Xiaomi ปรับเปลี่ยนอัตลักษณ์ของแบรนด์ และ โลโก้ใหม่ ด้วยคอนเซ์ปต์ “Alive” พร้อมก้าวเข้าสู่ตลาดพรีเมี่ยม และการรับรู้ของแบรนด์ในทศวรรษหน้า
อัตลักษณ์ และ โลโก้ใหม่ ของ Xiaomi ดีไซน์โดย Kenya Hara
โลโก้ใหม่ของเสียวหมี่ออกแบบโดย ศาสตราจารย์เคนยะ ฮาระ (Kenya HARA) ประจำมหาวิทยาลัยศิลปะมุซาชิโนะและประธานศูนย์นิปปอนดีไซน์เซ็นเตอร์ (NDC) โดยได้เปลี่ยนบริเวณมุมของโลโก้เดิมของเสียวหมี่ที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสให้ดูนุ่มนวลขึ้น มีส่วนโค้งที่มีความมนมากขึ้นเพื่อเสริมสุนทรียะ นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ฮาระยังออกแบบตัวพิมพ์ “MI” ให้ด้วย อย่างไรก็ตามสีประจำบริษัทยังคงเป็นสีส้มเพื่อสานต่อความรู้สึกเยาว์วัยและมีชีวิตชีวาของแบรนด์เสียวหมี่ โดยมีสีรองสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับสูงคือสีดำและสีเงิน
ศาสตราจารย์เคนยะ ฮาระออกแบบตราสัญลักษณ์ใหม่ของเสียวหมี่โดยใช้สูตรทางคณิตศาสตร์ “Superellipse” ถึงแม้ว่าจะมีรูปแบบนับอนันต์ที่อยู่ตรงกลางระหว่างรูปสี่เหลี่ยมและรูปวงกลม แต่ศาสตราจารย์ฮาระก็ได้ออกแบบตราสัญลักษณ์ที่ดูลงตัวและเต็มไปด้วยพลังจากการปรับแต่งค่าตัวแปรในสูตรดังกล่าว โดยการตั้งค่า n=3 ก่อให้เกิดรูปทรงที่ลงตัวที่สุดระหว่างรูปวงกลมกับรูปสี่เหลี่ยมเพื่อเน้นย้ำแนวคิดหลัก “Alive” เมื่อเปรียบเทียบกับวัตถุที่มีมุมฉาก วงกลมจะดูเป็นรูปทรงที่ลื่นไหลกว่า สอดรับกับความยืดหยุ่นของแบรนด์เสียวหมี่ที่ไม่เคยหยุดยั้งและพร้อมรุดไปข้างหน้าได้เป็นอย่างดี
ด้วยแนวคิด “Alive” ศจ.เคนยะ เชื่อว่านวัตกรรมทางเทคโนโลยีของเสียวหมี่จะช่วยอำนวยความสะดวก ควบคุมสิ่งต่างๆ ในชีวิตได้ถึงขีดสุด และสอดรับต่อการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมต่างๆ รอบตัว
ในแง่รูปลักษณ์ แนวคิด “Alive” สะท้อนถึงปรัชญาของเสียวหมี่และช่วยให้แบรนด์มีภาพลักษณ์เชื่อมโยงกับวงจรชีวิต ผู้คนมีชีวิต หรือกล่าวได้ว่า เทคโนโลยีสร้างโดยมนุษย์ เทคโนโลยีจึงมีชีวิตเช่นเดียวกัน และเทคโนโลยีจะเติมเต็มความต้องการต่างๆ ของชีวิตตลอดไป
การจัดวางโลโก้อย่างมีพลัง ทำให้แลดูมีชีวิต
Xiaomi จะใช้ โลโก้ใหม่ เป็นครั้งแรก โดยจะท้าทายกฎดั้งเดิมของการใช้โลโก้เดิมที่มีมาในอดีต กล่าวคือ โลโก้ใหม่ของเสียวหมี่จะไม่วางที่มุมใดมุมหนึ่งของผลิตภัณฑ์ที่มักจะมีรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส แต่เสียวหมี่จะปรับเปลี่ยนสัญลักษณ์ไปตามผลิตภัณฑ์และจัดวางในจุดที่เหมาะสมที่สุด โลโก้ใหม่ของเสียวหมี่จึงเป็นตราสัญลักษณ์ที่มีพลัง สอดรับกับหลักการคิดทางปรัชญา และดูมีชีวิตชีวา
แนวคิด Alive สะท้อนถึงวิธีการคิดและการตอบสนองต่อจุดเปลี่ยนต่างๆ ในยุคของการเชื่อมต่อทุกสิ่งอย่างอัจฉริยะ (Intelligent Interconnectivity) เสียวหมี่ในฐานะบริษัทด้านเทคโนโลยียังคงมุ่งมั่นนำเสนอนวัตกรรมทั่วทุกมุมโลก และการเติบโตไปพร้อมกับผู้ใช้ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นของแบรนด์ เสียวหมี่มีพันธมิตรเพิ่มขึ้นมากมายในขณะที่แบรนด์กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน เสียวหมี่กำลังก้าวเข้าสู่ทศวรรษใหม่พร้อมกับการก้าวเข้าสู่ตลาดระดับต่างๆ ทั้งระดับลูกค้าทั่วไปจนถึงระดับพรีเมี่ยม ผ่านการนำเสนอสิ่งต่างๆ ทั้งเทคโนโลยีและทางศิลปะ นอกจากนี้ยังใช้ช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์เพื่อเข้าถึงผู้คนทั่วโลก และอัตลักษณ์แบรนด์ใหม่ของเสียวหมี่จะช่วยขับดันแบรนด์ไปสู่ทศวรรษใหม่ที่จะมาถึง
ข้อมูลจาก : mi.com
