มาแล้ว! Apple ปล่อยอัปเดต iOS 14.5 สำหรับ iPhone และ iPad เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้มากมาย อาทิ ปลดล็อค iPhone ด้วย Apple Watch, Siri, อิโมจิใหม่, Apple Podcasts และการควบคุมความเป็นส่วนตัวใหม่
วันนี้ (27 เมษายน 2564) ผู้ใช้งาน iPhone และ iPad สามารถอัปเดตซอฟต์แวร์ iOS 14.5 ได้ฟรี ที่มีคุณสมบัติใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้น ให้การใช้งานอุปกรณ์มีความสะดวกยิ่งขึ้น และนี่คือฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ Apple เพิ่มขึ้นมาให้กับ iOS 14.5
สวมหน้ากาก ก็ปลดล้อค iPhone ได้ด้วย Apple Watch
ในยุคที่เราต้องสวมหน้ากากอนามัยแทบตลอดเวลา แอปเปิลได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 14.5 โดยเราสามารถใช้ Apple Watch เพื่อปลดล็อค iPhone ได้อย่างปลอดภัยเมื่อพยายามใช้ Face ID ขณะใส่หน้ากาก โดยในขณะที่ Apple Watch อยู่บนข้อมือในสถานะปลดล็อค และอยู่ใกล้กับ iPhone
เพียงแค่เราเหลือบมอง iPhone จากนั้น Apple Watch ก็จะตอบสนองด้วยการสั่นเพื่อบอกว่า iPhone ได้รับการปลดล็อคเรียบร้อยแล้ว คุณสมบัติใหม่นี้สามารถใช้งานได้กับ iPhone X หรือใหม่กว่า และใช้งานคู่กับ Apple Watch Series 3 หรือใหม่กว่า
ปรับปรุง Siri มีเสียงให้เลือกหลากหลายมากขึ้น
Siri จะไม่มีเสียงพูดที่เป็นค่าเริ่มต้นอีกต่อไป ผู้ใช้จึงสามารถเลือกเสียงที่อยากได้ยินตั้งแต่ครั้งแรกที่ตั้งค่าอุปกรณ์ และวันนี้ยังมีเสียงภาษาอังกฤษให้เลือกหลากหลายแบบยิ่งขึ้นด้วย
นอกจากนี้ Siri ยังมีความสามารถใหม่ๆ อย่างการรองรับ FaceTime แบบกลุ่ม ช่วยให้ผู้ใช้เริ่มการโทรกับผู้ติดต่อหลายคนได้ง่ายขึ้น หรือจะบอกให้ Siri โทร FaceTime หาชื่อกลุ่มใดในแอปข้อความก็ได้
และนอกเหนือจากการอ่านข้อความที่ได้รับแล้ว วันนี้ Siri ยังสามารถแจ้งเกี่ยวกับสายที่โทรเข้ามาผ่านทาง AirPods หรือหูฟัง Beats ที่ใช้งานร่วมกันได้ อีกทั้งยังรองรับการโทรหาผู้ติดต่อฉุกเฉินในกรณีที่เจ้าของ iPhone ต้องการความช่วยเหลือและไม่สามารถโทรเองได้
ความเป็นส่วนตัวที่ควบคุมได้ดียิ่งขึ้น
คุณสมบัติ “ความโปร่งใสในการติดตามของแอป” กำหนดให้แอปต้องขออนุญาตผู้ใช้ก่อนที่จะติดตามข้อมูลของผู้ใช้ข้ามไปยังแอปหรือเว็บไซต์ของบริษัทอื่นเพื่อจุดประสงค์ในการโฆษณา หรือแชร์ข้อมูลกับนายหน้าหาข้อมูล และนอกจากแอปจะสามารถขออนุญาตผู้ใช้ได้แล้ว ผู้ใช้ยังสามารถเข้าไปที่การตั้งค่าเพื่อดูว่ามีแอปใดบ้างที่ขออนุญาตติดตาม ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนเองได้ตามต้องการทุกเมื่อ
เพิ่มอิโมจิใหม่
พบกับอิโมจิใหม่ อาทิ อิโมจิคู่รักจูบกัน และอิโมจิคู่รักกับหัวใจโดยที่ผู้ใช้สามารถเลือกโทนสีผิวต่างกันได้ นอกจากนั้นยังมีอิโมจิเพิ่มมาใหม่ด้วย เช่น ใบหน้าขณะหายใจออก, ใบหน้าที่ตาบิดเป็นเกลียว, ใบหน้าในหมู่เมฆ, หัวใจที่ไฟลุกโชน, หัวใจที่มีผ้าพันแผล และผู้หญิงที่มีเครา
