รีวิว HP Spectre x360 โน้ตบุ๊คแบบ 2-in-1 ที่จัดเต็มตั้งแต่ดีไซน์สวยพรีเมียม บางเบา ออกแบบมาตอบโจทย์การใช้งานพกพาได้อย่างคล่องตัว หน้าจอ 13.3 นิ้ว ที่กางได้ 180 องศา รองรับทัชสกรีน ที่สำคัญ มาพร้อมขุมพลัง Intel Core I Gen 11 (I7-1165G7) การ์ดจออนชิพรุ่นใหม่ Intel Xe มาตรฐานแพลตฟอร์ม Intel EVO
รุ่นนี้เป็นสเปคสำหร้บปี 2021 ที่ทาง HP จัดเต็มให้กับ Spectre x360 คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ครุ่นที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของทาง HP กับการออกแบบที่สวยงาม ปราณีต วัสดุที่ดูหรูหรา โดดเด่นกว่าโน้ตบุ๊คทุกรุ่นที่อยู่ในท้องตลาด ชนิดที่ว่าหันมามองปุ้บก็รู้ปั๊บเลยว่า นี่คือ Spectre x360
และในปี 2021 นี้ HP ยังคงดีไซน์เดิมไว้ แต่ข้างในอัปเกรดให้ทรงพลังสุดๆ ด้วยโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่อย่าง Intel Core I Generation ที่ 11 (Tiger Lake) ก่อนอื่น มาดูสเปคโดยรวมของรุ่นนี้กัน
รีวิว HP Spectre x360 I7-1165G7
ข้อมูล สเปค เบื้องต้น
- หน้าจอ : IPS รองรับทัชสกรีน ขนาด 13.3 นิ้ว FHD (1920 x 1080) 60Hz
- น้ำหนัก : 1.3 กิโลกรัม
- โปรเซสเซอร์ : Intel Core i7-1165G7 (2.80 GHz, 12 MB L3 Cache up to 4.70 Ghz)
- หน่วยประมวลผลกราฟฟิค : Intel Iris Xe
- หน่ววความจำ : SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB
- RAM : 16GB DDR4 3200 MHz
- พอร์ตเชื่อมต่อ
- 1x USB 3.1 Type A
- 1x USB 3.1 Type C (Thunderbolt 4)
- 1x microSD card reader
- 3.5mm Headphone+microphone
- WiFi : 802.11 ax
- Bluetooth : 5.0
- กล้อง : FHD IR
- ไมโครโฟน : Dual Microphone
- ลำโพง : ระบบของ Bang & Olufsen
- รองรับ ปากกา : HP Active Pen
- มี Fingerprint Sensor
- แบตเตอรี่ : 4-Cell Li-ion มาพร้อมอแดปเตอร์ 65W
- คีย์บอร์ด : แบบ Chiclet พร้อมไฟ Backlit
- ระบบปฏิบัติการ : Microsoft Windows Home (64-Bit)
- การรับประกัน : 3 ปี Onsite Service
- ราคา : 55,900 บาท
Design – การออกแบบ
มาดูในส่วนของการออกแบบ และรูปลักษณ์ของ HP Spectre x360 (I7-1165G7) กันบ้าง บอกเลยว่ายังคงหน้าตาแบบรุ่นก่อนหน้านี้เอาไว้แบบทุกประการ แต่นั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะรูปทรงหน้าตาของ HP Spectre x360 นั้น โดดเด่นชัดเจน และสวยลงตัวอยู่แล้ว ซึ่งผมเองก็ชอบหน้าตาของมันตั้งแต่ครั้งแรกที่เปิดตัว
ความสวยอันโดดเด่นก็คือ ตัวเฟรมเครื่อง ที่ใช้เป็นวัสดุอลูมิเนียม เล่นขอบตัดแบบไดมอนด์คัท ให้อารณ์มดูหรูหราเหมือนเครื่องประดับระดับพรีเมียม ตัวเครื่อง HP Spectre x360 I7-1165G7 ที่ทางเราได้มา รีวิว จะเป็นสีเงิน ที่คุมโทนเรียบสวยทั้งตัวอย่างลงตัว โดยตัวเครื่องนั้น ความบางอยู่เพียงแค่ 14.7 มิลลิเมตร และหนัก 1.3 กิโลกรัม ทำให้สะดวกในการพกพาเดินทางไปได้ทุกที่
