ประเทศอินเดียเริ่มมีการกวาดล้างบริษัทจีนตั้งแต่ปีที่แล้ว โดย Huawei เป็นบริษัทแรกๆ ที่โดนแบน ต่อจากนั้นแอปที่มีผู้พัฒนาเป็นบริษัทจีนหลายตัวถูกแบนในประเทศอินเดียอย่างต่อเนื่อง เช่น เกม PUBG Mobile ของ Tencent และ TikTok ไม่สามารถใช้งานได้ในประเทศอินเดีย
ล่าสุด การแบนเทคโนโลยีของจีนในประเทศอินเดียกำลังเกิดขึ้นอีกระลอก โดยมีรายงานข่าวว่าอินเดียได้ระงับการอนุมัติการนำเข้าอุปกรณ์ W-iFi จากประเทศจีน ซึ่งการระงับนั้นมีขึ้นเป็นเวลาหลายเดือน ส่งผลให้เกิดความล่าช้ากับหลายบริษัท เช่น Dell , HP , Xiaomi , Oppo , Vivo และ Lenovo ไม่สามารถจัดส่งอุปกรณ์ได้
ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็คือ บริษัทที่โมดุล Wi-Fi จากประเทศจีนไม่สามารถจัดส่งผลิตภัณฑ์ของตนไปยังประเทศอินเดียได้แล้ว โดยแหล่งข่าวระบุว่าอินเดียเลื่อนการนำเข้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกซ์สำเร็จรูปที่มีโมดุล Wi-Fi จากจีน รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีโมดุล Wi-Fi จากจีน เช่น ลำโพงบลูทูธ , หูฟังไร้สาย , สมาร์ทโฟน , สมาร์ทวอช และแล็ปท็อป ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020 แผนกวางแผนและประสานงานระบบไร้สาย (Wireless Planning and Coordination Department หรือ WPC) ที่อยู่ภายใต้กระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศของอินเดียได้ระงับการอนุมัติการนำเข้าอุปกรณ์ที่กล่าวมา
นับตั้งแต่นั้นมา แอปพลิเคชันกว่า 80 รายการจากบริษัทในสหรัฐอเมริกา , จีน และเกาหลีต้องรอการอนุมัติจาก WPC แม้แต่บริษัทในอินเดียบางแห่งก็ยังต้องรอการอนุมัติจาก WPC ในการนำเข้าผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปจากจีน
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีบริษัทใดๆ เช่น Dell , HP , Xiaomi , Oppo , Vivo และ Lenovo ออกมาให้ความเห็นอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องนี้ รวมถึงกระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศของอินเดียที่ยังไม่ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน
ดูเหมือนว่าอินเดียจะไม่หยุดการแบนไว้ที่เทคโนโลยีของจีนเท่านั้น ตามรายงานล่าสุดระบุว่า อินเดียกำลังเสนอกฎหมายเพื่อแบนสกุลเงินดิจิทัล (cryptocurrency) และการกำหนดข้อจำกัดเงินสกุลดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อมองและพิจารณาถึงความนิยมของเงินคริปโตในอินเดีย ถือว่ามันเป็นฟันเฟืองที่ใหญ่มาก ดังนั้นฝ่ายนิติบัญญัติพยายามทำทุกอย่างด้วยความระมัดระวัง
ถึงแม้อินเดียกำลังพิจารณาเรื่องการควบคุมและแบนเงินคริปโต แต่ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ ที่ชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นนี้ และดูเหมือนมันต้องใช้เวลาในการพิจารณาพอสมควร
