รีวิว SAMSUNG Galaxy Buds Pro หูฟังที่ได้รับการพัฒนาดีกว่าเดิมเยอะมาก ระบบเสียงดีกว่าเดิม เป็นหูฟังที่มี 2 Driver และฟังก์ชันการใช้งานที่ง่ายสะดวก กับประสิทธิภาพที่เกิน ราคา 6,990 บาทไปมาก
พบกับ รีวิว หูฟัง SAMSUNG Galaxy buds Pro เป็นหูฟังรุ่นใหม่ล่าสุดจากซัมซุงที่เขาเปิดตัวมาพร้อมกันกับ Smartphone SAMSUNG Galaxy S21 Series 5G จากที่รีวิวตัวสมาร์ทโฟนไปแล้วเราได้บอกไปว่าเดี๋ยวจะรีวิวหูฟังตัวนี้แยกต่างหากอีกเพราะนี่คือหูฟังที่รับการพัฒนาขึ้นเยอะมาก มากกว่าตัวเดิมดีกว่าเดิม จนต้องทำแยกเลยไม่สามารถเอาไปรวมกับการรีวิวสมาร์ทโฟนได้ต้องเน้นให้เขานิดนึงของเขาทำมาดีจริงๆ รอบนี้ถ้าเราย้อนไปตัว Product ของเขาก็คือตัว Galaxy buds ตัวแรก แล้วก็มีเป็นตัว Galaxy buds+ ตัวนี้เป็นรุ่นปรับปรุงหลัง จากนั้นเขาแตกรุ่นไปอีกทางนึงเป็น Galaxy buds Live ตัวที่รูปทรงคล้ายเมล็ดถั่วเป็นอีกตัวนึงไปเลย จับคู่กันกับ Note มาแล้วก็เหมือนเป็นอีกทางนึงไปเลย เป็นอีกดีไซน์นึงของซัมซุง
แต่พอมาเป็นรุ่นนี้ Samsung Galaxy Buds Pro เหมือนกับการเอา Galaxy Bud+ มาอัพเกรดขึ้นไปอีกขั้นนึงให้กลายเป็นรุ่น Pro ราคาสูงขึ้นด้วยจากรุ่นเดิมน่าจะประมาณ 4,999 บาท แต่ตัวนี้จะอยู่ที่ 6,990 บาทราคาสูงขึ้น 2,000 บาทเลยหลายคนที่ลังเลอยู่ว่าจะเปลี่ยนหูฟังตอนนี้อาจจะนั่งชั่งใจอยู่กับราคาที่สูงขึ้นรุ่นนี้มันจะมีอะไรใหม่มากพอที่จะคุ้มค่าที่จะเปลี่ยนหรือเปล่า บอกตรงนี้เลยนี่คือหูฟังที่พัฒนาไปจากรุ่นเดิมดีกว่าเดิมมากๆ ดีกว่ามากกว่าราคาที่เขาเพิ่มขึ้นมาอีก 6,990 บาทเดี๋ยวเรามาดูกันเลยว่าเขาพัฒนาอะไรลงไปบ้าง
ดีไซน์รูปทรงของ Galaxy Buds Pro
รูปทรงของ Galaxy Buds Pro ตัวนี้หน้าตาเขาจะคล้ายๆ กับ Galaxy Bud+ ตัวเดิม แล้วก็มีการเปลี่ยนสีใหม่อย่างตัวนี้เป็นสี Silver ด้านหลังของหูฟังเขาจะเป็นแบบโครเมียมเลย เงาๆ แล้วก็มีสีใหม่ยัง Phantom Violet สีม่วงเอาไว้ไปจับคู่กับ Samsung Galaxy S21 นะสวยเลย แต่สำหรับวันนี้เราเอาสีเงิน Silver มาให้ดูกัน รูปทรงคล้ายเดิมเลยแต่สิ่งที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากๆ คือสิ่งที่อยู่ข้างใน
ข้อดีของ Galaxy Buds Pro เป็นหูฟังที่มี 2 Driver
