รีวิว Huawei Band 6 ฟีเจอร์เยอะเกินตัว จอใหญ่ แบตอึด มีวัด SpO2

รีวิว Huawei Band 6 สมาร์ทแบนด์รุ่นล่าสุดที่กระแสดีมากๆ ด้วยการอัปเกรดทั้งดีไซน์ ใส่หน้าจอใหญ่คมชัด มีวัดค่า SpO2 และฟีเจอร์สุขภาพครบครัน เปิดตัว ราคา ที่ 1,899 บาท

อุปกรณ์สวมใส่ที่เป็น Smart Band ของทางหัวเว่ยนั้น ถือว่าพัฒนาต่อเนื่องมาหลายรุ่นแล้ว และก็ดีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยได้ปรับปรุงทั้งเรื่องของดีไซน์รวมถึงเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่มีในกลุ่มรุ่นพี่ที่เป็นนาฬิกาเอามาใส่ให้ในรุ่นเล็กให้ด้วย

สำหรับ รีวิว Huawei Band 6 ตัวนี้ ทีมงานล้ำหน้าฯ ใช้เวลาอยู่กับมันค่อนข้างนาน ซึ่งประสบการณ์ที่ได้จากการใช้งาน อยู่ในระดับที่น่าประทับใจดีมาก

การออกแบบ ดีไซน์

แกะกล่องในแพ็กเกจ จะมีแค่ตัวเครื่อง กับสายชาร์จ และคู่มือการใช้งานเบื้องต้นใส่มาให้ด้วย

ความเปลี่ยนแปลงอย่างแรกของ Huawei Band 6 ก็คือ หน้าจอที่ใหญ่โตขึ้นกว่าเดิมแบบคนละเรื่อง โดยตัวจอนั้นเป็น FullView แบบ AMOLED มีขนาดใหญ่ถึง 1.47 นิ้ว ความละเอียด 194 x 368 พิกเซล และกระจกด้านหน้าเป็นขอบโค้งแบบ 2.5D ที่ดูแล้วมันคล้ายๆ กับ Huawei Watch Fit รุ่นที่ออกมาก่อนหน้านี้ แต่มีขนาดที่เล็กกว่า

รีวิว Huawei Band 6

ตัวจอถือว่าสีสันคมชัดดีครับ ตามสไตล์ของจอแบบ AMOLED และ PPI ของจอก็ค่อนข้างละเอียด ตัวหนังสือต่างๆ มองเห็นได้ชัด เรื่องการใช้งานกลางแจ้ง สามารถสู้แดดได้ โดยเราเลือกปรับค่าระดับความสว่างของจอได้ 5 ระดับด้วยกัน

ส่วนการควบคุมสั่งงานได้จากหน้าจอที่เป็นแบบสัมผัส ที่ตอบสนองนิ้วเราได้ลื่นดีมาก ไม่มีหน่วงในการกดคำสั่งหรือเลื่อนหน้าไปมา

วัสดุตัวเรือน เป็นโพลีคาร์บอเนต มีให้เลือกทั้งหมด 3 สีด้วยกันคือ สีดำ Graphite Black, สีชมพู Sakura Pink และ สีเขียว Forest Green และที่ด้านข้างตัวเรือนก็จะมีปุ่มกดเพียงปุ่มเดียว สำหรับกดเรียกหน้าเมนูลัดสลับกับหน้าปัดหลัก

รีวิว Huawei Band 6

สายของตัวสมาร์ทแบนด์ จะเป็นวัสดุยางสังเคราห์ที่ไม่นุ่มหรือแข็งเกินไป สวมใส่ได้ค่อนข้างสบาย ตัวสายสวมแบบเขี้ยวเหมือนนาฬิกาทั่วไป และสายเราสามารถถอดเปลี่ยนได้ โดยพลิกตัวเครื่องด้านหลังขึ้นมา จะมีตัวล็อคอยู่ ให้งัดตัวล็อคตรงสายที่ติดกับตัวเรือนขึ้น ก็ถอดเปลี่ยนสายได้แล้ว

รีวิว Huawei Band 6

ด้านหลังจะมีจุดคอนแทค 2 จุดสำหรับเอาสายชาร์จที่เป็นระบบแม่เหล็กมาติดเพื่อชาร์จไฟได้ และตรงกลางจะเป็นเซ็นเซอร์แบบแสง ที่เอาไว้ใช้สำหรับวัดค่าอัตราการเต้นของหัวใจ (Heartrate monitoring) และวัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2)

