รีวิว Razer Deathadder V2 Pro

รีวิว Razer Deathadder V2 Pro เมาส์เกมมิ่ง ไร้สาย ไม่มีหน่วง ตั้งค่าปุ่มเปลี่ยนโปรไฟล์ได้ในตัว

รีวิว Razer Deathadder V2 Pro เมาส์เกมมิ่ง รุ่นยอดฮิตของทางเรเซอร์ ที่เสริมประสิทธิภาพการใช้งานไร้สาย ด้วยเทคโนโลยี Razer HyperSpeed ที่ให้การใช้งานไม่มีสะดุด แม่นยำเหมือนใช้เมาส์สาย พร้อมฟังค์ชั่นที่เกมเมอร์ชื่นชอบ

สิ่งที่ทำให้ Deathadder เป็นเมาส์เกมมิ่งซีรี่ย์ยอดฮิตขายดีของทาง RAZER ก็คือรูปทรงที่จับได้ถนัดมือตามหลักสรีระศาสตร์ ขนาดกำลังดีกับมือ ซึ่งดีไซน์เป็นทรงนี้มาร่วมเกือบ 20 ปีแล้ว

และเมื่อมาเป็นรุ่น Deathadder V2 Pro ก็มีการอัปเกรดเพิ่มฟังค์ชั่นการใช้งานแบบไร้สายเข้าไป ทำให้สะดวกในการใช้งานมากขึ้นกว่าเดิม โดยที่เมาส์ตัวนี้สามารถเลือกการเชื่อมต่อได้ถึง 3 รูปแบบด้วยกันคือ

  • ใช้งานแบบสาย โดยเสียบกับสาย USB ที่มีให้มาในกล่อง ใช้งานเหมือนเมาส์ทั่วไป
  • เชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth ทำงานร่วมกับทุกอุปกรณ์ที่ใช้ Bluetooth ได้ทันทีด้วยการ Pair
  • เชื่อมต่อผ่าน Dongle 2.4GHz ผ่านเทคโนโลยี Razer HyperSpeed Wireless ที่ทำงานได้แบบไม่มีความหน่วง รับคำสั่งได้เหมือนกับใช้งานแบบเสียบสาย

การเปลี่ยนโหมดทำงานของตัวเมาส์ ทำได้สะดวกและง่าย เพียงแค่สลับสวิทช์ที่ใต้เม้าส์ได้เลย การชาร์จแบตเตอรี่ทำได้ด้วยการเสียบชาร์จด้วยสาย Micro USB ที่มีแถมมาให้ในกล่อง หรือใครจะซื้ออุปกรณ์ Razer Mouse Dock มาไว้ใช้วางเมาส์บนแท่นแล้วชาร์จก็ได้ ซึ่งพลังงานที่ใช้ถือว่าทำได้ดีมาก โดยที่การชาร์จเต็ม 100% จะใช้งานผ่าน Bluetooth ได้นานถึง 120 นาที และใช้ผ่านสัญญาณไร้สาย 2.4GHz ได้ถึง 70 ชั่วโมง

Unbox แกะกล่อง รีวิว Razer Deathadder V2 Pro

รีวิว Razer Deathadder V2 Pro

ตัวแพ็กเกจดีไซน์และสีสันยังเป็นเอกลักษณ์ของทาง RAZER ที่เป็นสีดำด้านตัดกับสีเขียวสะท้อนแสงอย่างดุดัน ลักษณะกล่องทำมาเป็นแจ็กเกตหุ้ม เมื่อแกะออกมาจะเป็นกล่องกระดาษน้ำตาลอยู่ด้านใน เข้ากับยุคสมัยรักษ์โลก ให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้

ในกล่องนอกจากตัวเมาส์ Deathadder V2 Pro แล้ว ยังมีถุงผ้ากำมะหยี่สำหรับเอาไว้ใส่ตัวเมาส์ (หุ้มมาให้เลยในกล่อง) คู่มือการใช้งานเบื้องต้น, สาย Micro USB แบบผ้าถัก Speedflex ความยาว 1.8 เมตร และ หัวแปลง Micro USB เป็น USB-A สำหรับเอาไว้ต่อเพื่อเพิ่มความยาวสาย และใช้ต่อกับอุปกรณ์แท่น Dock