แจ้งเหตุการณ์ในแอปแผนที่ของ Apple
สำหรับผู้ใช้แอปแผนที่ในสหรัฐอเมริกาและจีน สามารถแจ้งอุบัติเหตุ จุดอันตราย หรือจุดตรวจจับความเร็วตามเส้นทางได้ง่ายๆ อย่างปลอดภัยโดยการบอก Siri บน iPhone หรือ CarPlay โดยในขณะนำทาง ผู้ใช้สามารถบอก Siri ว่า “มีรถชนกันข้างหน้า” หรือ “มีอะไรบางอย่างบนถนน” และยังสามารถแจ้งได้ด้วยว่าเหตุการณ์ในแผนที่นั้นไม่ได้กีดขวางการจราจรแล้ว
คุณสมบัตินี้ออกแบบมาเพื่อให้คนขับมีสมาธิอยู่กับการขับขี่โดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย ส่วนผู้โดยสารเองก็สามารถแจ้งเหตุหรือลบเหตุการณ์ที่แจ้งไว้ได้โดยเลือก “รายงานปัญหา” ในแอปแผนที่ ยิ่งไปกว่านั้นผู้ใช้แอปแผนที่ยังสามารถแชร์เวลาที่คาดว่าจะถึงหรือ ETA ขณะเดินหรือปั่นจักรยานได้แล้วเพื่อบอกเพื่อนๆ และครอบครัวว่าน่าจะมาถึงเมื่อไหร่ โดยที่ผู้ใช้ CarPlay สามารถเรียกใช้คุณสมบัติแชร์ ETA ได้ด้วย Siri หรือส่วนควบคุมใหม่บนคีย์บอร์ด
ในการอัปเดตครั้งนี้ Apple ยังมีคุณสมบัติใหม่ เพิ่มขึ้นมาใน iOS 14.5 อีกหลายอย่างด้วยกัน
- Apple Podcasts มาพร้อม “หน้ารายการ” ที่ออกแบบใหม่เพื่อให้ผู้ใช้เริ่มฟังได้ง่ายขึ้น รวมถึงตัวเลือกในการบันทึกและดาวน์โหลดตอนต่างๆ ซึ่งจะเพิ่มลงในคลังโดยอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ใช้เปิดฟังได้สะดวกรวดเร็ว
- รองรับ AirTag ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามและค้นหาสิ่งของสำคัญ
- Apple News มีแถบ News+ โฉมใหม่ที่ช่วยให้สมาชิกสามารถค้นหา ดาวน์โหลด และจัดการนิตยสารและหนังสือพิมพ์ได้อย่างรวดเร็วด้วยวิธีที่ง่ายขึ้น พร้อมด้วยประสบการณ์การค้นหาแบบใหม่ที่จะช่วยผู้ใช้ Apple News ค้นหาหัวข้อเรื่อง ช่อง และเรื่องราวที่ตรงกับความสนใจ
- Apple Fitness+ สามารถสตรีมภาพและเสียงไปยังทีวีและอุปกรณ์ที่รองรับ AirPlay ได้แล้ว
- แอปเตือนความจำ เพิ่มความสามารถในการจัดเรียงตามชื่อ ลำดับความสำคัญ วันถึงกำหนด หรือวันที่สร้าง พร้อมตัวเลือกในการสั่งพิมพ์รายการเตือนความจำ
- การปรับปรุง 5G สำหรับ iPhone 12 ทุกรุ่น ให้สามารถรองรับใช้งาน 5G ได้ทั้ง 2 ซิม และปรับปรุงโหมดข้อมูลอัจฉริยะเพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานบนเครือข่าย ทั้งในด้านระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่และปริมาณการใช้ข้อมูล
- การสั่งการด้วยเสียงสำหรับการช่วยการเข้าถึง ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมการทำงานได้เต็มรูปแบบโดยใช้เพียงแค่เสียงพูด และวันนี้ยังขยายการรองรับภาษาอังกฤษให้ครอบคลุมออสเตรเลียและแคนาดา พร้อมกับเพิ่มการรองรับภาษาสเปสนในเม็กซิโก สเปน และสหรัฐอเมริกาด้วย
ข้อมูลจาก : Apple