ครั้งนี้ Huawei Band 6 มีความสามารถในการกันน้ำ ได้มาตรฐาน 5ATM คือกันน้ำแรงดันได้ลึก 50 เมตร ซึ่งไม่ใช่แค่กันเหงื่อ ใส่อาบน้ำ ล้างมือ หรือลุยฝน แต่ใช้ใส่เล่นกีฬาทางน้ำได้ด้วย คุณสามารถใช้เก็บข้อมูลกิจกรรมอย่างว่ายน้ำที่เก็บได้ทั้งระยะทางและวัด Heartrate ไปได้ด้วย

Huawei Band 6 เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านแอป Huawei Health

ในการใช้งาน Huawei Band 6 จะต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ผ่านทาง Bluetooth โดยให้ทำการติดตั้งแอป Huawei Health ก่อน มีให้ติดตั้งได้ทั้งในระบบ Android ที่ Google PlayStore และ Huawei AppGallery ส่วน iPhone ดาวน์โหลดได้จาก App Store โดยจะต้องใช้ iOS12 ขึ้นไป

เมื่อดาวน์โหลดมาติดตั้งแล้ว ทำการสมัครและ Sign In ด้วย Huawei ID เพื่อใช้งาน โดยที่อย่าลืมตั้งค่าเบื้องต้นทั้งเพศ, อายุ, ส่วนสูง, น้ำหนัก เพื่อที่จะใช้ในการติดตามและวิเคราะห์ผลของสุขภาพได้แม่นยำมากขึ้น แล้วทำการเพิ่ม Device เลือกที่ตัว Huawei Band 6 แล้วเชื่อมต่อได้เลย (อย่าลืมเปิด Bluetooth ด้วยนะ) ซึ่งในการต่อครั้งแรกจะมีการให้อัปเดตเฟิร์มแวร์ เพื่อให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดด้วย

รีวิว Huawei Band 6

ในแอป Huawei Health จะมีหัวข้อเมนูใช้งานดังนี้

  • Health เป็นการสรุปข้อมูลด้านสุขภาพของผู้ใช้ ที่เก็บค่ามาไว้ จัดเป็นสถิติแยกตามแต่ละวัน มีบอกค่าทั้งก้าวเดิน, แคลอรี่ที่เผาผลาญ, กิจกรรมการออกกำลังกาย, อัตราการเต้นของหัวใจ, การนอน, น้ำหนัก, ความเครียด และค่า SpO2
  • Exercise เมนูบันทึกการออกกำลังกายที่ต้องใช้ GPS ในการเก็บระยะทาง อย่างเช่น วิ่งกลางแจ้ง ปั่นจักรยาน ฯลฯ
  • Discover คอนเทนต์น่าสนใจเกี่ยวกับอุปกรณ์และออกกำลังกาย
  • Device จัดการกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่กับแอป
  • Me ข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้ และการตั้งค่าการใช้งานเบื้องต้น

ฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจ ใน Huawei Band 6

คราวนี้มาดูเรื่องการใช้งานกันบ้าง อย่างที่บอกไปตั้งแต่ชื่อหัวข้อ รีวิว กันแล้วว่า Huawei Band 6 นั้น ฟีเจอร์เยอะเกินตัวจริงๆ เพราะมันทำได้เยอะมากเกินกว่าจะเป็น Smart Band คืออีกนิดจะเป็น Smart Watch ได้แล้ว เอาล่ะ มาดูกันว่ามีอะไรเด็ดๆ ที่ทำได้บ้างกับรุ่นนี้

บันทึกกิจกรรม การออกกำลังกายได้ 96 แบบ

นอกจากใช้บันทึกข้อมูลพื้นฐานอย่างจำนวนก้าวเดิน และคำนวนแคลอรี่ที่เผาผลาญในแต่ละวันแล้ว สำหรับคนชอบเล่นกีฬาน่าจะถูกใจกับตัวนี้ เพราะในโหมดบันทึกกิจกรรมนั้น มีให้เลือกได้มากถึง 96 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น วิ่งบนลู่ treadmill, วิ่งกลางแจ้ง, เดิน, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ (ในสระ), เครื่องเล่นออกกำลังกายรูปแบบต่างๆ รวมถึงกีฬาอื่นๆ ฟุตบอล, แบดมินตัน, คอร์สฟิตเนส เทรนนิ่ง ฯลฯ เรียกว่าเยอะมากๆ

