adidas นำเสนอวิวัฒนาการแห่งแนวคิดของแบรนด์ที่สืบทอดมาอย่างยาวนานผ่าน ซีรีส์ภาพยนตร์ “Impossible Is Nothing” เรื่องราวจากชีวิตจริงที่เน้นย้ำการมองหาทุกความเป็นไปได้และมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับการมองโลกในแง่ดี ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของอาดิดาสในการใช้พลังแห่งกีฬาในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับทุกชีวิต
ซีรีส์ภาพยนตร์ดังกล่าวถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของสารคดีแบบโฮมฟุตเทจที่นำเสนอเรื่องราวอีกด้านที่เกิดขึ้นในอดีตที่หลายคนอาจไม่เคยเห็นมาก่อน ผ่านการบรรยายเล่าเรื่องโดยเพื่อนๆ ของนักกีฬา ประกอบกับภาพวิดีโอหลายๆ ฟุตเทจจากหลากหลายแหล่งที่ถูกนำมาประกอบขึ้นเพื่อนำมาเผยแพร่ใหม่อีกครั้ง
สำหรับอาดิดาสแล้ว Impossible Is Nothing คือทัศนคติในการมองโลกใบนี้ที่เต็มไปด้วยความเป็นไปได้ที่หลาย คนอาจมองว่าเป็นไปไม่ได้ ซึ่งแนวคิดที่ว่านี้ได้ถูกสืบทอดโดยชุมชนต่างๆ และเหล่าพันธมิตรของแบรนด์
ภายในซีรีส์ภาพยนตร์นั้นได้มีการนำเสนอเรื่องราวในวงการกีฬาและวัฒนธรรมต่างๆ ซึ่งมีช่วงเวลาในอดีตของแต่ละคนที่อาจไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อนที่แสดงให้เห็นว่า การมองโลกในแง่ดีและการลงมือทำสิ่งต่างๆ ได้มีผลต่อชีวิตของพวกเขาอย่างไรบ้าง นอกจากนี้ ซีรีส์ภาพยนตร์ชุดนี้ยังถือเป็นการยกย่องเหล่าผู้บุกเบิกทุกคนที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก ซึ่งมุ่งไปสู่อนาคตที่พวกเขาจินตนาการเอาไว้ด้วยการมองเห็นถึงทุกความเป็นไปได้และลงมือทำจนสำเร็จมาแล้ว และที่สำคัญที่สุดก็คือ ซีรีส์ภาพยนตร์ชุดนี้ยังใช้การมองโลกในแง่ดีเป็นเครื่องมือในการถ่ายทอดแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้มองเห็นถึงความสามารถและศักยภาพของตัวเองเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จในที่สุด
อาทิ เรื่องราวของ บียอนเซ่ ศิลปินอาร์แอนด์บีหญิงชื่อดัง มองเห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะชวนให้พวกเราทุกคนลุกขึ้นมาค้นหาเสียงของตัวเอง ที่จะใช้เวทีของเธอเฉลิมฉลองความแตกต่างของพวกเราทุกคน
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นักฟุตบอลทีมชาติอียิปต์ มองเห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนแปลงความคิด แต่ยังคงไว้ซึ่งตัวตนของเขาเอง เขาเป็นตัวของตัวเองในการแข่งขันเพื่อให้ทุกคนได้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะมีความแตกต่างในแบบของตัวเอง
รวมถึงเรื่องราวหลายๆ ตอนที่มีการนำเสนอแนวคิดที่เปรียบเสมือนหัวใจสำคัญของอาดิดาส ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มความเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่คอยขับเคลื่อนให้เราผลิตรองเท้าวิ่งระยะไกลที่เร็วที่สุด อาดิออส โปร (adizero Adios Pro)
ไบรอัน เกรวี สมาชิกผู้บริหารระดับสูงของอาดิดาส กล่าวว่า “คำว่า Impossible Is Nothing นั้นเป็นมากกว่าชื่อแคมเปญทั่วไป เพราะนี่คือทัศนคติของพวกเรา การมองหาความเป็นไปได้ด้วยการมองโลกในแง่ดีคือกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายที่เราต้องการใช้พลังแห่งกีฬาในการเปลี่ยนแปลงทุกชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งทัศนคตินี้ก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับพวกเราในทุกๆ วันในการสร้างสรรค์อนาคตที่สดใส ดังนั้นการมองเห็นทุกความเป็นไปได้จึงเป็นทัศนคติสำหรับทุกคนที่ต้องการสร้างอนาคตที่ดีกว่าเพื่อพวกเราทุกคน”
เพื่อเป็นการสานต่อแนวคิดในการมองหาทุกความเป็นไปได้ด้วยการมองโลกในแง่ดี อาดิดาสได้วางกลยุทธ์ 3 ด้าน ได้แก่ Sustainability Credibility และ Inclusivity ที่จะเน้นการสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าเพื่อวงการกีฬา
- การมองหาความเป็นไปได้ในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน – อาดิดาสให้คำมั่นสัญญาว่าจะหยุดการใช้วัสดุโพลีเอสเตอร์ เหลือเพียงแค่วัสดุโพลีเอสเตอร์ที่มาจากการรีไซเคิลในการผลิตสินค้าทุกชิ้นภายในปี 2024
- การมองหาความเป็นไปได้ในการรวมทุกคนในวงการกีฬาเป็นหนึ่งเดียวกัน – อาดิดาสวางแผนที่จะขยายการสัญญาการสนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปและการแข่งขันยูฟาแชมเปียนส์ลีกหญิง
- การมองหาความเป็นไปได้ในการพัฒนานวัตกรรมที่ไม่เคยมีมาก่อนและพัฒนาให้ก้าวล้ำยิ่งขึ้น – อาดิดาสได้คิดค้นพื้นรองเท้าที่ขึ้นแบบพิมพ์ 3 มิติ ในชื่อว่า 4DFWD รวมถึงสินค้าที่ร่วมออกสร้างสรรค์กับ Allbirds ที่กำลังจะวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้
ซีรีส์ภาพยนตร์ Impossible Is Nothing พร้อมรับชมที่ https://youtu.be/DtKJB-f8iQU ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2564 เป็นต้นไป โดยจะมีการนำเสนอเรื่องราวใหม่ๆ ตลอดช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนนี้