รีวิว Razer Kraken V3 X หูฟังเกมมิ่งแบบสาย ดีไซน์ออกมาให้มีความเบา สวมใส่สบาย ระบบเสียงจัดมาให้เป็น 7.1 Surround ไดรเวอร์ขนาด 40mm ไมค์เสียงชัดใส กับ ราคา เข้าถึงได้ง่ายขึ้น 2,490 บาท
Kraken ถือว่าเป็นซีรี่ย์หูฟังเกมมิ่งยอดฮิตของทาง Razer ที่ออกแบบมาเป็นแบบครอบหัว โดยเน้นในเรื่องของการสวมใส่ที่สบาย และระบบเสียง พร้อมไมโครโฟนตอบสนองกับการเล่นเกมได้ดี ซึ่งตัว Razer Kraken V3 X ออกแบบมาสำหรับใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ PC, Mac, PS4 และ PS5 โดยเสียบเชื่อมต่อผ่านทางพอร์ต USB-A
ก่อนจะเริ่ม รีวิว Razer Kraken V3 X เรามาดูสรุปข้อมูลสเปคต่างๆ ของหูฟังรุ่นนี้กันก่อน
ข้อมูล สเปค Razer Kraken V3 X
- การตอบสนองคลื่นความถี่ : 12 Hz – 28 kHz
- Impedance : 32 Ω (1 kHz)
- Sensitivity : 103 dBSPL / mW，1 kHz
- Driver : Razer TriForce Driver ขนาด 40 mm
- Earcups : Oval Ear Cushions
- Inner Earcup Diameter : 60 mm x 40 mm
- Earpads Material : Hybrid fabric and memory foam ear cushions
- Connection Type : USB Type A
- ความยาวสาย : 1.8 m
- น้ำหนัก : 285 g / 0.63 lbs
- Microphone : Bendable HyperClear Cardoid
- Pick-up Pattern : Unidirectional
- Microphone Frequency Response : 100 Hz – 10 kHz
- Microphone Sensitivity (@1kHz) : -42 ± 3 dB
- Virtual Surround Encoding : Surround sound (รองรับบน Windows 10 64-bit)
- Volume Control : Volume up and down
- Other Controls : Mic mute on / off toggle
- Lighting : Chroma enabled earcup
- Compatibility PC, Mac, PlayStation 4, PlayStation 5
มาดูกันตั้งแต่ตัวแพ็กเกจ ที่วัสดุนั้นเป็นกระดาษทั้งหมด พร้อมสำหรับการนำไปรีไซเคิลได้ 100% โดยด้านนอกที่เป็นแจ็กเก็ต เมื่อแกะออก จะมีเป็นกล่องกระดาษน้ำตาลอยู่ด้าน
แกะออกมาตามสไตล์ของ Razer จะมีจดหมายสั้นจากคุณ Min-Liang Tan ผู้ร่วมก่อตั้ง, ซีอีโอ และ Creative Director ของ Razer อธิบายเกี่ยวกับหูฟังตัวนี้ พร้อมกับเอกสารคู่มือการใช้งานเบื้องต้น และสติกเกอร์โลโก้ของ Razer ส่วนตัวหูฟังนั้น จะห่อเอาไว้ด้วยซองโฟมกันรอยขีดข่วน ที่ห่อเอาไว้ทั้งตัวหูฟัง และในส่วนของก้านไมค์และสาย USB
