รานงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วระบุรายละเอียดว่า Apple Car จะเข้าสู่กระบวนการผลิตในปี 2024 และจะใช้งานเทคโนโลยีแบตเตอรี่ขั้นสูง แต่อย่างไรก็ตาม ทางฝั่ง Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ชื่อดังอ้างอิงถึงรายงานล่าสุดของเขาว่า Apple Car นั้นจะไม่มีการผลิตจนกว่าจะถึงปี 2025 – 2027 ซึ่งตามที่นักวิเคราะห์มองไว้ว่าเป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุด
ในรายงานล่าสุดของ Ming-Chi Kuo เผยว่าหลายคนอาจมองโลกในแง่ดีเกินไปสำหรับ Apple Car นอกจากนี้เขายังชี้ให้เห็นถึงความไม่แน่นอนข้อใหญ่ๆ 3 ข้อเกี่ยวกับ Apple Car ให้ทราบ
- ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกำหนดการเปิดตัว
- ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับซัพพลายเออร์ ข้อกำหนดและสเปค
- ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความสามารถในการแข่งขันของ Apple ในตลาด EV และตลาดรถยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง (self-driving)
เนื่องจากความไม่แน่นอนทั้ง 3 ข้อนี้ ทาง Ming Chi-Kuo จึงไม่แนะนำให้ทุกคนลงทุนหรือซื้อหุ้นที่มีคอนเซ็ปต์คล้ายกับ Apple Car ในเวลานี้
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ยังเคยคาดการณ์ว่า Apple Car จะออกสู่ตลาดในปี 2023 – 2025อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบล่าสุดของเขาพบว่าการพัฒนาในปัจจุบันของ Apple Car นั้นยังไม่ชัดเจน ถึงแม้จะเริ่มการพัฒนาในปีนี้และกำลังดำเนินการตามแผนงาน แต่ก็น่าจะสามารถเปิดตัวได้เร็วสุดในปี 2025 – 2027
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและมาตรฐานที่ Apple อาจจะตั้งเอาไว้สูง จึงมีความเป็นไปได้ว่า Apple Car น่าจะเปิดตัวล่าช้าไปถึงปี 2028 หรือช้ากว่านั้นอีก
Ming-Chi Kuo กล่าวว่า Apple Car จะเปิดตัวในปี2025 – 2027 และจะยังไม่มีการตัดสินใจเบื้องต้นเกี่ยวกับเรื่องซัพพลายเออร์รวมถึงสเปค อย่างเร็วสุดจนถึงปี 2023 – 2025 ดังนั้น Apple Car ณ ตอนนี้จึงยังคงเป็นเพียงแนวคิดและการเก็งกำไรจากตลาด ยังไม่มีซัพพลายเออร์สำหรับ Apple Car จริงๆ เขาจึงมองว่ายังเร็วไปที่จะพูดถึง final spec ของ Apple Car ณ เวลานี้
สุดท้าย Ming-Chi Kuo กล่าวว่า Apple ยังมีความไม่แน่นอนอีกหลายอย่างเรื่องความสามารถในการแข่งขันในตลาดของรถยนต์ EV / ยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง โดยกล่าวในรายงานล่าสุดว่า แม้ว่าตลาดจะสามารถคาดเดาถึงสเปคฮาร์ดแวร์ของ Apple Car ที่เป็นไปได้ แต่กุญแจสู่ความสำเร็จจริงๆ ของ Apple Car ไม่ใช่เรื่องฮาร์ดแวร์ แต่เป็นเรื่องของ Big Data และ AI ซึ่ง ณ ตอนนี้ Apple ยังไม่ได้แสดงให้เห็นถึงข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของเรื่อง Big Data และ AI ในผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เลย
ที่มา : MyFixGuide