ดีไซน์ของตัวเมาส์ ที่เป็นเอกลักษณ์ ขนาดที่ใหญ่เหมาะมือ แต่ว่าน้ำหนักนั้นถือว่าค่อนข้างเบา พกพาสะดวก โดยเมาส์ออกแบบมาสำหรับคนถนัดมือขวา วัสดุเป็นพลาสติก บริเวณพื้นผิวด้านบนจะเป็นแบบดำด้าน ส่วนตัวบอดี้ด้านล่างจะมีการทำพื้นผิวให้มี texture ช่วยให้จับได้ถนัดมือมากขึ้น

รีวิว Razer Deathadder V2 Pro

ปุ่มกดใช้เป็น Razer Optical Mouse Switch ให้ความแม่นยำในการกดแม่นยำที่ดีมาก และมีความทนทานรองรับการกดได้มากกว่า 70 ล้านครั้ง และกดได้เร็วกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับสวิทช์แบบเมคานิเคิล สว่วนปุ่ม Scroll มีหุ้มยางเพื่อให้สัมผัสติดนิ้ว

ต่อจากปุ่ม Scroll มาจะเป็นปุ่มปรับ Macro เพื่อเพิ่มลดค่าความละเอียด ที่รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี RAZER Focus+ Optical Sensor สามารถรองรับได้มากถึง 20000dpi

และตรงบริเวณโลโก้งูเขียวของ RAZER จะเป็นไฟรองรับ Chroma RGB ที่เปลี่ยนสีได้ตามการตั้งค่าและเกมที่เล่นได้

รีวิว Razer Deathadder V2 Pro

ด้านข้างมีปุ่มอีก 2 ปุ่มบริเวณนิ้วโป้ง เอาไว้สำหรับโปรแกรมและตั้งใช้คำสั่งด่วนได้

พลิกดูด้านล่างของเมาส์ จะมีจุดรองที่ช่วยให้เลื่อนเมาส์ได้ลื่นไหลวัสดุเป็น 100% PTFE มีอยู่ด้วยกัน 3 จุด ทางขวาจะมีปุ่ม Profile ที่กดเลือกเปลี่ยนการตั้งค่าที่เซ็ตเอาไว้ได้ โดยสลับได้ถึง 4 โปรไฟล์ และต่อมาเป็นปุ่มปรับโหมดการเชื่อมต่อ ที่มีให้เลือกเป็น BT (Bluetooth) Off คือปิด เอาไว้ใช้กับการเสียบผ่านสาย USB และ 2.4 เป็นการเชื่อมต่อกับ USB Dongle

ทางซ้ายจะเห็นว่ามีฝาปิดอยู่ แกะออกมาด้านในจะเป็นที่เก็บตัว USB Dongle สำหรับใช้ในโหมด Razer HyperSpeed Wireless มีขนาดที่เล็กมาก ซึ่งเอาไปเสียบกับคอมพิวเตอร์เพื่อเชื่อมต่อทำงานแบบไร้สายได้ทันที

จะเห็นว่ามีขั้วทองแดงเล็กๆ อยู่ ตรงนี้จะเอาไว้สำหรับวางชาร์จไฟกับตัวแท่นชาร์จ Razer Mouse Dock

การใช้งานคู่กับ RAZER Synapse 3

แน่นอนว่า อุปกรณ์เกมมิ่งของเรเซอร์ สามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรม RAZER Synapse 3 และตัว Deathadder V2 Pro ก็ทำได้เต็มรูปแบบ โดยในโปรแกรม เรื่องของแสงสี เราปรับตั้งค่า Chroma RGB ได้ตามต้องการ เลือกได้ทั้งสี รูปแบบการแสดงผล หรือทำงานร่วมเป็นธีมเดียวกันกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ทั้งหมด

ในการปรับตั้งค่า จุดเด่นของรุ่นนี้คือ สามารถปรับตั้งค่าปุ่มกดทั้ง 7 ปุ่มบนเมาส์ได้อย่างอิสระ และยังบันทึกเป็น Profile เก็บไว้ในตัวเมาส์เองได้อีก 4 ชุด โดยเลือกเปลี่ยนจากการกดปุ่มที่ด้านใต้เมาส์ได้โดยไม่ต้องมาปรับในโปรแกรมก็ได้ สะดวกสำหรับเกมเมอร์สายแข่งเกมหรือเล่นเกมหลายๆ ประเภท ที่ตั้งค่าแล้วเปลี่ยนได้ตามที่ต้องการ

