สรุป ราคา iPhone 12 Pro และ 12 Pro Max เครื่อง ศูนย์ไทย พร้อมวางขายอย่างเป็นทางการ 27 พฤศจิกายนนี้ เริ่มต้นที่ 36,900 บาท
ในปีนี้ แอปเปิล เปิดตัว ไอโฟนรุ่นใหม่พร้อมกันเลยทีเดียวถึง 4 รุ่น โดยในรุ่นเริ่มต้นจะเป็น iPhone12 และ 12 mini ส่วน ไอโฟนรุ่นโปร ก็จะมี 2 รุ่นเหมือนเดิมคือ iPhone 12 Pro และ 12 Pro Max ที่จัดเต็มทั้งเรื่องเทคโนโลยีกล้องขั้นแอดวานซ์ และประสิทธิภาพที่ต้องยกให้เป็นไอโฟนที่ดีที่สุด ที่แอปเปิลเคยมีมา
ราคา iPhone 12 Pro และ 12 Pro Max ศูนย์ไทย
iPhone12 Pro
- รุ่นความจุ 128GB ราคา 36,900 บาท
- รุ่นความจุ 256GB ราคา 40,900 บาท
- รุ่นความจุ 512GB ราคา 48,900 บาท
iPhone12 Pro Max
- รุ่นความจุ 128GB ราคา 39,900 บาท
- รุ่นความจุ 256GB ราคา 43,900 บาท
- รุ่นความจุ 512GB ราคา 51,900 บาท
iPhone 12 Pro มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว ส่วน iPhone12 Pro Max มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว ทั้ง 2 รุ่นใช้หน้าจอแสดงผล Super Retina XDR ที่ออกแบบให้มีพื้นที่หน้าจอเพิ่มขึ้นแบบขอบจรดขอบ เหมือนของ ไอโฟน 12 และ ไอโฟน 12 mini โดยที่ iPhone12 Pro Max นั้นมีจอภาพที่ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน iPhone และมีความละเอียดสูงที่สุดเกือบ 3.5 ล้านพิกเซล ตัวเครื่องทำมาจากวัสดุที่ทนทาน เป็นสแตนเลสสตีลเกรดเดียวกับที่ใช้ในทำเครื่องมือศัลยกรรม
หน้าจอยังมีการป้องกันด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Ceramic Shield มีความแข็งแกร่งและทนทานเหนือกระจกทั่วไป เพราะผสมผลึกนาโนเซรามิกลงไปในเนื้อของกระจก ซึ่งใช้ขั้นตอนการตกผลึกที่อุณหภูมิสูง ทำให้ทนทานต่อการตกกระแทกกับพื้นได้ดีขึ้นถึง 4 เท่า มาพร้อมการปกป้องด้วยมาตรฐานระดับ IP68 สามารถทนน้ำที่ระดับความลึกไม่เกิน 6 เมตรในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที และสามารถรับมือกับน้ำที่อาจหกใส่มือถือในชีวิตประจำวันได้
ตัวชิปที่ใช้ ก็จะเป็น A14 Bionic รุ่นล่าสุดที่ทรงพลังมากยิ่งขึ้นกว่ารุ่นก่อน ทางด้านกล้อง มาในคอนเซ็ปต์ Pro Camera มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่ เลนส์ Wide , Ultra Wide และ Telephoto
ใน iPhone 12 Pro จะมาพร้อมกับเลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/1.6 ที่ปรับปรุงเรื่องการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้องแล้วถึง 27% มาพร้อมระบบกันสั่น Optical Image Stabilization เลนส์ตัวที่ 2 เป็นเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.4 เก็บภาพมุมกว้างได้ถึง 120 องศา และเลนส์ตัวสุดท้ายเป็นเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.0 สามารถซูมแบบออปติคอลได้ 4 เท่า และซูมแบบดิจิทัลได้ 10 เท่า