ฝาด้านบนของตัวเครื่อง จะมีโลโก้ของ hp ที่เป็นเส้นสาย minimal สีมันเงา ตัดกับตัวเครื่องที่เป็นสีด้าน ซึ่งโลโก้นี้ทาง hp จะมีใช้สำหรับสินค้ารุ่นพรีเมียมในซีรี่ย์ Spectre และ ENVY เท่านั้น
ตัวฝาพับนั้น ออกแบบได้สวยงาม และแข็งแรง เป็นทรงตัดขอบเหลี่ยมสวยงาม และข้อต่อฝาพับนั้นก็มีความแข็งแรง ตามที่บอกว่าสามารถพับหมุนได้ถึง 360 องศาอย่างมั่นคงไม่มีโยกเยก โดยแถบด้านล่างของเครื่อง จุดนี้จะมีช่องสำหรับระบายความร้อนจากภายในเครื่องอยู่ด้วย
มุมของเฟรมเครื่องด้านฝาพับ จะมีการออกแบบที่เก๋มาก คือเป็นตัดมุม ไม่ได้เป็นมุมโค้ง แล้วมีการใส่ปุ่ม Power ไว้ที่ด้านซ้าย ส่วนมุมขวาเป็นพอร์ด USB-C เป็นตำแหน่งที่วางได้ลงตัวดูดีเลยทีเดียว
ด้านขวาของตัวเครื่อง จะมีพอร์ต USB-C อีกจุด ซึ่งทั้ง 2 พอร์ตฝั่งนี้รองรับมาตรฐาน Thunderbolt 4 และมีสวิทช์ Webcam Kill เพื่อปิดกล้องเวลาที่ไม่ต้องการใช้งาน และมีพอร์ตของการ์ดรีดเดอร์แบบ microSD ช่วยให้สะดวกเวลาต้องการก็อปปี้ข้อมูลจากกล้องถ่ายรูปหรืออุปกรณ์ต่างๆ
ด้านซ้ายตัวเครื่อง ปุ่ม Power จะอยู่ที่มุมตัดของเฟรม และมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร และพอร์ต USB-A ที่เป็นฝาพับมาให้สวยงามรับกับเฟรมเครื่อง เวลาจะใช้ก็แค่ดันฝาลงมาหน่อย ถือว่าออกแบบไดดี
ด้านล่างตัวเครื่อง ฝั่งซ้ายขวาด้านหน้า จะเป็นช่องลำโพงคู่ ของ Bang & Olufsen และที่ด้านล่างก็จะมีแผงระบายความร้อนด้านใต้ขนาดใหญ่ โดยที่จะมีแถบยางกันลื่นเป็นเส้นเรียงที่ด้านบนและล่างของตัวเครื่อง ทำให้วางบนโต๊ะได้อย่างมั่นคงมากขึ้น
เปิดมาภายใน ตัวคีย์บอร์ดเป็นแบบ Cricklet เรียงแป้นระยะถนัดสำหรับการพิมพ์ มีไฟ Backlit มาให้ด้วย จัดเลย์เอาท์แบบ 4 แถว จังหวะการกดถือว่าพิมพ์ได้สนุกมือ ไม่ต้องออกแรงมากนัก โดยแถวบนสุดจะเป็นปุ่ม Fn ต่างๆ
ด้านล่างทางขวาของแป้นคีย์บอร์ดจะมีเซ็นเซอร์สำหรับสแกนลายนิ้วมือ ที่ใช้งานง่ายแค่แตะก้ได้แล้ว
ทัชแพดสัมผัสวัสดุแบบกระจกที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ใช้งานได้ถนัด ซ่อนปุ่มคลิกซ้ายขวาไว้ โดยที่แผงทั้งหมดทำสีเข้ากับตัวเครื่อง ดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สวยงามดี
หน้าจอของ HP Spectre x360 ขนาด 13.3 นิ้ว IPS ความละเอียด FHD 1920 x 1080 พิกเซล ที่เว้นขอบด้านข้างเครื่องไว้น้อยมากๆ ครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass ทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้ยาก โดยรองรับการสั่งงานแบบสัมผัสได้ 10 จุดพร้อมกัน ที่จะใช้เป็นการแตะด้วยนิ้วมือ หรือใช้ร่วมกับปากกา HP Active Pen ได้ด้วย
