รีวิว GetsuFumaDen: Undying Moon กำเนิดใหม่ ฟุกุดะ ดาบสายลม

14 พฤษภาคม 2021

รีวิว GetsuFumaDen: Undying Moon ที่ทาง Konami นำเอาเกมเก่าสมัยเมื่อ 30 กว่าปีก่อน มาสร้างใหม่เป็นแนว Rogue-like ที่สนุก ท้าทาย และภาพกราฟฟิคที่สวยมากๆ เปิดตัวลงใน Steam แบบ Early Access แล้ว และมีกำหนดจะลงใน Nintendo Switch ปี 2565

ก่อนอื่นต้องย้อนกลับไปถึงต้นตำรับของเกมนี้ คือเกม GetsuFumaDen ที่วางจำหน่ายในญี่ปุ่นเมื่อปี 2530 (นับๆ ก็คือ 34 ปี) ซึ่งบอกชื่อ GetsuFumaDen ไปแล้วแทบไม่มีใครรู้จัก แต่ถ้าบอกว่าเกมนี้คือเกม “ฟุกุดะ ดาบสายลม” เกมเมอร์รุ่น 30+ นี่รู้จักกันทันที ซึ่งผมเองก็งงว่า ใครมันเป็นคนเรียกเกมนี้ว่า ฟุกุดะ ดาบสายลม เพราะในเรื่องก็ไม่มีตัวละครไหนที่ชื่อ ฟุกุดะ เลย

ในอดีตเกมนี้เป็นเกมแนวแอคชั่น RPG แบบเดินลุยด้านข้าง และมีการตัดฉากเป็นเดินบนแผนที่ และฉากลุยดันเจี้ยนแบบ 3D ถือว่าเจ๋งมากในยุคเครื่องฟามิคอมสมัยนั้น การเล่นมีปริศนา ผจญภัย และ Password ภาษาญี่ปุ่นยาวเหยียด (สมัยนั้นยังเป็นเกมที่ไม่มี Save ด้วยแบตเตอรี่ได้) และก็ไม่มีภาคต่อ แต่ตัวเอกมีไปปรากฎในเกมรวมมิตรของ Konami อย่าง Wai Wai World (หรือที่คนไทยเรียกว่า Konami World)

มาที่โปรเจคของภาค Undying Moon เป็นการร่วมมือกันระหว่าง Konami เจ้าของลิขสิทธิ์เกมนี้ กับ GuruGuru บริษัทพัฒนาเกมอิสระ ที่นำเอาเกม GetsuFumaDen มาสร้างใหม่ โดยยังคงความเป็นเกมแอคชั่น 2D ด้านข้าง แล้วผสมผสานกับสไตล์เกมยุคใหม่แบบ Rogue-Like (หรือที่ Konami เรียกว่า Roguevania) ทำให้ตัวเกมมีมิติที่ลึกมากขึ้น พร้อมความสนุกท้าทาย

ก่อนอื่น บางคนอาจจะไม่รู้จักว่าเกมแนว Rogue-Like เป็นยังไง แนวเกมนี้ตั้งตามชื่อนั่นล่ะ คือ “เกมแนวเดียวกับเกม Rogue” ซึ่งเจ้าเกมนี้เป็นเกมตั้งแต่สมัยปี 1980 นู่นเลย และก็มีเกมดังๆ หลายเกมที่พัฒนาออกมาโดยใช้สไตล์เกมนี้ อาทิ Don’t Starve, Darkest Dungeon, Dead Cell และที่ดังมากๆ ในปีที่แล้วอย่างเกม Hades

หัวใจหลักของเกมแนวนี้ก็คือ ด่านและฉากต่างๆ ในเกม รวมถึงจุดตำแหน่ง, ประเภทของศัตรู, ไอเท็ม, หีบสมบัติ ทุกครั้งที่เราเล่น จะถูกสุ่มสลับเปลี่ยนย้ายที่ไม่ซ้ำกัน เรียกว่า เล่นร้อยรอบ ก็ฉากร้อยแบบ และยังมาพร้อมกับความยากชวนหัวร้อน ที่ศัตรูระหว่างทางทุกตัว สามารถสอยเราร่องได้ง่ายๆ ถ้าเราไม่ระวัง และเมื่อคุณตายคือการกลับไปเริ่มต้นใหม่ โดยของที่เก็บได้ระหว่างการเล่นรอบนั้นจะหายไป