ส่วนกล้องหลังของ iPhone12 Pro Max มีการยกระดับให้ผู้ใช้สัมผัสประสบการณ์การใช้กล้องระดับโปรให้เหนือชั้นขึ้นไปอีก โดยมาพร้อมกับเลนส์ 3 ตัว ในสเปคที่เหนือกว่า โดยเลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/1.6 มาพร้อมระบบกันสั่น Optical Image Stabilization โดยมีเซนเซอร์ที่ขนาดใหญ่ขึ้น 47% และพิกเซลขนาด 1.7μm จึงสามารถถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้นมากถึง 87% เลนส์ตัวที่ 2 เป็นเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.4 เก็บภาพมุมกว้างได้ถึง 120 องศา และเลนส์ตัวสุดท้ายเป็นเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2 สามารถซูมแบบออปติคอลได้ 2.5 เท่า และซูมแบบดิจิทัลได้ 12 เท่า
จุดเด่นของกล้องในรุ่นของ ไอโฟน 12 โปร และ ไอโฟน 12 โปร แม็กซ์ คือ Apple ProRAW ที่เป็นกระบวนการประมวลผลภาพแบบหลายเฟรม และประมวลผลภาพถ่ายด้วยคอมพิวเตอร์ของ Apple ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมสีสัน รายละเอียด และช่วงไดนามิกได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะบน iPhone หรือใช้แอปแต่งรูปต่างๆ
นอกจากนี้ยังถ่ายวิดีโอที่มีคุณภาพสูงที่สุดในสมาร์ทโฟน และเป็นกล้องตัวแรกและอุปกรณ์ตัวเดียวในโลกที่สามารถมอบประสบการณ์ Dolby Vision ตั้งแต่ต้นจนจบด้วยการบันทึกแบบ HDR สูงสุด 60 fps พร้อมด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวสำหรับวิดีโอที่ดียิ่งขึ้นเพื่อการสร้างสรรค์ผลงานระดับภาพยนตร์ นอกจากนี้ยังมีการปรับโทนสีแบบ Dolby Vision แบบสดๆ อย่างต่อเนื่องขณะตัดต่อ ไม่ว่าจะเป็นในแอพรูปภาพหรือ iMovie และจะมีให้ใช้งานใน Final Cut Pro X ส่วน Dolby Vision นั้นก็ใช้ประโยชน์จากจอภาพ Super Retina XDR เพื่อถ่ายทอดคอนทราสต์ในระดับที่น่าทึ่ง ทั้งในขณะบันทึกและเล่นวิดีโอ และผู้ใช้ยังสามารถแชร์วิดีโอด้วย AirPlay ไปยังอุปกรณ์ภายนอกได้สูงสุดถึงระดับ 4K ในแบบ Dolby Vision
สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาเสริมเทคโนโลยีกล้องของ iPhone12 Pro และ 12 Pro Max ก็คือ LiDAR Scanner บบใหม่ ที่ช่วยวัดระยะทางของแสง ให้ข้อมูลความลึกระดับพิกเซลของฉากนั้น เทคโนโลยีนี้จะมอบประสบการณ์ AR ที่ให้ความสมจริงมากยิ่งขึ้น โดยช่วยเรื่องออโตโฟกัสในที่แสงน้อยได้ดีขึ้นถึง 6 เท่า ให้ความแม่นยำยิ่งขึ้น ลดระยะเวลาในการบันทึกภาพและวิดีโอ อีกทั้งยังทำงานร่วมกับ Neural Engine บนชิป A14 Bionic ทำให้ถ่ายภาพบุคคลในโหมดกลางคืนพร้อมเอฟเฟ็กต์โบเก้ที่สวยงามและสมจริง
ตัวเครื่องรองรับการชาร์จแบบไร้สายผ่าน MagSafe ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการชาร์จที่มากขึ้น พร้อมระบบ ecosystem ของอุปกรณ์เสริมที่ยึดติดเข้ากับ iPhone ได้ง่ายๆ โดยที่ชาร์จ MagSafe จะจ่ายไฟสูงสุดที่ 15 วัตต์อย่างมีประสิทธิภาพ
iPhone12 Pro และ iPhone12 Pro Max มีให้เลือก 3 ความจุ ได้แก่ 128GB, 256GB และ 512GB นอกจากนี้ยังมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี คือ สีกราไฟต์ เงิน ทอง และแปซิฟิกบลู โดย เครื่องศูนย์ไทย จะเริ่ม ขาย ในไทยตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 ที่จะถึงนี้ โดยจะเริ่มเปิดให้สั่งจองล่วงหน้ากับ AIS True Dtac รวมถึงตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 20 พฤศจิกายน