กรอบหน้าจอที่เห็นว่าเล็กๆ ยังมีกล้อง HP Wide Vision HD Camera ที่เก็บได้มุมกว้าง รายละเอียดชัดเจน และมีไมโครโฟนคู่ช่วยเก็บเสียงพูดชัดเจน และใกล้ๆ จะมี LED แสดงให้เห็นว่ากล้องทำงานอยู่หรือไม่
Performance – ประสิทธิภาพ
สเปคภายใน อย่างที่เกริ่นตั้งแต่ต้น HP อัปเดตสเปคพร้อมสำหรับมาตรฐาน Intel EVO ที่ตัวเครื่องต้องเล็กบางเบา พกพาสะดวก แต่ประสิทธิภาพการใช้งานต้องสุดยอดด้วยเช่นกัน ตั้งแต่โปรเซสเซอร์เป็น Intel Core i Gen 11 รุ่น Core i7-1165G7 ใช้สถาปัตยกรรม Tigerlake ที่ 10 นาโนเมตร ทำงานแบบ 4 แกนสมอง 8 เธร์ด ความเร็วตั้งแต่ 2.80 – 4.70 GHz จุดเด่นของโปรเซสเซอร์รุ่นี้ นอกจากความเร็วแรงแล้ว ยังฉลาดด้วย AI ที่มาประมวลผลการใช้งานด้านอื่นๆ ให้ดีขึ้น
ด้านกราฟฟิค ใช้การ์ดจอแบบออนชิปรุ่นใหม่อย่าง Intel Iris Xe ที่แรงกว่าเดิม ทำงานด้านกราฟฟิคทั้ง 2D ได้แบบสบายหายห่วง ส่วนกราฟฟิค 3D ก็ยังทำงานได้ในระดับเบื้องต้นถึงกลางๆ สามารถเชื่อมต่อออกจอนอกได้ ความละเอียด 4K และ 8K ได้ ดังนั้นนอกจากใช้งานพกพาแล้ว ทำงานที่บ้านที่ออฟฟิศเป็นเดสก์ท้อปต่อมอนิเตอร์ก็พร้อมใช้งานด้วยเช่นกัน
หน่วยความจำภายในเครื่อง Storage ใช้เป็น SSD M.2 มาตรฐาน NVMe PCIe ใส่ความจุมาให้เหลือเฟือถึง 1TB ประสิทธิภาพในการเขียนอ่านข้อมูลถือว่าทำได้ดี กับความเร็วการอ่าน-เขียน ราวๆ 1900/1100 MB/s เลยทีเดียว ส่วน RAM ก็ให้มา 16GB แบบ DDR4 3200 MHz
สเปคหน่วยความจำระดับนี้ ทำให้การใช้งานต่างๆ เร็วแบบไม่หงุดหงิดใจ ต้้งแต่การบูตเครื่องที่เร็วมากๆ เวลาที่พับหน้าจอพักเครื่องไว้ เรากางขึ้นมาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีก็พร้อมใช้งานได้ทันที รวมถึงตัวหน่วยความใจที่เป็นแบบ SSD M.2 NVMe PCIe มีความทนทานต่อการกระแทก การใช้งานพกพาจึงไม่ต้องห่วงหรือกังวลว่าจะเกิดความเสียหาย
ระบบเชื่อมต่อไร้สาย ให้มาเป็น Wi-Fi 6 ที่รองรับการเชื่อมต่อที่ความเร็วสูงกว่าเดิม ส่วน Bluetooth ก็จะเป็นเวอร์ชั่น 5.0 ที่ใช้พลังงานต่ำ และรองรับทำงานร่วมกับหลายอุปกรณ์พร้อมกันได้อย่างไม่มีปัญหา
แบตเตอรี่ และการใช้งาน ถือว่าทำงานได้ค่อนข้างน่าประทับใจ ถ้าหากใช้ในแบบ Power Saver Mode และใช้งานทั่วไปอย่างเล่นอินเทอร์เนต ดูหนัง ก็สามารถอยู่ได้เกิน 10-12 ชั่วโมง ซึ่งถ้าทำงานหนักก็ลดลงมา โดยข้อดีของรุ่นนี้คือตัวการชาร์จไฟนั้น เป็นแบบ Power Delivery 65W ตัวอแดปเตอร์ที่แถมมาด้วยนั้นจริงๆ ก็ถือว่าเล็กและเบามากแล้ว แต่ถ้าคุณอยากได้กะทัดรัดกว่านี้ สามารถหาอะแดปเตอร์ชาร์จที่เป็น GaN ก็จะเล็กลงไปอีก หรือจะใช้กับ Powerbank ที่จ่ายไฟเป็น PD ก็ถือว่าสะดวกยิ่งขึ้น