โดยมีโหมดที่น่าสนใจที่ชอบมากคือ กระโดดเชือก เพราะตัว Huawei Band 6 จะเก็บข้อมูลจำนวนครั้งที่กระโดดให้ด้วย ส่วนว่ายน้ำ เราแค่ใส่ระยะความยาวของสระ ก็จะนับระยะทางการว่ายให้ด้วย

และสำหรับการออกกำลังกายกลางแจ้ง อย่างวิ่ง และปั่นจักรยาน เราสามารถสั่งบันทึกจากในแอป Huawei Health เพื่อใช้ GPS ของสมาร์ทโฟนในการระบุตำแหน่งและวัดระยะตามเส้นทางบนแผนที่ โดยตัว Huawei Band 6 จะวัดอัตราการเต้นของหัวใจ เพื่อดูโซนของหัวใจได้ 5 โซน เพื่อการฝึกซ้อมตามรูปแบบที่ต้องการได้

นอกจากนี้ ในแอปยังมีโหมด Training ที่ให้เลือกแผนการซ้อมกาารวิ่งมาให้ด้วย โดยจะจัดตารางการซ้อมเพื่อการวิ่งระยะต่างๆ ตั้งแต่ระดับมินิมาราธอน ไปจนถึงมาราธอนเลย

วัดค่าอิ่มตัวออกซิเจนในเลือด SpO2

เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่คนสนใจกันมากในช่วงนี้ โดยที่การวัดค่า SpO2 นั้น จะช่วยตรวจดูเรื่องความผิดปกติในระบบการทำงานด้านการหายใจ ว่ามีปัญหาหรือไม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในอาการที่มีในผู้ที่เสี่ยงติดเชื่อ COVID-19 ด้วย ซึ่งเกณฑ์ปกติช่วงเวลาที่เราอยู่นิ่งๆ นั้นจะอยู่ที่ 95-100% และในช่วงที่ออกกำลังกายก็จะลดลงไปตามความหนักของการออกกำลังกาย ที่อาจจะลงไปต่ำสุดถึง 85% ซึ่งถ้าหากร่างกายเราไม่สามารถรับออกซิเจนได้เต็มที่ ก็เป็นไปได้ที่อาจจะมีปัญหาด้านสุขภาพได้

แต่ถึงอย่างไร การวัดค่า SpO2 นั้น ก็ยังไม่ใช่เครื่องมือยืนยันหรือนำไปใช้อ้างอิงในทางการแพทย์หรือการรักษาได้ เนื่องจากตัวอุปกรณ์นี้ไม่ใช่ระดัมมาตรฐานการแพทย์ ใช้ในลักษณะอ้างอิงเบื้องต้นได้ และในขณะที่กำลังวัด ควรจะวางแขนนิ่งๆ เพื่อความแม่นยำในการวัดค่า

การใช้งานเลือกได้ทั้งแบบกดทดสอบเอง หรือตั้งเป็นแบบทดสอบให้อัตโนมัติ ซึ่งเลือกปรับได้จากในแอป Huawei Health (เบื้องต้นใช้ได้เฉพาะบนแอนดรอยด์ และต้องเป็นเวอร์ชั่น 11.0.5.508)

รีวิว Huawei Band 6

TruSeen 4.0 วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้แบบเรียลไทม์

สามารถเลือกให้ Huawei Band 6 วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบตลอดเวลาได้ด้วย เพื่อมอนิเตอร์ดูว่าในแต่ละช่วงของวันเรามีจังหวะที่ออกกำลังกายจนหัวใจทำงานหนักขึ้นหรือไม่ และยังเอาไว้วัดในช่วงที่เวลานอน เพื่อเก็บดูค่าของ Rest Heart Rate ได้อีกด้วย ซึ่งสถิติทั้งหมดของการวัดค่าอัตราการเต้นหัวใจ จะนำมาจัดเป็นกราฟให้ดูย้อนหลังได้อย่างละเอียด

