ปัจจุบันกระแสการขุดเงินคริปโตได้กลับมาปังและมีผู้ให้ความสนใจมากขึ้นอีกครั้ง หลังจากค่าเงินดิจิทัลต่างๆ เพิ่มขึ้น ล่าสุดสกุลเงินดิจิทัล Chia เพิ่งเปิดให้มีการเทรดไปเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยคอนเซ็ปต์ของเจ้าเหรียญตัวนี้จะแตกต่างจากเงินคริปโตตัวอื่นๆ สิ่งที่ทำให้ Chia แตกต่างจากเงินคริปโตตัวอื่นๆ อย่าง Bitcoin และ Ethereum คือมันจะเน้นไปที่การใช้พื้นที่เก็บข้อมูลมาเป็นตัวกลางในการขุด โดยการ ขุดเหรียญ Chia จะได้ประโยชน์จากการใช้ SSD ที่มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลความเร็วสูงจำนวนมาก
สำหรับใครที่คิดจะเป็นนักขุด Chia คงต้องอ่านข่าวนี้ก่อน เพราะมีรายงานล่าสุดเปิดเผยว่า มีการทดสอบการใช้งาน SSD ขนาด 512GB ขุดเหรียญ เงินดิจิทัลตัวนี้ ได้เพียง 40 วันเท่านั้นก่อนพื้นที่จัดเก็บข้อมูลตัวดังกล่าวจะพัง
นอกจากนี้ยังมีรายงานเข้ามาเพิ่มเติมว่า มีการทดสอบโดยนำ SSD อีกตัวที่ขนาด 1TB ไปใช้ในการขุดเหรียญ Chia และผลที่ได้ก็ออกมาคล้ายกัน คือสามารถใช้งาน SSD ตัว 1TB ได้เพียง 80 วันเท่านั้นก่อนมันจะพังและไม่สามารถใช้งานได้อีกแล้ว
อย่างที่กล่าวเอาไว้ข้างต้นว่าคอนเซ็ปต์ของ Chia จะไม่เหมือนกับเงินคริปโตตัวอื่น หากต้องการจะขุดเหรียญ Chia ให้ได้มากๆ จะต้องมีขนาดของพื้นที่จัดเก็บข้อมูลจำนวนมากพอสมควร โดยการขุดจะใช้พื้นที่ขนาด 100GB เพื่อนำมาทำเป็นคลัสเตอร์ในการขุดที่เรียกว่า plots ซึ่งยิ่งเรามีจำนวน plots มากเท่าไหร่ จะสามารถขุด Chia ได้ดีขึ้นมากเท่านั้น
หากใช้ตัวเก็บข้อมูลที่มีพื้นที่ขนาด 1TB จะทำให้เรามีกำลังในการขุดประมาณ 10 plots โดยกำลังการขุดเท่านี้ อาจต้องรอเป็นปีกว่าจะขุดได้ Chia มาสัก 1 เหรียญ
หากคุณเป็นคนใจร้อนที่ไม่ชอบการรอคอยอะไรนานๆ ลองหาบอร์ด Onda B365 D32-D4 Magic Edition ที่มาพร้อมกับพอร์ต SATA จำนวน 32 พอร์ต แล้วลองยัด SSD ขนาด 10TB เข้าไปเต็ม 32 ลูก จะได้กำลังขุดถึง 3,232 plots และทำให้ขุด Chia 1 เหรียญได้ในเวลาประมาณ 2 วัน
ความเห็นจากทีมงาน ล้ำหน้าฯ
การลงทุนในเงินคริปโตมีความเสี่ยงที่สูง ผู้ที่ต้องการเข้าวงการขุดเงินคริปโตคงต้องคิด พิจารณาและตัดสินใจให้ดีก่อนลงทุนซื้อฮาร์ดแวร์ต่างๆ เพื่อใช้ในการขุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากจะขุดเหรียญ Chia คงต้องหาซื้อพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบรนด์ที่ยินยอมและมีเงื่อนไขการรับประกันการนำอุปกรณ์ดังกล่าวไปใช้ในการขุดเงินคริปโต เช่น TeamGroup ไม่อย่างนั้น หากใช้งานขุดไปได้เพียง 40 วันหรือ 80 วันตามรายงานข่าวข้างต้นแล้วไม่มีประกัน ผู้ใช้จะเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์และไม่คุ้มค่าขุด
และอีกสิ่งที่เราจะต้องกังวลในอนาคต ก็คือ การนำเอา SSD ที่เสื่อมสภาพ (หรือใกล้เสื่อมสภาพ) มาขายทอดตลาด ซึ่งถ้าหากผู้ซื้อไม่ตรวจเช็คค่า TBW ของสินค้าให้ดี ก็อาจจะได้ของที่ถูกเอาไปขุดCHIA จนเสื่อมประสิทธิภาพแล้วก็ได้
ที่มา : NOTEBOOK CHECK