ด้วยความท้าทายและเล่นได้ไม่ซ้ำนี่ล่ะ ทำให้เกมแนว Rogue-Like มีความสนุกในทุกครั้งที่คุณเปิดเล่น และก็วนเล่นซ้ำๆ ได้เรื่อยๆ เพื่อพัฒนาปลดล็อคความสามารถของคาแรคเตอร์ของเรา ซึ่งเกม GetsuFumaDen: Undying Moon นำมาใช้และทำได้ดีมากๆ

เนื้อเรื่องย่อ GetsuFumaDen: Undying Moon

ก่อนจะเริ่ม รีวิว ขอเล่าเนื้อเรื่องย่อสั้นๆ ของเกมนี้ก่อน หลักๆ เหมือนกับต้นฉบับยุคฟามิคอม เป็นเหตุการณ์ หลังจากช่วงเวลา 1,000 ปีแห่งความสุขสงบ ผนึกประตูสู่โลกันตร์ก็พังทลายลง จนทำให้วิญญาณอสูรร้ายระลอกใหญ่ได้รับการปลดปล่อยออกสู่โลกมนุษย์

และในช่วงเวลาที่โลกตกอยู่ในภาวะใกล้สูญสิ้นนั้นเอง Getsu Fuma (ย้ำนะครับ ไม่ได้ชื่อฟุกุดะ) ผู้นำตระกูลรุ่นที่ 27 ต้องออกเดินทางสู่ขุมนรกเพื่อทำลายเหล่าอสูรร้ายให้ราบคาบ

Game Play – รูปแบบการเล่น (9/10)

การเล่นในแต่ละรอบ จะมีด่านทั้งหมด 6 ด่าน โดยด่านแรกจะเป็น Land of Limbo ทางเชื่อมต่อนรกกับโลกมนุษย์ จากนั้นก็ฉากแยกย่อยให้เลือกไปต่อ ซึ่งจะปลดล็อคเมื่อเก็บป้ายบอกทางในระหว่างการเล่น โดยฉากจะมีด้วยกันทั้งหมด 11 ฉาก ถือว่าค่อนข้างเยอะทีเดียวสำหรับเกมแอคชั่น

จุดเริ่มต้นของเกมจะอยู่ที่บ้านของตระกูลเก็ทสึ ที่เราจะเลือกปรับระดับความยากของเกมได้, พูดคุยกับร่างทรงเพื่ออัปเกรดอาวุธและพัฒนาตัวละคร โดยจะมีให้เราเลือกหยิบอาวุธติดมือไปสู้กับเหล่าผีนรกได้ 2 ชิ้น (ดาบเก่า 1 ชิ้น และอีกชิ้นจะสุ่ม)

อาวุธของเรานั้นจะแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่คือ

อาวุธหลัก (Main Weapon) จะมีด้วยกันทั้หมด 6 ชนิด แต่ละชนิดมี 5 แบบ ได้แก่
- ดาบ (Katana) อาวุธพื้นฐานที่สมดุลที่สุด สามารถกดท่า counter เพื่อโต้กลับเวลาศัตรูโจมตีมาได้
- ร่ม (Battle Umbrella) อาวุธฟันที่คอมโบสั้น แต่ใช้กระโดดแล้วลอยตัวกลางอากาศได้ และกดตั้งป้องกัน Parry การโจมตีของศัตรูได้
- อาวุธ 2 มือ ( Dual Weild Weapon) โจมตีได้รวดเร็ว คอมโบเยอะ แต่พลังโจมตีค่อนข้างเบา
- ตะบอง (Bludgeon) โจมตีได้ช้าแต่แรงมาก มีท่าโจมตีจากอากาศหมุนควงลงมาฟาดศัตรู
- หอก (Polearm) โจมตีระดับกลาง มีท่าใหญ่คือแทงรัว
- อาวุธหมัด (Gauntlets) โจมตีดีในระยะประชิด น้ำหนักไม่แรงมากนัก
อาวุธเสริม (Sub Weapon) มีด้วยกันทั้หมด 6 ชนิด แต่ละชนิดมี 9 แบบ การใช้จะมีจำนวนครั้งใช้จำกัด เมื่อใช้หมดจะต้องรอ reload ได้แก่
- ธนู (Bow & Arrow) ใช้โจมตีระยะไกล มีลูกธนูยิงได้ต่อเนื่องหลายนัด
- ระเบิด (Explosives) ลูกระเบิดจะระเบิดทันทีถ้าปาโดนศัตรู หรือจะโยนให้กลิ้งไปกับพื้นก็ได้
- อาวุธซัด (Kunai) ปาออกไปครั้งละ 3 ดอก สามารถชิ่งกระทบกับกำแพงได้
- เรือใบ (Caltrops) โปรยเป็นกับดักไว้ที่พื้น จะทำงานเมื่อศัตรูเดินมาเหยียบ
- กำไลเวทย์ (Mana Bracelet) โจมตีด้วยพลังธาตุในระยะประชิด
- ปืน (Matchlock) ยิงกระสุนโจมตีจากระยะไกล