เมื่อแกะออกมา ตัวหูฟังนั้น มองดูครั้งแรก ด้านดีไซน์นั้นถือว่าไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อนมากนัก โดยที่ชิ้นส่วนต่างๆ ของตัวหูฟังนั้นเป็นแบบชิ้นเดียว ตัวสาย, ก้านไมค์ ฯลฯ ไม่สามารถถอดออกได้ วัสดุของโครงสร้างหลักจะเป็นพลาสติกทั้งหมด ทั้งตัวครอบหัว และฝาส่วนครอบหู โดยจะเป็นโทนสีดำทั้งตัว
ส่วนของสาย USB สำหรับเสียบเชื่อมต่ออุปกรณ์ ไม่สามารถถอดออกได้ ยึดติดกับตัวหูฟังแบบถาวร ตัวสายหุ้มวัสดุฉนวน ความยาว 1.8 เมตร มีแถบยางสำหรับรัดเก็บสายคล้องติดมาให้กับตัวสายเลย
ก้านไมโครโฟน ก็ไม่สามารถถอดออกได้เช่นกัน การใช้งานเราบิดเลื่อนขยับให้พอดีกับปาก หรือพับหลบได้ โดยที่ตัวปลายไมค์เป็นพลาสติกและมีช่องของไมค์ ไม่มีฟองน้ำสำหรับกันลมมาให้
ก้านครอบหัว มีบุวัสดุฟองน้ำหุ้มช่วยใหไม่กดหัวเวลาสวมใส่ และขาของหูฟังทั้ง 2 ข้าง สามารถปรับยืดหดได้ 8 ระดับ เพื่อให้ได้ตำแหน่งที่กระชับในการสวมใส่มากที่สุด
ด้านนอกของครอบหูฟังทั้ง 2 ข้าง บริเวณที่เป็นโลโก้ Razer จะเป็นไฟแสดงสี รองรับ Razer Chroma RGB แสดงสีได้ถึง 16.8 ล้านสี และควบคุมการแสดงสีกับระบบ Razer Synape 3 ส่วนรอบๆ จะทำเป็นลวดลายคล้ายตะแกรง เพื่อเสริมความสวยงามให้กับตัวหูฟัง
ตัว Earpad ของหูฟังทั้ง 2 ข้าง วัสดุด้านในจะเป็นผ้าไฮบริด ส่วนฟองน้ำครอบหู เป็นเมมโมรี่โฟม ที่ค่อนข้างนุ่ม ใส่แล้วไม่รู้สึกบีบหัว
ที่ด้านหลังของหูฟังด้านซ้าย จะมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง และปุ่มกดเพื่อ Mute ปิดเสียงไมค์ ถือว่าสะดวกดีในการใช้งาน ที่กดปิดไมค์ได้จากตัวหูฟังเลย ไม่ต้องปิดจากในเกม หรือที่เมนูคอมพิวเตอร์
ทดสอบลองใช้งาน
ประสิทธิภาพเรื่องเสียง ทาง Razer ใช้ตัวไดร์เวอร์แบบ TRIFORCE ขนาด 40mm ที่ให้คุณภาพเสียงระดับที่ดี ชิ้นส่วนของไดร์เวอร์แยกเสียง Trible, Mid และ Bass ออกเป็น 3 ส่วน ทำงานแยกจากกัน ทำให้เสียงที่ได้มีมิติชัดมากขึ้น รวมถึงยังรองรับ 7.1 Surround (ใช้ได้เฉพาะกับ Windows 10 นะฟีเจอร์นี้) ถือว่าประสิทธิภาพรุ่นเสียง แม้จะเป็นหูฟังระดับเริ่มต้น แต่ก็ให้อารมณ์ได้คู่คี่กับรุ่นที่สูงกว่าได้อยู่
ตัวไมโครโฟน มาพร้อมเทคโนโลยี Razer HYPERCLEAR ที่เป็นไมค์แบบ Cardioid เน้นเก็บเสียงเฉพาะเสียงพูดของเรา โดยจะมีเสียงรบกวนจากภายนอกค่อนข้างน้อย
การใช้งานเล่นเกม รองรับการใช้งานกับคอมพิวเตอร์ ทั้ง Windows และ Mac ส่วนกับเครื่องเล่นเกมคอนโซล ก็ใช้งานได้ทั้ง PlayStaion 4 และ PlayStation 5 ได้อย่างไม่มีปัญหา เพียงแค่เสียบสายหูฟังเข้ากับพอร์ต USB ของคอมพิวเตอร์หรือเครื่องเกม ก็ใช้งานได้ทันที
