Oppo เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเริ่มต้นจาก Reno 5 ซีรี่ส์ 2 รุ่นอย่าง Reno5 5G และ Reno5 Pro 5G โดย 2 รุ่นนี้นั้นเหมือนกันเกือบหมดทุกอย่าง จุดแตกต่างที่สำคัญคือชิปเซ็ตที่ใช้ โดยจะใช้ต่างกันระหว่างชิป Snapdragon กับ Dimensity และมือถือจะรันบนระบบปฏิบัติการ ColorOS 11 บนพื้นฐานของ Android 11
สมาร์ทโฟน Oppo Reno 5 Pro 5G จะใช้งานชิป MediaTek Dimensity 1000+ มีให้เลือกระหว่าง RAM 8GB | หน่ายความจำ 128GB กับ RAM 12GB | หน่ายความจำ 256GB เปิดให้พรีออเดอร์แล้ว ในราคาเริ่มต้น 3,400 หยวน หรือประมาณ 15,600 บาท และ 3,800 หยวน หรือประมาณ 17,500 บาทสำหรับรุ่นที่สเปคสูงกว่า
ส่วนสมาร์ทโฟน Oppo Reno 5 5G จะใช้งานชิป Snapdragon 765G และมาพร้อมกับ 2 ตัวเลือกเหมือนกัน คือ RAM 8GB | หน่ายความจำ 128GB กับ RAM 12GB | หน่ายความจำ 256GB เปิดให้พรีออเดอร์แล้วเช่นกัน ในราคาเริ่มต้น 2,700 หยวน หรือประมาณ 12,400 บาท และ 3,000 หยวน หรือประมาณ 13,800 บาทสำหรับรุ่นที่สเปคสูงกว่า
ทั้ง 2 รุ่นใช้หน่วยความจำ UFS 2.1 และ RAM LPDDR4x แต่รุ่น Pro จะมี RAM ที่เร็วกว่า (3,733 MHz, 4x 16 bit) เมื่อเทียบกับรุ่นธรรมดา (2,133 MHz, 2x 16 bit)
หน้าจอแสดงผลเป็นอีกหนึ่งความแตกต่างของสมาร์ทโฟนสองรุ่นนี้ โดย Oppo Reno 5 Pro 5G จะมาพร้อมหน้าจอที่ใหญ่กว่าที่ 6.55 นิ้ว ส่วน Oppo Reno 5 5G มากับหน้าจอขนาด 6.43 นิ้ว ทั้งคู่เป็นหน้าจอแบบ OLED ความละเอียดระดับ 1080p+ และ Refresh Rate ที่ 90 Hz และสิ่งที่ต่างกันอีกหนึ่งจุดคือ เรื่องความสว่างของหน้าจอ โดยรุ่น Pro จะสว่างกว่าที่ 500 nits ส่วนรุ่นธรรมดาความสว่างสูงสุดอยู่ที่ 430 nits
กล้องหลังตัวหลัก ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล f/1.7 มาพร้อมระบบกันสั่นแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ EIS มาพร้อมกับเลนส์ Ultrawide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และ เลนส์มาโครกับเลนส์ Portrait Camera ที่ความละเอียดเท่ากันที่ 2 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K ได้ที่ 30fps ทั้ง 2 รุ่น
กล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับหน้าจอแบบ punch-hole มีให้เลือกปลดล็อคด้วยใบหน้า หรือจะเลือกปลดล็อคด้วยการสแกนลายนิ้วมือจากเซ็นเซอร์ที่ซ่อนอยู่ใต้หน้าจอก็ได้
ทั้งสองรุ่น มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 4,300 mAh รองรับระบบชาร์จไว SuperVOOC 2.0 charging สูงสุดที่ 65W สามารถเสียบชาร์จผ่านสายชาร์จได้ท่ี 18W รองรับ reverse charging ที่ 18W เช่นเดียวกัน
สายชาร์จเป็นหัวแบบ USB-C สิ่งที่แตกต่างกันอีกจุด คือ Oppo Reno5 5G มาพร้อมช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร แต่ Oppo Reno5 Pro 5G ไม่มี แต่ก็แลกกับการที่รุ่น Pro ได้สเปคการเชื่อมต่อที่ดีกว่าโดยรองรับ Wi-Fi 6 และ NFC ส่วน Oppo Reno5 5G รองรับ Wi-Fi 5 แต่ไม่มี NFC
ที่สำคัญ ชื่อรุ่นก็บ่งบอกชัดเจนว่าสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นนี้รองรับการเชื่อมต่อ 5G แต่จะมีช่องใส่ซิมช่องแรกจาก 2 ช่องเท่านั้นที่รองรับ 5G และไม่มีช่องเสียบการ์ดหน่วยความจำเพิ่ม
ทาง Oppo ปรับสี Reno Glow ที่ด้านหลังใหม่ กระจกถูกสลักเพื่อสร้างรูปแบบ microscopic pyramids ที่สร้างพื้นผิวให้ป้องกันลายนิ้วมือ และมีการใช้นาโนฟิล์มที่มีดัชนีการหักเหของแสงต่างกันด้วย มีการใช้การเคลือบเรืองแสงกับที่กันกระแทกของโมดุลกล้องและองค์ประกอบอื่นๆ ทำให้เรืองแสงในที่มืด
สามารถสั่งพรีออเดอร์สมาร์ทโฟนรุ่นเริ่มต้นจาก Reno 5 ซีรี่ส์ 2 รุ่นได้ในประเทศจีนจาก JD.com เข้าไปดูรายละเอียดของแต่ละรุ่นได้ดังนี้
ที่มา : GSMARENA