เราสามารถถืออาวุธหลักได้ 2 ชิ้น และอาวุธเสริมได้อีก 2 ชิ้น ดังนั้นระหว่างการเล่นเวลาเจออาวุธที่เปิดจากหีบหรือดรอปจากศัตรู ก็ต้องคิดให้ดีว่าจะเก็บอะไรมาใช้

การพัฒนา Ability ตัวละครจะใช้วิญญาณที่เก็บได้ระหว่างการเล่น มีสีเขียวพัฒนาด้านร่างกาย และสีเหลืองพัฒนาด้านพิเศษ ส่วนอาวุธ จะใช้ชิ้นส่วนไอเท็มที่ดร็อปจากศัตรู หรือเปิดได้จากหีบระหว่างฉาก เราจะเลือกอัพได้จากการคุยกับร่างทรง ที่จะอยู่ในหมู่บ้านตอนเริ่มเกม และหลังจากฆ่าบอสได้ในแต่ละฉาก

ซึ่งชิ้นส่วนที่เก็บได้ระหว่างฉาก หากเราตาย ของที่เราเก็บได้จะหายไปทั้งหมด ถ้าไม่อยากให้ของหายไปก็คือ ทำการใช้ในการอัปเกรดไอเท็มหลังฆ่าบอสได้ หรือถ้าคิดว่าไปต่อไม่ไหว ก่อนจะเลือกฉากต่อไป จะมีให้เลือกถอดวิญญาณกลับมาที่หมู่บ้านตระกูลเก็ตสึได้ (พูดง่ายๆ คือยอมแพ้นั่นล่ะ) ไอเท็มชิ้นส่วนทั้งหมดที่เก็บมาจะไม่หายและมาเก็บไว้ในหีบเพื่อใช้ต่อได้

การเล่นช่วงแรกๆ แนะนำว่าอย่าเปรี้ยวมากเพราะอาวุธพื้นๆ นั้นพาคุณไปได้ไม่ไกล แนะนำให้เล่นเพื่อเก็บชิ้นส่วนแล้วถอดวิญญาณกลับหมู่บ้าน สะสมเพื่อปลดล็อคและตีอาวุธใหม่ๆ เพื่อที่ว่าในการเล่นครั้งต่อๆ ไปจะสามารถได้อาวุธที่หลากหลายขึ้น

ความหลากหลายของอาวุธหลังจากอัปเกรดแล้ว จะมีเรื่องของระบบ Ability เสริมมาด้วย อย่างเช่นน้ำแข็งที่สามารถแช่แข็งศัตรูได้, ทำให้ติดพิษ, ติดไฟ ฯลฯ ก็ทำให้เกมมีการหลากหลายในการเก็บอาวุธเพื่อใช้ต่อสู้เพิ่มขึ้น

และในการเล่นแต่ละรอบ จะมีให้เราตีบวกเพื่อพลังตัวละครและอาวุธได้ด้วย

ตัวละคร จะใช้ดวงวิญญาณสีฟ้า ที่จะได้จากการเปิดหีบใหญ่ หรือฆ่าปิศาจสีดำ โดยสะสมเพื่อเพิ่มพลังโจมตี, พลังอาวุธเสริม, เพิ่ม HP และ เพิ่มยาฟื้นพลัง (กด R3 เพื่อใช้)
อาวุธ ตีบวกด้วย Soul Memory ดวงวิญญาณสีม่วงที่อยู่กับโครงกระดูกคนตาย เราสะสมไว้แล้วเอาไปใช้กับร่างทรงหลังชนะบอส ซึ่งอาวุธแต่ละชนิดจะมีรูทการอัพได้หลายอย่าง (ซึ่งต้องไปตีบวกก่อนถึงจะอัพได้)

สำหรับการอัปเกรดระหว่างเกมนี้ จะหายหมดเมื่อเราตายและเริ่มใหม่เช่นกัน

Visual Art – ภาพและเสียง (10/10)

เป็นสิ่งที่ประทับใจมากๆ และต้องปรบมือให้กับทีม GuruGuru ที่ทำเกมนี้ คอนเซปต์ของเกมที่มีฉากหลังเป็นญี่ปุ่นยุคโบราณ ถ่ายทอดออกมาได้อย่างสวยงาม ด้วยลายเส้นสายที่เป็นเหมือนภู่กันวาด ลายเส้นที่ดูเป็นศิลปะแบบดั้งเดิม