เรื่องความร้อน ต้องบอกว่า HP Spectre x360 เป็นอัลตร้าบุ๊ค ที่ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับการทำงานหนักๆ ที่ต้องใช้ประสิทธิภาพสูงตลอดเวลา และเน้นขนาดเล็กที่พกพาสะดวก ตัวระบายความร้อนจะมีอยู่ที่ด้านหลังและด้านใต้ของเครื่อง โดยภายในมีพัดลมช่วยระบายความร้อน 2 ตัว ที่ทำงานในการเป่าดึงอากาศเพื่อนำความร้อนออกได้ค่อนข้างรวดเร็ว
Experience – ประสบการณ์ใช้งานด้านต่างๆ
ตัวเครื่องออกแบบให้ใช้งานได้หลายโหมด เพราะข้อพับหน้าจอออกแบบให้สามารถพับได้ถึง 180 องศา ดังนั้นนอกจากจะใช้งานเป็นโน้ตบุ๊คแล้ว ยังปรับพับหน้าจอกางเป็นหลังคาแบบ Tent Mode สำหรับใช้เป็นจอนำเสนองาน หรือพับกลับ 180 องศาให้กลายเป็น Tablet Mode เน้นใช้งานหน้าจอสัมผัสก็ได้
แบบปกติ กาง 180 องศา พับกลับเป็น Tent Mode พับ 360 องศาใช้เป็น Tablet
ในการใช้งานเป็นแท็บเล็ต จะรองรับการใช้งานคู่กับ HP Active Pen ที่มีการปรับปรุงสเปคจากเดิมที่จะใช้ถ่านขนาด AAAA สำหรับใช้งาน แต่รุ่นใหม่นี้เปลี่ยนเป็นการเสียบชาร์จด้วย USB-C ทำให้สะดวกการใช้งานมากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องประสิทธิภาพ ตอนนี้รองรับระดับแรงกดได้ละเอียดถึง 4,096 ระดับ ทำให้ใช้งานเกี่ยวกับวาดรูปได้ดียิ่งขึ้น และที่ตัวปากกา ยังมีปุ่มสำหรับใช้เป็นปุ่มลัดสำหรับเปลี่ยนเครื่องมือด้วย
ด้านความปลอดภัย เป็นสิ่งที่ HP ใส่ใจมาโดยตลอด ในรุ่นนี้ มีระบบ HP Sure View ที่เป็นเทคโนโลยีป้องกันการแอบมองหน้าจอจากด้านหลัง ที่จะลดมุมมองการมองเห็นของหน้าจอ ให้สามารถเห็นได้เฉพาะคนที่นั่งอยู่ด้านหน้าเท่านั้น และกล้องเว็บแคม ก็มีฟีเจอร์ Webcam Kill ที่ปรับสวิทต์ด้านใต้เครื่อง เพื่อให้มีแผงมาปิดกล้องไว้ได้ด้วย
ด้านของระบบเสียง ลำโพงเป็น Bang & Olufsen มี HP Audio Boost ที่ให้เสียงที่ดังกระหึ่มดีเลยทีเดียว และระบบไมโครโฟนที่เป็นแบบคู่ ช่วยเรื่องการเก็บเสียงพูดและปรับแต่งเพื่อตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ค่อนข้างดี ทำให้สามารถใช้ทำ VDO Call ให้เสียงที่ชัดเจนดีเลยทีเดียว
การใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ผ่าน Thunderbolt 4 ที่เป็นพอร์ตแบบ USB Type-C ก็ถือว่าช่วยให้ทำงานได้สะดวกมากขึ้น ยอมรับว่าเพราะตัวเครื่องที่เล็กและบาง ทำให้ไม่สามารถใส่ช่องพอร์ตมาได้ไม่มาก แต่ก็มีตัว USB-HUB ที่เพิ่มพอร์ตต่างๆ รวมถึงช่อง HDMI, LAN ให้ทำงานเป็นเดสก์ท็อปได้สะดวกขึ้น ซึ่งถ้าอยากให้สะดวกขึ้นไปอีก เราแนะนำให้คุณหาจอมอนิเตอร์รุ่นที่รองรับเชื่อมต่อ USB-C เพราะเพียงแค่เสียบสายเดียว จะต่อไปทั้งสัญญาณภาพ และรับกระแสไฟสำหรับชาร์จ รวมถึงทำงานร่วมกับพอร์ตต่างๆ ที่มอนิเตอร์ได้ด้วย เรียกว่า เสียบสายเดียวใช้งานได้ครบเลย
สรุป รีวิว HP Spectre x360 I7-1165G7 ความน่าประทับใจ + เหมาะสำหรับใคร?
