หลายคนอาจจะสงสัยและคาใจ ว่าทำไม แอปสนทนาของ Apple อย่าง iMessage ที่มีใช้งานมานานร่วม 10 ปี จนถึงตอนนี้แล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่า จะใช้งานข้ามไปคุยกับผู้ใช้ Android ได้เลย
ในระหว่างการพิจารณาคดีระหว่าง Epic และ Apple วันนี้ ทนายความฝั่ง Epic กล่าวว่า Apple นั้นพยายามผูกขาดโดยล็อคและรั้งผู้ใช้งานของพวกเขาเอาไว้ให้ใช้งานเฉพาะระบบ ecosystem ของ Apple เท่านั้น ไม่ให้ผู้ใช้งานย้ายไปใช้งานแพลตฟอร์มอื่นได้ง่ายๆ โดยการอ้างถึงข้อความที่เป็นการแสดงความคิดเห็นของ Eddy Cue รองประธานอาวุโสฝ่ายซอร์ฟแวร์อินเทอร์เน็ตและบริการ , Craig Federighi หัวหน้าฝ่ายซอร์ฟแวร์และ Phil Schiller หัวหน้าฝ่ายการตลาดของ Apple เพื่อใช้ซัพพอร์ตคำกล่าวอ้างในข้างต้น
นอกจากนี้ยังมีการนำอีเมล์ปี 2016 ของอดีตพนักงาน Apple ที่ไม่ระบุชื่อที่ทำการแสดงความคิดเห็นเอาไว้ว่า สิ่งที่ทำให้ออกจากจักรวาลของ Apple ยากที่สุด คือ iMessage โดย iMessage เป็นการล็อคผู้ใช้งานเอาไว้กับ Apple อย่างจริงจัง พร้อมยกข้อความของ Phil Schiller ที่ตอบกลับว่า การพัฒนา iMessage ไปยัง Android น่าจะมีผลเสียมากกว่าผลดีกับ Apple โดยที่ Apple อาจเสียฐานผู้ใช้งานในระบบ ecosystem ที่สร้างขึ้นเพื่อไปใช้ระบบปฏิบัติการอื่น
Craig Federighi มองว่า iMessageบน Android น่าจะเข้ามาขจัดอุปสรรคสำหรับครอบครัวที่ใช้ iPhone ที่มีลูกๆ ใช้งานมือถือ Android หรือแปลตรงๆ ก็คือ หากพ่อแม่ใช้ iPhone แล้ว การจะใช้งานระบบเดียวกันทั้งครอบครัว พ่อแม่จำเป็นต้องซื้อ iPhone ให้ลูกใช้งานอยู่ดี
ในช่วงหลายปีมานี้ มีผู้พัฒนาแอป third-party จำนวนมากที่พยายามจะนำแอป iMessage มาสู่ฝั่ง แอนดรอยด์ ให้ได้ แต่แอปเหล่านั้นกลับไม่น่าเชื่อถือและไม่ได้ใช้งานได้อย่างสะดวกเลยสักตัว
ในเอกสารที่ยื่นฟ้อง Apple ของ Epic มีการอ้างอิงถึง Eddy Cue ว่า Apple ตัดสินใจจะไม่พัฒนา iMessage เวอร์ชันสำหรับ Android ในช่วงต้นปี 2013 พร้อมหยิบยกคำพูดที่ Eddy Cue ยอมรับว่า Apple นั้นสามารถสร้าง iMessage เวอร์ชันบน Android ที่ทำงานร่วมกับ iOS ได้ เพื่อให้ผู้ใช้ 2 แพลตฟอร์มสามารถแลกส่งข้อความระหว่างกันได้อย่างราบรื่น
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เคยมีใครเคยพบเห็น Apple พัฒนา iMessage เวอร์ชัน แอนดรอยด์ ขึ้นมาเลยตั้งแต่เปิดตัวใน iOS 5 ในปี 2011
นอกจากประเด็นเรื่อง iMessage แล้ว Epic ยังมีการกล่าวอ้างถึงบริการตัวอื่นของ Apple ที่มีส่วนร่วมในการผูกขาดและล็อคผู้ใช้เอาไว้กับระบบ ecosystem ของ Apple เช่น FaceTime ที่มีเฉพาะบนอุปกรณ์ iOS Device เท่านั้น ยังไม่เคยมีคนพบเห็น FaceTime ของ Apple บนอุปกรณ์ยี่ห้ออื่นเลย
Epic พยายามอธิบายและชี้แจงว่า Apple นั้นผูกขาดด้วยระบบ ecosystem ของตัวเอง ทำให้ลอยลำและไร้คู่แข่ง อีกทั้งยังมีอำนาจเบ็ดเสร็จกำหนดสิ่งต่างๆ ในตลาดแอปของตัวเองอย่างเช่น การกำหนดค่าธรรมเนียมแอป เป็นต้น
ความเห็นจากทีมงาน ล้ำหน้าฯ
เรื่องการสร้าง Ecosystem ของทาง Apple นั้น ต้องการที่จะควบคุมได้ทุกอย่าง เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด การที่ไม่ทำให้รองรับเพื่อใช้งานร่วมกับระบบแอนดรอยด์ จนกลายเป็นประเด็นมาให้ทาง Epic ที่มีคดีความกับ Apple หยิบยกเพื่อมาใช้เป็นข้อมูลประกอบการต่อสู้คดี
ว่าแต่ มาถึงปัจจุบันตอนนี้ เราอยากได้ iMessage ที่คุยข้ามกับทางผู้ใช้แอนดรอยด์หรือเปล่า โดยที่ตอนนี้เรามีตัวเลือกในการสนทนาผ่านแอพต่างๆ มากมายหลายแพลตฟอร์มอยู่แล้ว
ที่มา : The Verge