ตัวกราฟฟิกนั้นเป็นแบบ 3D ที่มาทำการเรียงทับซ้อนเป็นฉาก 2D ได้อย่างลงตัว ตอนที่เห็นเป็น screenshot ครั้งแรกแอบรู้สึกว่า เอ๊ะ มันจะรกไปหรือเปล่า แต่พอเล่นจริงๆ แล้วไม่รู้สึก แต่เห็นได้ว่ารายละเอียดทุกอย่างทำได้ดีมากๆ และตัวเกมที่เล่นได้ภาพสูงสุดที่ 4K 120fps ก็ทำให้การเล่นดูลื่นไหลคมชัดมากๆ

การออกแบบฉากต่างๆ ทำได้ดีเกินคาด ตัวเกมที่เป็น Rogue-like ฉากมีการแรนด้อมให้แตกต่างกันทุกครั้งที่เล่น ทำออกมาได้ดี แถมในบางฉากนั้นมีความยาวมากๆ ชนิดที่ว่าถ้าจะวิ่งให้ทั่วต้องใช้เวลา 15-20 นาทีต่อฉากกันเลย

อาร์ตเวิร์คของทุกฉากสวยงามและชอบทั้งหมด เหมือนเรากำลังวิ่งอยู่ในภาพวาดศิลปะ และฉากทุกฉากก็มีความท้าทายและปริศนาให้แก้อยู่ด้วย ที่แม้ว่าเส้นทางหรือศัตรูจะสลับเปลี่ยนไป แต่แก่นของแต่ละฉากจะเหมือนเดิม ส่วนตัวผมชอบฉาก The Great Wave of Dammation ที่เป็นคลื่นทะเลสึนามิ และสายฝน ทำออกมาสวยมากๆ

เรื่องของเสียง เพลงประกอบ สร้างบรรยากาศเหมือนอุปรากรญี่ปุ่นแท้ๆ ทั้งเสียงเครื่องดีด, กลอง และยังมีเสียงโหยหวน ชวนให้ขนลุกสมกับที่เรากำลังบุกแดนนรก ฉากคลื่นทะเลที่มีเสียงซัดตลอดเวลา

หัวข้อนี้ผมให้ 10/10 แบบไม่หักเลย เพราะทำออกมาดีอย่างลงตัว ทำออกมาได้สวยงามและปราณีตมากๆ

Playable – ความสนุก+ท้าทาย (9/10)

เกมนี้ให้ความเป็น Rogue-Like ได้อย่างสมบูรณ์แบบ คือพร้อมที่จะให้เราหัวร้อนได้ตลอดเวลา ถ้าหากพลาดหรือสมาธิหลุดนิดนึง คุณอาจจะโดนยักษ์ทุบตายใน 3 ที ไม่ก็โดนระเบิดอึของจิ้งหรีดที่ปลิวมาอย่างน่ารำคาญ แต่มันก็คือความท้าทายให้เราเล่นและผ่านแต่ละฉากไป

ความยากของเกมก็เกิดจากความห้าวของผู้เล่นด้วย เหตุที่ว่าถ้าหากตายระหว่างเกม ไอเท็มชิ้นส่วนที่เก็บได้มาจะหายเกลี้ยง ดังนั้นเวลาฆ่าบอสแต่ละด่านสำเร็จ ก็ต้องตั้งสติกันว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ วาร์ปกลับหมู่บ้านหรือจะลุย ซึ่งอันนี้ถือว่ายังใจดีกับผู้เล่นที่ให้ย้อนกลับได้ อย่างน้อยก็ยังได้ฟาร์มของปลดล็อคให้เกมลุยได้สนุกขึ้น

สิ่งที่รู้สึกขัดใจอยู่บ้างจะเป็นเรื่องของาการทำคอมโบในการโจมตี ที่ยังค่อนข้างสั้นไปหน่อย เข้าใจว่าทีมพัฒนาไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบ Hack & Slash ที่ฟันแหลกลาญ แต่อยากให้เล่นแบบศิลปะการต่อสู้ญี่ปุ่น ที่เน้นจับจังหวะตอบโต้ ดังนั้นการเล่นเกมนี้คือจะต้องมีสมาธิพอสมควร อารมณ์แกว่งนิดเดียว อาจจะเสียกระบวนเอาได้ง่ายๆ