TruSleep 2.0 เก็บข้อมูลการนอนหลับ

สำหรับผมแล้ว Huawei เป็นอีกแบรนด์ที่เก็บข้อมูลการนอนหลับได้ค่อนข้างละเอียดดีมาก โดยการใช้งานไม่ต้องกดเริ่มบันทึกก่อนนอน และไม่ต้องกดหยุดตอนตื่น โดยความละเอียดในการเก็บค่านั้นมีทั้งช่วงหลับลึก, หลับตื้น, REM (หลับฝัน) และการตื่น อีกทั้งยังมีการประเมินการนอนในแต่ละคืนให้อย่างละเอียด พร้อมสรุปคะแนนการนอนให้ด้วยว่าออกมาดีแค่ไหน เหมาะสำหรับคนที่อยากรู้คุณภาพการนอน เพื่อที่จะได้ปรับพฤติกรรมต่างๆ เพื่อให้สามารถหลับพักผ่อนได้เต็มที่และมีประสิทธิภาพ

รีวิว Huawei Band 6

TruRelax จัดการเรื่องความเครียด

การประเมินค่าความเครียด โดยอ้างอิงจากอัตราการเต้นของหัวใจ โดยจะมีให้เรา Calibrate ความเรียดของเราก่อนโดยใช้วิธีตอบแบบสอบถาม และหลังจากนั้น เมื่อเราเปิดระบบตรวจสอบแล้ว เครื่องจะเก็บค่าการเต้นหัวใจ มาประเมินเป็นะดับความเครียดในตลอดทั้งช่วงวันได้

ส่วนใครที่อยากจะคลายความเครียด สามารถใช้ “การฝึกหายใจ” จากตัว Huawei Band 6 เพื่อกำหนดจังหวะหายใจเข้าออกลึกๆ ซึ่งเป็นการช่วยให้ลดความเครียดลงได้

รีวิว Huawei Band 6

ช่วยบันทึกปฏิทินรอบเดือน

ฟีเจอร์นี้สำหรับสาวๆ ที่สามารถเอาไว้ใช้บันทึกช่วงเวลาการมาของรอบเดือน โดยการบันทึกนั้น จะช่วยประเมินช่วงการมีรอบเดือนในเดือนถัดๆ ไปให้ได้ด้วย

Watch Face ที่มีให้เลือกได้มากมาย มีของไทยแบบ Exclusive ด้วย

ทาง Huawei จริงจังกับการทำหน้าปัดนาฬิกาสำหรับรุ่นนี้เป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะมีแบบแจกฟรีให้เลือกหลายสิบแบบแล้ว ยังมีแบบที่ออกแบบสำหรับประเทศไทยโดยเฉพาะอีกหลายแบบให้เลือกอีกด้วย ซึ่งสวยๆ ทั้งนั้น รวมถึงแบบที่ซื้อก็มีด้วยเช่นกัน (แต่ซื้อได้เฉพาะคนที่ใช้สมาร์ทโฟนหัวเว่ยเท่านั้น) คุณสามารถเลือกหน้า Watch face ได้หลากหลายสไตล์ ทั้งแบบที่สวยงาม และแบบที่มีหน้าตาข้อมูลต่างๆ อย่างที่ต้องการได้ด้วย

รีวิว Huawei Band 6

เชื่อมต่อ แจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟน

เราเลือกที่จะให้แสดงข้อความแจ้งเตือนจากแอปต่างๆ ในสมาร์ทโฟนขึ้นมาโชว์ที่หน้าจอของ Huawei Band 6 ได้ ให้คุณสะดวกเวลามีข้อความเข้าแล้วไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู โดยแสดงผลเป็นภาษาไทยอ่านได้ง่าย ชัดเจน และนอกจากข้อความแล้ว ยังแจ้งเตือนทั้งสายโทรเข้าได้ด้วย และกดปฏิเสธสายในเวลาที่ไม่สะดวกรับสายก็ได้

รีวิว Huawei Band 6

Huawei Band 6 แบตเตอรี่อึด ใช้ได้นานสุด 14 วัน

จุดเด่นที่หัวเว่ยทำมาดีในทุกรุ่น ก็คือแบตเตอรี่ที่ชาร์จเต็มครั้งนึง สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานมากๆ ตามสเปคของ Huawei Band 6 นั้น สามารถใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 14 วัน