รับตั้งค่า Sensity เรากำหนดไว้ได้ 5 สเตจ (ปรับเพิ่มได้) เวลาใช้งานก็กดปุ่ม Macro บนเมาส์ เพื่อเลือกความละเอียดในการเลื่อนเมาส์ได้ตามจังหวะการเล่นเกมที่บางครั้งอาจจะต้องการความแม่นยำในการเล็ง

ล่าสุดสำหรับใครที่ใช้อุปกรณ์ในซีรี่ย์ Razer Hyperspeed Wireless

ทดสอบลองใช้งาน ชอบ/ไม่ชอบ น่าใช้หรือไม่?

Razer Deathadder V2 Pro สำหรับผมที่ลองใช้แล้ว ถือว่าดีมาก ด้วยขนาดตัวเมาส์ที่ใหญ่เต็มมือ ออกแบบมาตามหลัก Ergonomic ทำให้จับใช้นานๆ ก็ไม่เกิดอาการปวดข้อมือ แถมน้ำหนักก็ค่อนข้างเบา แต่มีข้อจำกัดหน่อยตรงที่เป็นแบบที่รองรับกับคนถนัดขวา ถ้าใครถนัดซ้ายผมแนะนำไปรุ่น Naga แทน เพราะออกแบบมาเพื่อคนถนัดซ้ายโดยเฉพาะ

ปุ่มกดต่างๆ มีความแม่นยำ วางตำแหน่งใช้งานได้ดี ปุ่มปรับ Macro และปุ่มนิ้วโป้งพอดีมือมาก เราสามารถปรับเซ็ตเปลี่ยนได้ทุกปุ่มอย่างที่ต้องการ สะดวกทั้งเล่นเกมหรือจะทำงานก็เอา Shortcut ปุ่มมาใส่ไว้ก็ได้

ข้อดีที่โดดเด่นมากๆ ของตัวนี้ก็คือการเชื่อมต่อ ที่เลือกได้ถึง 3 แบบ คือเสียบสาย กับแบบไร้สายผ่าน Bluetooth และ 2.4GHz สำหรับการเล่นเกมนั้น เกมเมอร์ให้ความสำคัญกับความแม่นยำระดับเสี้ยววินาที ซึ่งต้องเป็นเมาส์แบบมีสายถึงจะเอาอยู่ แต่ทีนี้บางคนก็อยากได้โต๊ะคอมที่โล่งๆ ไม่มีสายรุงรัง ตัวเทคโนโลยี Razer HyperSpeed Wireless ทำให้การส่งสัญญาณแบบไร้สายมีอัตราความหน่วง (Latency) ที่ต่ำมาก ชนิดที่ว่าต่างจากการใช้เมาส์แบบเสียบสายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

รีวิว Razer Deathadder V2 Pro

Deathadder V2 Pro จึงเป็นเมาส์ที่ไม่ใช่แค่เอาไว้เล่นเกมอย่างเดียว เพราะยังเอาไว้ใช้งานกับอุปกรณ์ได้หลายอย่าง อย่างผมใช้ต่อ 2.4GHz กับ USB Dongle กับเครื่องคอมพิวเตอร์ PC เพื่อเอาไว้ใช้เล่นเกม ถ้าใช้แล้วแบตเตอรี่ใกล้หมด ก็เสียบสายใช้งานได้ทันที แล้วยังเอาไว้ใช้งานร่วมกับโน้ตบุ๊คอีกเครื่อง เวลาที่ไปทำงานนอกบ้าน ซึ่งสะดวกไม่ต้องเสียบ Dongle ที่โน้ตบุ๊ค เรียกว่าเมาส์ตัวเดียวเอาไว้ทั้งเล่นเกมและทำงานได้เลย

มีข้อที่ควรระวังนิดนึงคือ การเสียบสาย micro USB กับเมาส์ตัวนี้ ต้องใช้สายแบบที่แถมมาในกล่องเท่านั้น เพราะตัวหัวของสายนั้นเล็กกว่าสาย Micro USB ทั่วๆ ไป ดังนั้นอย่าได้เผลอทำหายเชียว

Razer Deathadder V2 Pro มีวางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย ในราคา 3,990 บาท สามารถหาซื้อได้แล้วตามร้านไอทีชั้นนำ และทาง www.razer.com

Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล และจักรยาน