เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในจีน Xiaomi Mi 11 ส่งท้ายปีกับ สมาร์ทโฟนเรือธงที่จัดเต็มตั้งแต่หน้าจอระดับ Pro Grade 120 Hz ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888 5G รุ่นแรกของโลก RAM เป็นแบบ LPDDR5 หน่วยความจำใช้เป็น UFS 3.1 กล้องหลัง 3 ตัว 108 ล้านพิกเซล มีระบบชาร์จเร็ว 55W พร้อมแถมอะแดปเตอร์ชาร์จให้ (แต่จะไม่เอาก็ได้) ราคา แน่นอนว่าสะท้านวงการอีกแล้ว เริ่มต้นที่ 3999 หยวน หรือประมาณ 18,400 บาท
เสียวหมี่ชิงเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงของปี 2021 กันตั้งแต่ปลายปีนี้ หลังจากหลายวันที่ผ่านมา ปล่อยภาพและข้อมูลออกมายั่วแฟนๆ กันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งครั้งนี้มีความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างด้วยกัน อย่างแรกเลยก็คือ Mi 11 เปิดตัวมารุ่นเดียว ไม่มีแยกรุ่น Pro โดยจะมีแบ่งเป็น 3 ความจุด้วยกันคือ RAM/ROM 8+128GB, 8+256GB และ 12+256GB
ประสิทธิภาพของ Xiaomi Mi 11 ใช้ชิปเซ็ตเป็น Qualcomm Snapdragon 888 5G ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่เปิดตัวใช้ชิปเซ็ตรุ่นใหม่นี้ ตัว RAM นั้นใช้เป็นแบบ LPDDR5 สปีดที่ 6400 Mbps ที่เร็วมากๆ พร้อมหน่วยความจำภายใน แบบ UFS 3.1 ทำให้สามารถจัดการเรื่องความเร็วในการใช้งานต่างๆ ได้อย่างดีเยียม ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานเล่นเกมกราฟฟิคหนักๆ หรือการทำงานพร้อมกันหลายแอป รวมถึงตัวแรมที่มีความเร็วมากๆ ยังช่วยในการถ่ายภาพและวิดีโอ รวมถึงตัดต่อวิดีโอก็ทำได้ไหลลื่นอีกด้วย
เรื่องระบบระบายความร้อน เสียวหมี่ออกแบบโดยใช้แผงระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ร่วมกับแผ่นกราไฟต์อีก 6 ชั้น และ กราฟีนขนาดใหญ่มาช่วยเสริม ทำให้การทำงานที่ประสิทธิภาพสูง สามารถควบคุมอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี
หน้าจอของ Mi 11 เป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจมาก ด้วยจอเป็นแบบ Super AMOLED ความละเอียด 2K ขนาด 6.81 นิ้ว อัตราค่าเปรียบต่างที่ 5,000,000 : 1 ค่าความสว่างมากถึง 1500 nits พร้อมการแสดงสีที่แม่นยำ (เสียวหมี่ออกตัวเลยว่า ดีกว่าจอของ iPhone 12 Pro Max) และค่ารีเฟรชหน้าจอ 120Hz ที่มีค่า Touch Sampling Rate มากถึง 480 Hz เรียกว่า มากสุดในสมาร์ทโฟนในท้องตลาดตอนนี้ และได้คะแนนจาก DisplayMate ในระดับ A+ และกระจกหน้าเป็น Gorilla Glass Victus
กล้องหลังนั้น เป็นแบบ 3 เลนส์ ประกอบด้วย กล้องหลัก 108 ล้านพิกเซล (f/1.8) ทำงานร่วมกับ กล้องเลนส์มุมกว้าง 13 ล้านพิกเซล (f/2.4) และกล้องเลนส์มาโคร 5 ล้านพิกเซล (f/2.4) ประสิทธิภาพของกล้องนั้น สามารถรองรับถ่ายวิดีโอได้ถึง 8K มีระบบป้องกันการสั่นไหว OIS + EIS และมีเทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพและตัดต่อคลิปวิดีโอด้วย AI ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาให้อีกด้วย
ฟีเจอร์อื่นๆ ยังมีลำโพงคู่แบบสเตอริโอ ปรับแต่งเสียงโดย Harman Kardon, ระบบเสียง Hi – Res Audio ทั้งแบบเสียบสายและ Wireless, ระบบสแกนลายนิ้วมือเป็นแบบใต้จอรุ่นใหม่ ที่สแกนได้เร็วขึ้น หรือแม้ว่าจะมือเปียกก็สามารถสแกนได้, รองรับ 2 ซิม ใช้งานเครือข่าย 5G ได้, เชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.2, IR Blaster, NFC
ตัวเครื่องบางเพียงแค่ 8.06 มิลลิเมตร และหนัก 196 กรัม มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี คือ Midnight Gray, Horizon Blue, Frost White แบบเป็นแบบฝาหลังหนัง Vegan สี Lilac Purple กับ Honey Beige นอกจากนี้ยังมีรุ่นพิเศษ Special Edition เป็นสีเฉดฟ้า พร้อมลายเส้นของ Lei Jun
แบตเตอรี่ความจุ 4,600 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 55W Fast Charging และชาร์จไร้สาย 50W โดยมี Reverse Charge 10W ก่อนหน้านี้ เหมือนจะมีกระแสเรื่องที่ทาง Xiaomi บอกก่อนเปิดตัวว่า Mi 11 นั้น จะไม่มีแถมอะแดปเตอร์ ที่ชาร์จ มาให้ในกล่อง ซึ่งในงานเปิดตัว คุณ Lei Jun ซีอีโอของเสียวหมี่ ก็ประกาศว่า ลูกค้าที่ซื้อ Mi 11 นั้น จะได้แถมที่ชาร์จ 55W ราคา 99 หยวน (ประมาณ 450 บาท) โดยที่ลูกค้าจะเลือกรับของแถมนี้ หรือถ้าอยากช่วยรักษ์โลก ก็สามารถไม่รับของแถมนี้ก็ได้
Xiaomi Mi 11 ราคา และการวางจำหน่าย (ที่ประเทศจีน)
ที่ประเทศจีนจะเริ่มทำการเปิดจองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ รับปีใหม่ วันที่ 1 มกราคม 2564 โดยราคาจะแบ่งออกเป็น 3 รุ่นตามความจุ คือ
- รุ่น 8+128GB ราคา 3999 หยวน (ประมาณ 18,400 บาท)
- รุ่น 8+256GB ราคา 4299 หยวน (ประมาณ 19,700 บาท)
- รุ่น 12+256GB ราคา 4699 หยวน (ประมาณ 21,600 บาท
สำหรับรุ่น Global ที่จะจำหน่ายนอกประเทศจีน ยังไม่ีการประกาศในเวลานี้ สำหรับประเทศไทย รอประกาศอย่างทางการอีกครั้งในช่วงต้นปีหน้า
ข้อมูลจาก mi.com