Salesforce x Accenture สานต่อความมุ่งมั่นสนุนธุรกิจในการนำความยั่งยืนมาเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาธุรกิจให้เติบโต เพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคและผู้มีส่วนได้เสียในธุรกิจ (stakeholders) ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงตอบรับต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (United Nations Sustainable Development Goals (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ
การนำเอาผลิตภัณฑ์และบริการอย่าง Sustainability Services ของเอคเซนเชอร์ และ Salesforce Sustainability Cloud บน Salesforce Customer 360 ของเซลส์ฟอร์ซ มาให้ลูกค้าได้ใช้งานควบคู่กัน เป็นการนำความยั่งยืนมาสู่ธุรกิจ โดยผลิตภัณฑ์และบริการจากทั้งสองบริษัทจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างการมองเห็นและเข้าถึงข้อมูลด้าน สิ่งแวดล้อม, สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ของธุรกิจในรูปแบบเรียลไทม์ เพื่อที่ผู้บริหารหรือผู้มีอำนาจตัดสินใจในธุรกิจ จะสามารถติดตาม วัดผล และสร้างนโยบายสนับสนุนสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนในธุรกิจของตน รวมถึงรับทราบปริมาณคาร์บอนที่ธุรกิจสร้างและหาทางจัดการได้อย่างเหมาะสม สร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานและภาพลักษณ์ที่ดีของธุรกิจให้แก่ลูกค้า พร้อมปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบและพัฒนารูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ ในเวลาเดียวกันอีกด้วย
จูลี่ สวีท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอคเซนเชอร์ กล่าวว่า “ในขณะที่อุตสาหกรรมต่างๆได้ปรับเปลี่ยนโฉมและสร้างโมเดลใหม่ๆให้แก่บริษัทของพวกเขาเพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้น สิ่งเหล่านี้เองทำให้พวกเขาได้มีโอกาสในการปลูกฝังความยั่งยืนด้วยความสมัครใจเพื่อขับเคลื่อนงานของลูกค้า เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ขยายความร่วมมือกับเซลส์ฟอร์ซเพื่อช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถสร้างมูลค่าและส่งมอบคุณค่าของธุรกิจพวกเขาคืนสู่สังคมและสิ่งแวดล้อม”
มาร์ก เบนิออฟ ประธานและซีอีโอ เซลส์ฟอร์ซ กล่าวว่า “ด้วยการปลูกฝังความยั่งยืนเข้าไปในแก่นกลางของบริษัทอย่างลึกซึ้ง ธุรกิจของเราจะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น อีกทั้งสังคมของเราจะมีความเท่าเทียมกันและยุติธรรมมากขึ้น และโลกของเราจะได้มีสภาพแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้นไปด้วยในอนาคต เรารู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับเอคเซนเชอร์ ในการช่วยให้ลูกค้าของพวกเราสามารถขับเคลื่อนโครงการด้านความยั่งยืนอันเป็นประโยชน์ต่อทุกคนในสังคม และสร้างมูลค่าทางธุรกิจไปพร้อมกัน”
Salesforce Sustainability Cloud อยู่บนแพลตฟอร์มของ Salesforce Customer 360 ซึ่งมีความน่าเชื่อถือในการใช้งานและให้มุมมอง 360 องศาแก่ลูกค้าเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมขององค์กร เพื่อให้พวกเขาสามารถวัดและจัดการกับคาร์บอนฟุตพรินต์ (carbon footprint) และข้อมูลสภาพภูมิอากาศ (climate) ที่เกิดขึ้นจากบริษัทของตนเองได้อย่างโปร่งใส โดยเอคเซนเชอร์จะเป็นกาวช่วยผสาน Salesforce Sustainability Cloud เข้ากับกลยุทธ์ทางธุรกิจของบริษัทลูกค้า โมเดลการทำงานและเทคโนโลยี ตลอดจนกระบวนการและระบบหลักที่มีรูปแบบเฉพาะตามแต่ละอุตสาหกรรม รวมถึงพัฒนาข้อมูลเชิงลึกด้านความยั่งยืนที่ครอบคลุมทั้งองค์กรและระบบนิเวศของบริษัทตนเอง โดยปลายปีนี้เอคเซนเชอร์และเซลส์ฟอร์ซจะร่วมมือกันขยายแพลตฟอร์มและบริการเพื่อติดตามและวิเคราะห์เมตริก ESG อย่างกว้างขวางมากขึ้น ตั้งแต่เรื่องการจัดการน้ำและของเสีย ไปจนถึงสนับสนุนเรื่องความหลากหลายและการยอมรับความแตกต่าง (diversity & inclusion) ในองค์กรอีกด้วย
ในปัจจุบันความยั่งยืนเป็นสิ่งจำเป็นทางธุรกิจ และผู้บริโภคต่างมีความคาดหวังมากขึ้นว่าหลาย ๆ ธุรกิจจะมีบทบาทเป็นผู้นำในสร้างการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้ภายในเป้าหมาย SDGs ซึ่งครอบคลุมทั้งเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ ความยากจน และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ดังนั้นบริษัทต่างๆที่ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือที่ผสมผสานความยั่งยืนและเทคโนโลยีอย่างลงตัว จึงมีแนวโน้มที่จะเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีผลงานที่แข็งแกร่งที่สุดในอนาคตมากกว่าบริษัทอื่น ๆ ถึง 2.5 เท่าอ้างอิงจากผลการวิจัยของเอคเซนเชอร์