Galaxy Buds Pro เป็นหูฟังที่มี 2 Driver หูฟัง True Wireless ที่มีอยู่ในท้องตลาดตอนนี้เป็นหูฟังที่มี Driver ข้างละ 1 ตัวเท่านั้น อันนี้มีข้างละ 2 ตัว ในฝั่งหูฟังเดียวกันข้างเดียวกันจะมีทั้ง Driver ที่เป็น Woofer ขนาด 11 มิลลิเมตร แล้วก็มี Driver ที่เป็น Tweeter อีก 6.5 มิลลิเมตร อีก 1 ตัวเรียงต่อกัน เท่ากับว่าถ้าเทียบกับในวงการที่เขาเรียกเป็นเครื่องเสียงอันนี้เหมือนกับลำโพงแยกชิ้น ของเดิมที่เราเคยฟังมาทั้งหมดเป็นลำโพงแบบรวมชิ้นเวลาเราไปติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์ อย่างเช่นลำโพง 6×9 รวมชิ้น 3 ทาง รวมอยู่ในตัวเดียวกัน ลำโพงอันเดียวแสดงเสียงต่ำไปจนถึงความถี่สูง ฉะนั้นลำโพงแยกชิ้นต้องให้เสียงที่ดีกว่าแน่นนอน
หลังจากที่เราได้ลองฟังเพลงดูจาก YouTube เลยแหล่งเสียงที่ธรรมดาที่สุด พอเป็น 2 Driver เสียงที่ได้ทุกย่านเลยไม่ว่าจะเป็นต่ำกลางสูงแยกชิ้นส่วนไม่ปะปนกันมิติดีกว่าเดิมมากน้ำหนักดีกว่าเดิมมาก ปัญหาของ Driver เดียวในหูฟังแบบเล็กๆ แบบนี้เบสก็ลงลึกมากไม่ได้ แหลมก็แหลมแบบฉีกกระจายในขณะเดียวกันถ้าเราจะทำให้เบสกลางแหลมมีน้ำหนักเท่ากันจะมีย่านด้านใดด้านหนึ่งที่เบลอเพราะว่ามันใช้ Driver ตัวเดียวกันในการขับทุกเสียงทุกย่าน
ตัวนี้พอเขาแยกออกมา โอ้โห!! มี Woofer แยกต่างหาก 11 มิลลิเมตร เสียงต่ำดีมากมีมวลมีเบสมาตึบๆ เป็นลูกชัดเจนคมเสียงกลางเสียงแหลมไม่เบลอเลย ไม่ปะปนเพราะว่าเสียงมาจากลำโพงอีกตัวหนึ่ง และแสดงเสียงกลางแหลมดีมากกระจ่างใสแล้วคมชัดดีมากมันทำให้ Galaxy Buds Pro ให้เสียงในการฟังเพลงดีกว่ารุ่นเดิมหลาย Step แค่ Function นี้อันเดียวว 2,000 บาทที่แพงกว่ารุ่นเดิมตัวนี้ก็คุ้มแล้ว
Active noise Cancelling ที่สามารถปรับได้
ยังไม่พอยังมีอีกใน Galaxy Bud+ เขาจะมีฟังก์ชัน Active noise Cancelling ตัดเสียงรบกวนตัวนี้ก็เช่นกันอัพเกรดระบบตัดเสียงรบกวนขึ้นไปอีกขั้น เราเคยบอกไปด้วยนะว่าหูฟังซัมซุงไร้สายหลายรุ่นทำตัดเสียงรบกวนได้ไม่ค่อยเงียบเท่าไหร่จากใจจริง ไม่ได้ตำหนิเขานะเขาก็ทำได้เท่านั้นจริงๆ แต่ตัวนี้พูดได้เต็มปากเต็มคำเลยเงียบกว่าระดับแชมป์ที่เคยมีในท้องตลาด สู้กับระดับแชมป์ได้เลย เงียบแบบโลกมืดเงียบสงัดพูดได้เลย
