Apple วางแผนทำให้ iPhone สามารถคาดการณ์เมื่อแบตเตอรี่ใกล้จะหมดล่วงหน้า พร้อมทั้งแจ้งเตือนผู้ใช้ตั้งแต่เนิ่นๆ และสามารถให้คำแนะนำการชาร์จได้
Apple กล่าวว่า โดยทั่วไปแล้ว iPhone จะแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อระดับแบตเตอรี่นั้นต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดเอาไว้ในรูปแบบข้อความเช่น battery low หรือแบตเตอรี่ของคุณเหลือไม่มากแล้ว ให้ผู้ใช้งานได้รู้ตัวในขั้นต้นว่าแบตฯใกล้หมดแล้ว ชาร์จได้แล้วนะ
อย่างไรก็ตาม iPhone เองก็มีทางแก้เฉพาะหน้าโดยเข้าสู่ Low Power Mode หรือโหมดพลังงานต่ำอัตโนมัติเพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน ช่วยให้ใช้งาน iPhone ที่มีแบตเตอรี่เหลืออยู่ไม่มากได้นานขึ้นโดยตัดฟังก์ชันการทำงานที่ไม่จำเป็นออกไป
แต่บางสถานการณ์ การแจ้งเตือนอาจไม่ได้รับการ take action โดยทันที ยกตัวอย่างเช่น ระบบแจ้งเตือนผู้ใช้งานว่า battery low ในเวลากลางคืนที่ผู้ใช้นอนหลับไปแล้ว เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่า แบตเตอรี่ของเขาเหลือน้อยเต็มทีและเขาต้องรีบออกไปทำงาน ทำให้เขาเหลือเวลาไม่มากนักที่จะรอชาร์จโทรศัพท์ก่อนไปทำงาน และมือถืออาจแบตหมดระหว่างทางไปทำงานได้
ปัญหาดังกล่าวน่าจะหมดไป เมื่อ Apple เผยสิทธิบัตรตัวใหม่ที่จะช่วยผู้ใช้งานแก้ไขปัญหาดังกล่าว ในอนาคต iPhone จะมีการแจ้งเตือนล่วงหน้าเมื่อแบตเตอรี่ของผู้ใช้เหลือน้อย โดยระบบจะแจ้งให้ทราบถึงเวลาที่เพียงพอที่ผู้ใช้สามารถใช้งานมือถือได้ สิทธิบัตรตัวนี้พัฒนาโดยนักประดิษฐ์ 4 คน ได้แก่ Gaurav Kapoor , Phillip Stanley-Marbell , Cyril De Chanterac และ Karthik Venkatraman โดย 2 คนหลังเคยฝากผลงานในสิทธิบัตรเรื่องการปรับปรุงการจัดการพลังงานในอุปกรณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้
สิทธิบัตรยังอธิบายอีกว่าตัวระบบจะสร้างฐานข้อมูลของกิจกรรมขึ้น โดยข้อมูลกิจกรรมต่างๆ จะอ้างอิงจากข้อมูลที่ได้จากเซ็นเซอร์ เช่น ข้อมูลการใช้งานต่างๆ , location , ตำแหน่งเวลา , การเคลื่อนไหวต่างๆ หรือแม้แต่ระบบชาร์จกำลังเสียบเข้ากับที่ชาร์จอยู่หรือไม่ ข้อมูลกิจกรรมดังกล่าวจะกลายเป็นโมดุลที่ชื่อ advice to charge ที่จะวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพื่อให้คำแนะนำว่าผู้ใช้ควรจะชาร์จมือถือตอนไหน
สิทธิบัตรมองว่าข้อมูลและรูปแบบการชาร์จของผู้ใช้สามารถใช้วิเคราะห์และคาดการ์การชาร์จครั้งต่อไปได้ เช่น วันจันทร์ถึงศุกร์ ผู้ใช้ชาร์จ iPhone ในเวลา 08:30 น. จากนั้นมีความเป็นไปได้ที่เขาจะต้องชาร์จมือถืออีกครั้งในเวลา 22:00 น. ก่อนจะนอน นอกจากนี้ สิทธิบัตรยังลงรายละเอียดถึงปัจจัยอื่น เช่น การใช้งาน Apple Watch ทำให้สามารถรับรู้ตำแหน่งของผู้ใช้ เพื่อพิจารณาว่าเขาอยู่ที่บ้านหรือที่ทำงานเพื่อให้คำแนะนำการชาร์จที่เหมาะสม
หรือในบางสถานการณ์ ตัวอย่างเช่น ระบบตั้งค่าเอาไว้ว่าจะแจ้งเตือนหากผู้ใช้งานเหลือแบตเตอรี่อยู่ 10% และจากข้อมูลที่ระบบมี ผู้ใช้งานมักจะชาร์จมือถือตอน 22:00 น. หากตอนนั้นเป็นเวลา 22:00 น. และ iPhone ของผู้ใช้งานยังเหลือแบตเตอรี่ 30% หากเป็นระบบปัจจุบัน ระบบจะไม่ทำการแจ้งเตือนผู้ใช้ให้ทำการชาร์จ อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลในสิทธิบัตรพบว่าระบบจะวิเคราะห์ข้อมูลจากสถานะปัจจุบัน , การใช้งาน , เวลาที่มักจะชาร์จ หากระบบวิเคราะห์แล้วว่าหากผู้ใช้งานไม่ทำการชาร์จ แบตเตอรี่อาจหมดหลังจากนั้นได้ เมื่อถึงเวลา 22:00 น. แม้สถานะของแบตเตอรี่จะอยู่ที่ 30% (มากกว่าการตั้งค่าแจ้งเตือนที่ 10%) ระบบก็จะขึ้นแนะนำให้ผู้ใช้งานชาร์จอุปกรณ์มือถือ
ดังนั้น มันไม่สำคัญว่าผู้ใช้จะตั้งค่าให้แจ้งเตือนเมื่อแบตเตอรี่เหลือ 10% สมมติ แบตเตอรี่เหลือ 30% ซึ่งผู้ใช้อาจมองว่าปลอดภัย ใช้งานได้อยู่ แต่ถ้า iPhone มันวิเคราะห์ว่า 30% นั้นหากไม่ได้รับการชาร์จ ณ ตอนนั้น แบตเตอรี่อาจจะหมดหลังจากนั้นได้ ระบบก็จะขึ้นแจ้งเตือนและแนะนำให้ผู้ใช้ทำการชาร์จ
หากสิทธิบัตรนี้มีการพัฒนาให้ทำงานได้จริง สิ่งที่ตามมาน่าจะเป็นเรื่องของการกำหนดการแจ้งเตือน ประเด็นอื่น เช่น การเข้าสู่โหมดพลังงานต่ำอัตโนมัติ ซึ่งอยู่นอกขอบเขตของสิทธิบัตรตัวนี้
ที่มา : Apple Insider | 9to5Mac
