Facebook จึงได้ประกาศให้ทราบถึงอัพเดทผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อสนับสนุนครีเอเตอร์ให้สามารถสร้างธุรกิจบนกลุ่มแอพพลิเคชั่นในเครือของ Facebook ได้สำเร็จ
Facebook สนับสนุนให้ครีเอเตอร์มีเครื่องมือและการสนับสนุนที่จำเป็น เพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถสร้างรายได้และสร้างความสำเร็จได้ต่อไปในอนาคต ไม่ว่าการสร้างและการแชร์เนื้อหาจะเป็นธุรกิจหลัก หนึ่งในแหล่งรายได้หลายๆ ทาง หรือหนทางเดียวที่ช่วยต่อลมหายใจให้กับธุรกิจของพวกเขาในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ผ่านมา
Facebook ได้เปิดเผยว่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562-2563 ครีเอเตอร์เนื้อหาที่มีรายได้เทียบเท่า 10,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือนมีจำนวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 88 และครีเอเตอร์เนื้อหาที่มีรายได้ 1,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือนมีจำนวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 94 ในขณะเดียวกัน ยอดเงินที่ได้รับจากโฆษณาในสตรีมยังเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 55 ในระยะเวลาเดียวกันอีกด้วย
Facebook ได้เพิ่มช่องทางใหม่ๆ เพิ่มเติมให้ครีเอเตอร์สามารถสร้างรายได้บนแพลตฟอร์มได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ด้วยอัพเดทเครื่องมือการสร้างรายได้ดังนี้
- สร้างรายได้จากวิดีโอแบบสั้น ครีเอเตอร์เนื้อหาสามารถแชร์วิดีโอบน Facebook ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบไลฟ์ เนื้อหาสั้นหรือยาว และสามารถทดลองใช้โฆษณาในรูปแบบสติ๊กเกอร์ผ่านสตอรี่ อีกทั้งครีเอเตอร์ผู้สร้างวิดีโอสามารถสร้างรายได้จากวิดีโอทุกประเภท และสามารถเริ่มสร้างรายได้จากการใส่โฆษณาในวิดีโอที่มีความยาว 1 นาทีขึ้นไป
- การเปิดโอกาสในการสร้างรายได้ให้ครีเอเตอร์เนื้อหาจำนวนเพิ่มขึ้น แก้ไขปรับปรุงคุณสมบัติในการใช้โฆษณาในสตรีมเพื่อให้ครีเอเตอร์มากขึ้นสามารถเข้าถึงโปรแกรมได้ รวมถึงขยายการเข้าถึงการใช้โฆษณาในสตรีมไปยังไลฟ์ และเปิดให้ใช้งานฟีเจอร์จัดกิจกรรมออนไลน์แบบสามารถคิดค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วม (paid online events) และการสมัครสมาชิกของแฟนคลับไปยังประเทศอื่นๆ เพิ่มเติม
- การส่งเสริมการสนับสนุนจากแฟนคลับ (subscriptions) อำนวยความสะดวกให้ครีเอเตอร์สามารถเข้าถึงการสนับสนุนจากแฟนคลับได้ง่ายดายยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มการยอมรับจากผู้บริโภคผ่านการแจกดาวฟรีให้กับผู้ชม
การประกาศวันนี้เปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์ผู้สร้างเนื้อหาทุกประเภทสามารถเลือกผสมผสานผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับชุมชมที่พวกเขาสร้างขึ้นมาและเนื้อหาที่พวกเขาแชร์มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรายได้จากโฆษณาผ่านโปรแกรมในสตรีม จากการสนับสนุนของแฟนคลับผ่านการสมัครสมาชิกของแฟนคลับ และงานกิจกรรมออนไลน์แบบมีค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วม (ซึ่งกำลังขยายไปยัง 24 ประเทศเพิ่มเติมในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า รวมถึงประเทศไทย) และผ่านฟีเจอร์ดาวของ Facebook และความร่วมมือแบบมีค่าใช้จ่ายผ่านเนื้อหาที่มีแบรนด์และตัวจัดการการร่วมงานกับแบรนด์
‘น้าเน็ก’ ครีเอเตอร์ยอดนิยมชาวไทยได้กล่าวถึงการประกาศครั้งล่าสุดว่า “สิ่งที่ผมชอบสำหรับ Facebook คือ ทุกอย่างเริ่มจากการสร้างชุมชน นั่นคือเหตุผลที่ผมเลือก Facebook ในการทำคอนเทนต์เป็นที่แรก การที่ Facebook เพิ่มเครื่องมือต่างๆ มากขึ้นก็นับเป็นโอกาสที่เพิ่มมากขึ้นในการสร้างรายได้และสร้างการเติบโตธุรกิจแบบระยะยาวให้กับครีเอเตอร์ด้วย”