เราใส่หูฟังเข้าไปแล้วเราก็เปิด Galaxy wearable นะแล้วเราก็เปิดตัดเสียงรบกวนภายนอก เงียบแบบดีจริง ข้อดีของการมี Noise Cancelling ที่เงียบขนาดนี้มันคือเราสามารถตัดเสียงรบกวนได้ดีจริงถ้าเราต้องการความสงบสงบมากๆ แล้วที่สำคัญคือเขาไม่ใช่แค่ตัดอย่างรุนแรงอย่างเดียวนะเขาปรับได้ ด้วย
สามารถปรับระดับ Noise Cancelling ได้ 2 ระดับ โคตรดีมากๆ อยากปรับขึ้นมานิดนึงบางคนรู้สึกว่าพอโลกเงียบมากๆ มันอึดอัดเสียงน้ำไหลเสียงกลืนน้ำไหลเสียงพูดตัวเองมันก้องอยู่ในหัวมันวนลูปเข้ามาในหัวเราเปิดปรับระดับเสียงต่ำแล้วยังพอได้ยินเสียงภายนอกเล็กๆ นิดหน่อย มีใครเดินผ่านไปผ่านมาเรายังพอได้ยิน หรืออยู่ถ้าเราอยากจะได้เงียบมากๆ ก็ปรับเป็นศูนย์ซึ่งมันปรับได้มันดีมาก เป็น Active noise Cancelling ที่ปรับได้นี่คือข้อดีของเขาเลย
Ambient Sound Mode
ก็คือหมดรับฟังเสียงรอบข้างรอบนี้ซัมซุงทำมาดีมาก สามารถปรับระดับของการรับฟังเสียงรอบข้างได้ 4 ระดับ ไม่ใช่แค่เปิดรับเสียงเข้ามาอย่างเดียวนะขยายเสียงให้ด้วย ใช้ไมโครโฟนที่เป็นตัวทำ Noise Cancelling นี่แหละรับเสียงแล้วขยายเสียงให้เราได้ยินชัดมากขึ้นเท่ากับว่า เวลาเราใช้หูฟังตัวนี้ ไม่ต้องถอดหูฟังออกจากหูเลย อยากจะคุยกับใครก็เปิดเสียงรอบข้างแล้ว ก็สามารถปรับระดับเสียงรอบข้างได้จะเอาแบบดังมากน้อยคนอยู่ไกลๆ พูดก็พูดได้ยิน เสียงเตือนอะไรนิดนึงเนี่ยเข้ามาก็ได้ยิน
เปิดดังสุดดังขึ้นกว่าเดิม 4 เท่า คือ Boost เสียงรอบข้างดังกว่าเดิม 4 เท่า เอาไว้ใช้อะไรรู้มั้ย ฮี่ๆ เวลาเราอยากจะฟังใครนินทาคน หรือว่าเขานินทาเราหรือเปล่า เราใส่หูฟังอันนี้แล้วไปนั่งแถวๆ นั้นรับรองได้ยินหมดเลยคนนั้นคุยกัน คนจับกลุ่มนินทาคนอื่นเราจะนั่งหันหลังนะแล้วแอบฟังก็ได้ยินเสียงชัดกว่าเดิม 4 เท่าสุดนะไม่มีใครนินทาเราได้แล้วต่อจากนี้ไป
Ambient Sound กับ Active noise Cancelling แต่เดิมหูฟังตัวไหนก็ช่างในท้องตลาดเราต้องมานั้งเลือกเปิดปิด อยากต้องการฟังเงียบก็ต้องเปิด Noise Cancelling ต้อง Ambient Sound แตะทีนึง ซัมซุงคิดไปไกลกว่านั้นใน Galaxy Buds Pro ตัวนี้ Ambient Sound กับ Noise Cancelling เราไม่ต้องไปเลือกเปิดปิด เราสั่งเปิดปิดได้จากแอปด้วยการแตะได้หมดถ้าเราเปิดเป็นฟังก์ชันตรวจจับเสียง