เรื่องการออกแบบ รูปลักษณ์ วัสดุที่ใช้ ผมให้แบบเต็ม 10 ไม่มีหักสักคะแนน ความสวยงามกับการทำเหลี่ยมมุมเครื่องแบบไดมอนด์คัท วัสดุอลูมิเนียม และจุดข้อพับหน้าจอที่แน่นหนาแข็งแรง ผมยังคงยกให้ HP Spectre x360 เป็นอัลตร้าบุ๊คที่สวยที่สุดในท้องตลาดปัจจุบันนี้ไปเลย
ถ้าให้แนะนำนำว่า HP Spectre x360 I7-1165G7 รุ่นนี้จะเหมาะสำหรับใคร เน้นไปเลยสำหรับคนที่อยากได้อัลตร้าบุ๊คที่พกพาสะดวก น้ำหนักเบา ขนาดที่กะทัดรัดระดับที่ใส่กระเป๋าสะพายของสาวๆ ได้แบบไม่เทอะทะเกะกะ น้ำหนัก 1.3 กิโลกรัม กับหน้าจอ 13.3 นิ้ว แล้ววัสดุเครื่องเป็นอลูมิเนียม ถือว่าดีมากๆ
ประสิทธิภาพของสเปคที่เป็น Intel Core i7-1165G7 ให้ RAM 16GB และหน่วยความจำเป็น SSD 1TB เรียกได้ว่า แรงจัดและทำงานได้รวดเร็ว ตามมาตรฐานแพลตฟอร์ม Intel EVO ที่เน้นให้ผู้ใช้ได้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยม บนเครื่องที่พกพาได้สะดวก น้ำหนักเบา
ความสวยงาม พร้อมอรรถประโยชน์ในการเป็้น 2-in-1 ทำให้ปรับวางได้ทั้งแบบปกติ หรือจะกางเป็นเต้นท์ หรือวางราบ 180 องศาเพื่องานนำเสนอ หรือพับเป็นแท็บเล็ตก็ทำได้ หน้าจอที่รองรับการสัมผัส และพอร์ตเชื่อมต่อรองรับ Thunderbolt 4 ใช้งานกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างความเร็วสูง
มีข้อจำกัดที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ HP Spectre x360 ตัวนี้ก็คือ สเปคของเครื่องนั้นไม่สามารถอัปเกรดเพิ่มได้แล้ว ทั้งในส่วนของหน่วยความจำและ RAM และตัวสเปคนี้ ที่อยู่ในระดับที่เร็วแรง แต่ก็ไม่ได้ออกแบบมาให้สำหรับทำงานที่ต้องใช้ประสิทธิภาพสูงตลอดเวลา ดังนั้นจะเหมาะสำหรับทำงานเป็นหลัก สะดวกพกพา ทำงานกราฟฟิกหรือเล่นเกม 3 มิตินั้นทำได้แต่เราก็ไม่แนะนำให้ใช้เป็นเครื่องหลัก
สรุปแล้ว HP Spectre x360 I7-1165G7 เป็นโน้ตบุ๊คระดับ Ultrabook ที่ผ่านมาตรฐาน Intel EVO ที่ให้ประสบการณ์ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม ในรูปทรงขนาดเล็กพกพาง่าย น้ำหนักเบา สำหรับราคาค่าตัวนั้น ต้องยอมรับว่าค่อนข้างแรงเลยทีเดียว แต่ถ้าต้องการความสวยหรูดีพรีเมียมแบบหารุ่นอื่นมาเทียบได้ยาก บอกได้เลยว่า รุ่นนี้คุณน่าจะหลงรักมันได้ไม่ยากเลย