บนคอมพิวเตอร์ PC แนะนำให้ใช้งานร่วมกับโปรแกรม Razer Synapse 3 เพื่อที่คุณจะได้ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ของ Razer อย่างเช่น คีย์บอร์ด, เม้าส์ ฯลฯ ให้ทำงานการแสดงสีไฟ RGB ร่วมกัน และปรับแต่งได้อย่างที่คุณต้องการ
ส่วนถ้าใช้กับ Mac แค่เสียบกับ USB ก็ใช้งานได้เลยแบบไม่ต้องลงโปรแกรมอะไร เข้าไปปรับที่ส่วนของ Sound เพื่อเลือก Output และ Input ได้เลย
กับ PS4 และ PS5 ก็เสียบปุ้บใช้งานได้ปั้บเช่นกัน บน PS5 ใช้งานฟีเจอร์ได้เต็มรูปแบบ ทั้งตัวหูฟังและไมค์ เลือกปรับในส่วนการจำลองเสียงแบบ 3D ได้ด้วย
ลองเล่นเกมอย่างสไตล์ FPS ที่ต้องฟังเสียงรอบข้างและการสนทนากับเพื่อนร่วมทีม เสียงถือโอเคฟังได้ชัดเจนที่จำลองเป็น 7.1 ให้ได้ยินตามทิศทางของเสียง ส่วนไมค์ก็คือฟังชัดเจนดีมาก
สรุป Razer Kraken V3 X ลองแล้วเป็นยังไง?
มาเรื่องแรกก่อนเลย กับความสบายในการสวมใส่ ตัวหูฟังนั้นน้ำหนักอยู่ที่ 285 กรัม ถือว่าค่อนข้างเบาสำหรับหูฟังเกมมิ่ง ซึ่งทำให้เวลาสวมเล่นเกมต่อเนื่องเวลานานๆ แล้วไม่รู้สึกเมื่อยหรือหนักหัว ส่วนฟองน้ำที่เป็นเมมโมรี่โฟม ก็กระชับดีไม่มีบีบหู แต่ถ้าเล่นนานๆ เป็นชั่วโมงก็มีเหงื่อชื้นๆ ขึ้นอยู่บ้างเล็กน้อย
เสียงอยู่ในระดับที่ให้มิติแยกชิ้นได้ค่อนข้างน่าพอใจ เหมาะสำหรับการเล่นเกม ส่วนถ้าจะใช้ฟังเพลงก็อยู่ในโทนเสียงเวทีกว้าง เบสมีแต่ไม่ได้หนักชัดเป็นลูกๆ ส่วนตัวชอบที่สะดวก มีปุ่ม Mute และปรับระดับเสียงที่ตัวหูฟังเลย เพราะนอกจากเอาไว้เล่นเกมแล้ว จะเอาไว้ใช้เวลาเข้า ZOOM ประชุมออนไลน์ ก็ได้เสียงและไมค์ที่คมชัดดีมาก
แต่ด้วยความที่มันเป็นหูฟังระดับเริ่มต้น จึงไมีมีฟีเจอร์บางอย่าง เช่น ไม่มีระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation แต่เวลาสวมแล้วเสียงรบกวนด้านนอกก็เข้ามาค่อนข้างน้อย และแอบเสียดายที่ไมค์ไม่มีแถมฟองน้ำครอบมาให้เพื่อตัดเสียงลม
โดยรวมแล้ว Razer Kraken V3 X กับ ราคา ค่าตัวที่ 2,490 บาท ถือว่าเป็นหูฟังเกมมิ่งที่อัปเดตเทคโนโลยีด้านเสียงใหม่ล่าสุด มาให้กับรุ่นระดับเริ่มต้นของแบรนด์ ในระดับที่น่าพอใจ คุณภาพเสียงและไมค์ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนพอสมควร รวมถึงออกแบบมาให้เบาดีมากๆ สวมใส่นานๆ แล้วไม่อึดอัดรำคาญ
สามารถหาซื้อ และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.razer.com