เขาจะทำงานโดยอัตโนมัติ สมมุติว่าเราเปิด Noise Cancelling อยู่เราเดินอยู่แล้วมีใครต้องการจะเดินมาพูดกับเรา เราอ้าปากพูดแบบฟังตัวนี้จะจำเสียงเราได้ พอเราอ้าปากพูดเท่านั้นแหละเพลงที่เปิดอยู่จะดรอป Volume ลง Noise Cancelling ที่เปิดอยู่จะเปลี่ยนเป็น Ambient Mode ขยายเสียงให้เราพูดและคุยกับคนเหล่านั้นได้โดยอัตโนมัติเมื่อเราเอ่ยปากพูดเมื่อเราหยุดพูดเป็นเวลา 10 วินาที เขาก็จะกลับเข้าสู่โหมด Active noise Cancelling อีกครั้งหนึ่งไม่ต้องแตะอะไรเลยอ่ะ สุดยอดอันนี้ถือว่าซัมซุงไม่ใช่แค่ไล่ทันคู่แข่งนะคือแบบแซงไปอีกขั้นนึงแล้วทิ้งไปเรียกว่าปาดหน้าแซงโค้งล้มขวางสุดยอดมากๆ ไม่ต้องแตะต้องสั่งอะไรเลยทำงานอัตโนมัติ
ฟังก์ชันบล๊อคการแตะ
ฟังก์ชันที่อยากจะกราบคนทำเลยก็ว่าได้การบล๊อคการแตะนับถือมาก หูฟังตัวเล็กๆ แบบนี้มีฟังชั่นแตะเพื่อสั่งงานได้เวลารับสายบางทีเราก็ใส่แล้วมันอาจไม่ตรงเราขยับนิดหน่อยมันก็อาจจะมือลั่นไปโดนโดยไม่ได้ตั้งใจ นี้สิ่งที่น่ารำคาญ หูฟังหลายตัวที่มันเล็กๆ มากเราไม่ชอบเลยเพราะว่าเวลาขยับนิดหน่อยมันลั่นไปโดนคำสั่งและเอาไปเล่นเพลงเล่นอะไรหรือไม่ดีไปเปลี่ยนโหมดให้เราอันนี้นะเปิดปุ่มล็อคการแตะนับถือคนทำดีจริงที่สุดยอดไปเลย ที่นี้นะเราอยากจะขยับอยากจะแตะอะไรก็สามารถทำได้สบายมาก
แบตเตอรี่
ถ้าเราเปิดโหมด Active noise Cancelling จะใช้งานได้ 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จแบตเต็ม 100% แล้วก็กลับมาชาร์จที่ตลับรวมแล้วทั้งหมดจะได้ 18 ชั่วโมงแต่ถ้า เราปิด Active noise Cancelling เราจะใช้งานได้ 8 ชั่วโมงที่ตัวหูฟังแล้วก็รวมทั้งตลับจะได้นานถึง 28 ชั่วโมง
Microphone
มี Microphone 3 ตัว 2 ตัวอยู่ภายนอกเป็นตัวที่ช่วยทำ Beamforming เวลาเราจะพูดคุยโทรศัพท์ รุ่นนี้ให้เสียงโทรศัพท์ที่ชัดเจนมากเพราะว่า Microphone ตัวนึงที่เป็นตัวรับเสียงภายนอกนี้เป็น Microphone แบบ High Signal Reatio ก็คือมีความไวของ Microphone สูงมากๆ รับเสียงภายนอกได้เยอะมากแล้วแยกแยะสิ่งภายนอกได้แล้วก็อีกตัวนึงทำ Beamforming มารับเสียงเราแล้วเอาไปหักล้างกันเสียงเรา ว่าอันไหนคือเสียงเรา อันไหนคือเสียงจากภายนอกแล้วค่อยทำให้เสียงนั้นมันเคลียร์มันชัดมากยิ่งขึ้นเอาไว้ใช้ในการพูดคุยโทรศัพท์ หลังจากที่เราได้ทดลองใช้ในการพูดคุยโทรศัพท์ด้านนอกอาคาร ข้างถนนแล้ว เสียงดังชัดเจนดีใช้ได้เลย
ฟังก์ชันการเชื่อมต่อหูฟังแบบไม่สะดุด