หรือที่พอจะเป็นคอมโบได้ ก็จะมีการโจมตีต่อเนื่องแบบไม่โดนศัตรูโจมตี จนเข้าสู่โหมด Demoization ที่จะช่วยให้เคลื่อนไหวเร็วขึ้น และเพิ่มจำนวนไอเท็มดร็อปมากยิ่งขึ้นด้วย รวมถึงการโจมตีด้วยอาวุธที่มีสกิล Break เมื่อฟันต่อเนื่องจะมีโอกาสใช้สามารถจัดการด้วยท่าใหญ่ได้ หรือ Execute ที่จะใช้ได้จากการโจมตีทางด้านหลังศัตรู

อีกอย่างที่สำคัญคือ เกมนี้ ต้องใช้จอยคอนโทรลเลอร์นะครับ ใช้คีย์บอร์ดบอกเลยไม่รอดแน่นอน

สรุป (9.5/10)

ถ้าคุณชอบ Dead Cell ผมเชื่อว่าคุณจะชอบ GetsuFumaDen: Undying Moon ด้วย ด้วยเกมที่เป็นแบบแพลตฟอร์มด้านข้างเหมือนกัน อาวุธและการพัฒนาตัวละครก็ค่อนข้างหลากหลาย แต่ที่แน่ๆ เลย งานอาร์ตเวิร์คของเกมนี้ทำได้สวยมาก และฉากแต่ละฉากให้เล่นได้ยาว ไม่น่าเบื่อ การสู้กับบอสต้องอาศัยจับจุดและใจเย็น หลบและโต้ตอบตามจังหวะและอาวุธที่เรามี เป็นการเล่นแอคชั่น RPG ที่ต้องใช้ไหวพริบตลอดเวลา

ตัวเกมซื้อเล่นได้แล้วผ่าน Steam ที่เปิดเป็น Early Access ที่ทางทีมพัฒนาเลือกเปิดตัวในแพลตฟอร์มนี้ ก็เพราะต้องการรับฟังเสียง feedback จากผู้เล่น เพื่อนำมาพัฒนาเกมให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องบอกว่าตอนนี้เกมก็ยังไม่ได้เสร็จสมบูรณ์ ยังมีหลายฉากที่ยังไม่ปล่อยออกมา แต่ตัวเกมก็พร้อมระดับที่เล่นได้โดยไม่เจอบัก และสมดุลของเกมก็ทำได้ค่อนข้างดี

แผนการของเกมนี้ ทีมจะเก็บข้อมูลในช่วง Eary Access เพื่อปรับแต่งพัฒนาตัวเกม และจะออกเป็นตัวสมบูรณ์ และเวอร์ชั่นสำหรับ Nintendo Switch ในปีหน้า (2565) ผมแอบหวังในใจว่า ขอให้ลงคอนโซลอื่นๆ อย่าง Playstation หรือบนโมบายทั้ง iOS และ Android ด้วยจะดีมาก

และแอบหวังเล็กๆ ว่า จะมีเป็นภาษาไทยด้วยจะดีมากๆ เพราะดูแล้วเนื้อหาในเกมส่วนที่เป็นภาษาและเนื้อเรื่องนั้นมีไม่มากเกินไปสำหรับการแปล

เรื่องของกราฟฟิก ส่วนตัวผมชอบสไตล์นี้ที่ทีมตีโจทย์แล้วทำออกมาเป็นเกมได้ดี แต่กับบางคนอาจจะรู้สึกว่ามันเยอะและรก อันนี้ถือว่าแล้วแต่ความชอบ แต่ที่แน่ๆ คือไม่ได้รู้ว่ามันลายตาแต่อย่างใด

ต่อมาในเรื่องของราคาเกม ที่ 662 บาท ถ้าเทียบกับเกมที่เป็น Early Access แล้วก็ถือว่าสูงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แต่หลังจากลองเล่นไป 20 กว่าชั่วโมง ตัวเกมถือว่ามีความสมบูรณ์และไม่เจอบั๊กใหญ่ๆ ที่ทำให้หงุดหงิดเลย

สำหรับคนที่ซื้อเกมนี้ในช่วง Early Access ของ Steam วันที่ 14 พฤษภาคม 2564 ผู้เล่นนอกจากจะได้ตัวเกมแล้ว ยังจะได้ของแถมเป็นหนังสือดิจิทัลอาร์ท และซาวด์แทร็คเพลงประกอบ Gรวมถึงเกม GetsuFumaDen เวอร์ชั่น Famicom ที่พอร์ตมาให้เล่นบนสตรีมแถมให้อีกด้วย

ขอขอบคุณ Konami Digital Entertainment Limited สำหรับตัวอย่างเกมในการทดสอบครับ