โดยการทดสอบใช้งานจริงของเรานั้น เราเปิดใช้งานทุกฟีเจอร์ที่เป็นการวัดค่าแบบเรียลไทม์ ทั้งการวัดการเต้นของหัวใจ, SpO2, รับการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟน และใช้ในการบันทึกกิจกรรมการออกกำลังกาย เรียกว่าจัดเต็มแบบหนักหน่วง ผลที่ใช้งานได้ก็คืออยู่ได้ถึง 8 วัน ถือว่ายังทำได้ดีมากๆ ซึ่งถ้าใครอยากจะประหยัดให้อึดก็สามารถปรับลดฟีเจอร์ลง หรือเอาจริงๆ ทุกวันตอนอาบน้ำ ถอดเสียบชาร์จไว้แค่ 15-30 นาที ก็สามารถเติมแบตฯ เข้าไปได้จนเต็มได้ทุกวัน

รีวิว Huawei Band 6

สรุป Huawei Band 6 เหมาะกับใคร? คุ้มค่าน่าใช้แค่ไหน?

หลังจากที่ลองใช้มาหลายอาทิตย์ ถือว่าเป็นสมาร์ทแบนด์ที่ทำงานได้ดีมากๆ ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา ทำให้สวมใส่ได้สบาย ไม่รู้สึกรำคาญ ใส่เวลานอนก็ไม่รู้สึกอึดอัด หน้าจอที่ใหญ่มากๆ เรียกว่าใหญ่พอจะเป็นนาฬิกาได้เลย แถมมี Watch Face ให้เปลี่ยนได้เยอะมากๆ (แถมสวยๆ ก็เยอะ)

แบตเตอรี่คือดีงาม ใช้ต่อเนื่องได้แบบนานๆ ไม่ต้องกลัวแบตหมดระหว่างวัน การใช้งานแจ้งเตือนก็โชว์ภาษาไทยได้ใหญ่ชัดเจน ส่วนการวัดค่าทั้งสุขภาพ, การนอน และกิจกรรมออกกำลังกาย ก็ครอบคลุม แม่นยำดี และมีวัด SpO2 ตัวใหม่ใส่มาให้อีกด้วย

จุดสังเกตของรุ่นนี้ ที่ต้องรู้ก็คือ อย่างแรกหน้าจอการปรับความสว่างนั้นไม่มีระบบอัตโนมัติ เราจะต้องปรับระดับเอาเองเวลาที่ใช้งานกลางแจ้งก็เร่งให้สว่างๆ หน่อย แต่ใช้ปกติในร่ม แค่ระดับ 2-3 ก็สว่างชัดเจนดีแล้ว

ต่อมาในส่วนอีโคซิสเต็มของ Huawei ที่แม้ว่าจะสามารถใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนทุกยี่ห้อ ทั้งระบบ Android และ iOS แต่ก็ยังมีข้อจำกัดด้านฟีเจอร์อยู่บ้างอย่างเช่น การซื้อหน้า Watch Face นั้น จะซื้อได้เฉพาะสมาร์ทโฟนที่เป็น EMUI ของ Huawei เท่านั้น ส่วนยี่ห้ออื่นจะได้เฉพาะโหลดของฟรีอย่างเดียว และฟีเจอร์ Remote Camera Shutter สำหรับสั่งกล้องถ่ายภาพ ก็ใช้ได้เฉพาะสมาร์ทโฟน Huawei เท่านั้น ส่วนฟีเจอร์อย่างการควบคุมเพลงก็ใช้ได้กับสมาร์ทโฟนระบบ Android ใช้กับ iPhone ไม่ได้

สรุปโดยรวมแล้ว Huawei Band 6 ถือว่าเป็นสมาร์ทแบนด์ที่ครบเครื่องดีมาก ใน ราคา 1,899 บาท สำหรับใครอยากได้ตัวช่วยเรื่องเก็บค่าด้านสุขภาพได้ทั้งวันแบบตลอด 24 ชั่วโมง และเอาไว้ใช้บันทึกกิจกรรมในแต่ละวัน เพื่อควบคุมให้เรามีความฟิตตลอดเวลา ยิ่งในช่วงที่หลายคนต้อง Work from Home หรือเรียนที่บ้าน ต้องอยู่กับบ้านนานๆ ก็ควรหาอะไรมากระตุ้นให้ออกกำลังกายแข็งแรงกันด้วยนะ

สามารถซื้อ Huawei Band6 ผ่านทางออนไลน์ ที่ HUAWEI Store Thailand

Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล และจักรยาน