สำหรับคนที่ใช้งาน Galaxy Devices หลายๆ อุปกรณ์ อย่างเช่นถ้าเราใช้ Samsung Galaxy S21 Ultr 5G ก็มี Samsung Galaxy Tab A7 ด้วยมีแท็บเล็ตด้วย แล้วใช้คู่กับ Galaxy Buds Pro ตัวนี้ เขาจะมีฟังก์ชันที่เราสามารถสลับการทำงานการเชื่อมต่อทั้ง 2 อุปกรณ์ไปมาได้ มีข้อแม้ว่าอุปกรณ์ที่จะใช้ทั้ง 2 อันนั้นจะต้องเป็น OneUi 3.1 ก่อน ถ้าเป็น Galaxy Tab อาจจะต้องรออัพเดทสักหน่อย
พอเป็น OneUi 3.1 ทั้งคู่แล้วคราวนี้ Connect ที่บลูทูธของหูฟังตัวนี้ไว้ทั้งสองอุปกรณ์ใช่ไหม เวลาเราสลับการใช้งานเราอาจจะเปิดไฟล์ที่มือถือก่อนแล้วก็ข้ามมาสลับที่แท็บเล็ตเขาจะสลับกัน Connect มาที่แท็บเล็ตให้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องไปเลือกเชื่อมต่ออีกทีนึงไม่ต้องทำอะไรเลย เขาสลับไปมาไปมาไปกลับแบบนี้ให้เลยทำให้เราใช้งานได้สะดวกมากๆ ฟังก์ชันนี้สามารถเปิดได้ในแอป Galaxy Wearable ในส่วนของที่เป็นขั้นสูงแล้วก็เลือกการเชื่อมต่อหูฟังแบบไม่สะดุด ก็จะเชื่อมต่ออุปกรณ์แบบนี้ได้เลย
เสียง 360 องศา
อยู่ในเมนูใกล้ๆ กันนั่นก็คือเสียง 360 องศา เป็นฟังก์ชันที่จะสร้างระบบเสียงรอบทิศทางให้กับเราถ้าเราไปฟังไฟล์ที่เป็น Dolby 360 องศา เสียงมันก็จะวิ่งมารอบทิศทางเลย แต่ถ้าเราฟัง YouTube ธรรมดาเปิดเป็นไฟล์เป็นธรรมดา เขาจะยึดตำแหน่งจากตัวมือถือที่เราเปิดอยู่ถ้าเราหันข้างคือถ้าเราหันไปทางไหนเสียงมันจะมาจากตรงที่เราเปิดไว้ตลอดนะเสียง 360 องศาซึ่งก็ให้ Effect ที่แปลกดี
และที่กล่าวมาหมดก็อยู่ใน SAMSUNG Galaxy Buds Pro กับราคาที่เพิ่มขึ้นด้วย 6,990 บาท เราบอกก่อนแล้วตั้งแต่ต้นว่านี่คือการเพิ่มราคาแต่เพิ่มฟีเจอร์ขึ้นมามากกว่าราคาที่แพงขึ้นแค่ 2 Driver ก็คุ้มแล้ว มิติเสียงกับพลังเสียงเราได้รับเบสแบบมาตึบๆ เลยแล้วเบสแบบกลางแหลมนี่กระจ่างใสดีมากถือเป็นหูฟังที่ฟังเพลงได้ดีมาก Noise Cancelling กินขาดไม่แพ้ใครในท้องตลาดระบบเสียง Microphone ดี Ambient Sound ปรับได้ 4 ระดับฟังคนนินทากันได้ด้วยสุดยอด รวมไปถึงฟังก์ชันต่างๆ ที่มีอยู่ในนี้ไม่ว่าจะเป็นระบบสลับเสียง Noise Cancelling กับ Ambient Sound แบบ Auto ซึ่งอันนี้ถือว่าชนะเลิศเลย หูฟังที่ดีกว่าเดิมมากๆ ใครที่ใช้รุ่นไหนอยู่หรือไม่เคยใช้ก็ตามแต่มาจับรุ่นนี้ได้เลยรับรองว่าดี
ข้อมูลเพิ่มเติม SAMSUNG