แพลตฟอร์มต่างๆ ได้อย่างสะดวกง่ายดาย อาทิ การควบคุมระยะเวลาการใช้งานบนแพลตฟอร์ม (Screen Time Management) การจำกัดการแสดงเนื้อหาที่อาจจะไม่เหมาะสมสำหรับผู้ชม (Restricted Mode) และการจำกัดผู้คนที่จะส่งข้อความเข้ามาหาหรือปิดการรับข้อความ (Direct Message)
ล่าสุด TikTok ได้ยกระดับมาตราฐานความปลอดภัยบนแพลตฟอร์มไปอีกขั้นด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในโหมด Family Pairing หรือ โหมดแนะนำโดยผู้ปกครอง ที่จะช่วยสนับสนุนให้ผู้ปกครองสามารถบริหารจัดการการใช้แพลตฟอร์มของบุตรหลานได้อย่างครอบคลุมและใกล้ชิดมากขึ้นซึ่งประกอบไปด้วย
- การค้นหา (Search) : ผู้ปกครองสามารถเข้าไปตั้งค่ากำหนดการค้นหาของบุตรหลานได้ ทั้งเนื้อหา ผู้ใช้ แฮ็ชแท็ก และเสียง
- ความคิดเห็น (Comments) : ผู้ปกครองสามารถเข้าไปตั้งค่าได้ว่า ใครสามารถเข้ามาแสดงความคิดเห็นในวิดีโอโดยจะเลือกเปิดให้ทุกคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นก็ได้ หรือเลือกเฉพาะคนที่รับเป็นเพื่อน หรือจะตั้งค่าไม่ให้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเลย
- การค้นหาและดูเนื้อหาในแอคเคาน์ (Discoverability) : ผู้ปกครองสามารถเข้าไปตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้กับแอคเคาน์ของบุตรหลานได้ หรือกำหนดว่าใครที่สามารถเข้าถึงหรือดูเนื้อหาของบุตรหลานได้ รวมทั้งสามารถตั้งค่าเป็นสาธารณะที่เปิดให้ทุกคนสามารถค้นหาและดูเนื้อหาได้
- วิดีโอที่ชื่นชอบ (Liked videos) : ผู้ปกครองสามารถกำหนดได้ว่า ใครที่จะสามารถดูวิดีโอที่บุตรหลานของคุณเข้าไปกดไลค์ หรือชื่นชอบได้
นายอาร์จุน นารายัน ผู้อำนวยการฝ่าย Trust & Safety ของ TikTok Asia Pacific กล่าวว่า “การเลี้ยงดูบุตรหลานที่เติบโตมากับชีวิตดิจิทัลนั้นเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจ พ่อแม่ผู้ปกครองจำนวนมากรู้สึกราวกับว่า พวกเขาจะต้องวิ่งไล่ตามเทคโนโลยีที่ออกมาใหม่ล่าสุดอยู่เสมอ รวมถึงแพลตฟอร์มต่างๆ ที่คนรุ่นใหม่ใช้ และด้วยเหตุนี้ TikTok จึงมุ่งมั่นทำงานร่วมกับชุมชนและหน่วยงานต่างๆ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนเรื่องความปลอดภัยทางอินเทอร์เตอร์ให้แก่กลุ่มครอบครัว ซึ่งการพัฒนาโหมด Family Pairing ขึ้นมา มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยให้กับสังคมและครอบครัวให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีในการใช้แพลตฟอร์มอย่างปลอดภัย”
ที่ผ่านมา TikTok ได้เพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยบนแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านทีมงาน นโยบาย การควบคุม และแหล่งเรียนรู้ เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองมั่นใจได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเยาวชน โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ ยังได้เพิ่มแนวทางการสนับสนุนด้านพลังบวกในชุมชน ลบเนื้อหาคุกคาม เช่น ข้อความส่อเสียด อีกทั้ง TikTok ยังไม่อนุญาตให้มีการเผยแพร่เนื้อหาที่เกี่ยวเนื่องกับการคุกคามทางเพศ โดยเฉพาะการส่งข้อความที่เป็นส่วนตัว โดยได้พัฒนาความร่วมมือระดับโลกเพื่อป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์จากเด็ก ลบเนื้อ ปิดบัญชี และรายงานไปยังศูนย์เพื่อเด็กหายและถูกฉกฉวยผลประโยชน์แห่งชาติ (National Center for Missing and Exploited Children) เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ทั้งนี้ สำหรับผู้ปกครองที่ต้องการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้งานออนไลน์ TikTok ได้สร้างแหล่งข้อมูลจำนวนมาก รวมถึง Youth Portal, Parents page, educational safety videos และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยจะเดินหน้ามุ่งมั่นการสร้างสรรค์แพลตฟอร์มเพื่อความปลอดภัยของชุมชนเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความปลอดภัยของเยาวชน และจะไม่หยุดพัฒนาแหล่งทรัพยากร เครื่องไม้เครื่องมือ และนโยบาย เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายด้านความปลอดภัยสูงสุดของผู้ใช้ต่อไป