AMD เปิดตัวเทคโนโลยี AMD FidelityFX Super Resolution นำเสนอประสบการณ์ด้านการเล่นเกมและความละเอียดประสิทธิภาพสูงให้กับเกมเมอร์ทั่วโลก
AMD ประกาศเปิดตัวโซลูชั่น spatial upscaling อันล้ำสมัย บนฟีเจอร์ AMD FidelityFX Super Resolution (FSR) โอเพ่นซอร์สข้ามแพลตฟอร์มที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มอัตราเฟรมเรตและส่งมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่มีคุณภาพและความละเอียดระดับสูง นักพัฒนาเกมมากกว่า 40 รายประกาศสนับสนุนฟีเจอร์ FSR ในเกม และ/หรือ ในเครื่องมือพัฒนาเกม ณ วันนี้มีเกม 7 เกมที่เพิ่มการรองรับฟีเจอร์ FSR แล้วประกอบด้วย 22 Racing Series, Anno 1800, Evil Genius 2, Godfall, Kingshunt, Terminator: Resistance และ The Riftbreaker พร้อมเกมที่คาดว่าจะรองรับฟีเจอร์ภายในสิ้นปีนี้ ได้แก่ DOTA2, Far Cry 6 และ Resident Evil Village
AMD FSR ใช้ได้กับโปรเซสเซอร์และกราฟิกการ์ดของ AMD มากกว่า 100 รุ่น ให้ประสิทธิภาพการเล่นเกมโดยเฉลี่ยในโหมด “Performance” ที่ความละเอียดระดับ 4K สูงขึ้นถึง 2.4 เท่า เมื่อนำไปเทียบความการเล่นบนความละเอียดดั้งเดิม (native) เทคโนโลยี spatial upscaling ใช้อัลกอริธึม edge reconstruction ขั้นสูงเพื่อวิเคราะห์คุณสมบัติในภาพต้นฉบับและนำมาสร้างใหม่ในความละเอียดที่สูงขึ้น พร้อมด้วยความคมชัดผ่านการพัฒนารายละเอียดบนพื้นผิวของภาพเพื่อปรับปรุงคุณภาพให้ดียิ่งขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือการแสดงผลคุณภาพสูงเป็นพิเศษและรายละเอียดของพิกเซลที่ยอดเยี่ยมเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับวิธีการอัพสเกลแบบพื้นฐาน
Scott Herkelman รองประธานและผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์กราฟิกการ์ด บริษัท AMD กล่าวว่า “เป้าหมายของเราสำหรับ FidelityFX Super Resolution คือการพัฒนาโซลูชั่นการอัพสเกลให้มีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในระดับโลกตามมาตรฐานอุตสาหกรรมที่นักพัฒนเกมสามารถนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย และออกแบบมาเพื่อรองรับการเล่นเกมของเหล่าเกมเมอร์อย่างแท้จริง เทคโนโลยี FSR เป็นฟีเจอร์การอัพสเกลอุดมคติของอุตสาหกรรม ไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่มีกรรมสิทธิ์ และได้รับการสนับสนุนบนแพลตฟอร์มที่หลากหลายเพื่อให้เกมเมอร์ทุกคนได้รับประสบการณ์และความเพลิดเพลินในการเล่นเกม เราพอใจมากกับผลตอบรับและการสนับสนุนจากพันธมิตรนักพัฒนาของเรา และเราแทบจะรอให้เกมเมอร์ลองใช้ฟีเจอร์ FSR ด้วยตัวของพวกเขาเองไม่ไหว”
AMD FSR เสนอการตั้งค่าด้านคุณภาพการแสดงผล 4 แบบ ได้แก่ Ultra-Quality, QualityBalanced และPerformance ช่วยให้เกมเมอร์สามารถปรับความสมดุลระหว่างคุณภาพของภาพและประสิทธิภาพการเล่นเกมตามความชอบของพวกเขาเอง ให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่น่าตื่นตาตื่นใจ และฟีเจอร์ด้านการแสดงผลอันยอดเยี่ยมที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด รวมไปถึงฟีเจอร์ raytracing โดยในโหมด Ultra-Quality คุณภาพการแสดงผลของฟีเจอร์ FSR นั้นแทบจะแยกไม่ออกเมื่อนำไปเปรียบเทียบความละเอียดดั้งเดิม
โซลูชั่นการอัพสเกลแบบโอเพ่นซอร์สที่ปรับขนาดได้
ฟีเจอร์ AMD FSR รองรับ DirectX 11, 12 และ Vulkan APIs ที่ออกแบบมาเพื่อผสานเข้ากับเกมใหม่ ๆ และเกมปัจจุบันได้อย่างง่ายดาย รองรับบนผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ APU และกราฟิกการ์ดที่หลากหลาย พัฒนามาให้มีความเหมาะสมด้านการใช้งานกับกราฟิกการ์ด AMD Radeon RX 5000 และ Radeon RX 6000 Series รวมไปถึงโมบายกราฟิการ์ด และยังรองรับกราฟิกการ์ด AMD Radeon RX 500 Series, Radeon RX 480/470/460, Radeon RX Vega, โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen with Radeon Graphics ทุกรุ่น ไปจนถึงผลิตภัณฑ์กราฟิกการ์ดของคู่แข่งด้วย
คาดว่าจะพร้อมเปิดให้ใช้งาน AMD FSR ในวงกว้างสำหรับนักพัฒนาเกมในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2564 โดยสามารถดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรีผ่านช่องทาง AMD GPUOpen คอมมิวนิตี้ด้านโอเพนซอร์สที่สนับสนุนด้านโค้ด เอกสารประกอบ และทรัพยากรต่าง ๆ ที่จะช่วยให้นักพัฒนาได้รับประโยชน์สูงสุดจากเขียนโปรแกรมบน GPU
สตูดิโอและเกมที่รองรับ
AMD FSR สร้างขึ้นด้วยความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดกับสตูดิโอเกมและนักพัฒนาเกมระดับชั้นนำ โดยมีนักพัฒนามากกว่า 40 รายที่ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนและรวมฟีเจอร์ FSR เข้าไปภายในเกมและเครื่องมือพัฒนาเกมของพวกเขา คาดการณ์ว่าจะมีนักพัฒนาลงนามมากขึ้นภายในสิ้นปีนี้ และปีต่อ ๆ ไป
Dan Ginsburg, นักพัฒนาด้านกราฟิก บริษัท Valve กล่าวว่า “ฟีเจอร์ FidelityFX Super Resolution ของ AMD ทำให้ลูกค้าของเราสามารถปรับคุณภาพของการแสดงผลด้วยการใช้ประสิทธิภาพที่ต่ำกว่าการเรนเดอร์แบบเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากสำหรับผู้ใช้กราฟิกการ์ดระดับกลางที่ต้องการความละเอียดของการแสดงผลที่มากขึ้น เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ FSR ได้รับการออกแบบให้สามารถใช้กับผลิตภัณฑ์กราฟิกการ์ดทุกรุ่นผ่านแนวทางด้านโอเพนซอร์สของ AMD ด้วยฟีเจอร์ FSR”
Pawek Lekki ซีอีโอ บริษัท Exor Studios กล่าวว่า “การนำฟีเจอร์ AMD FidelityFX Super Resolution มาใช้ในเกม The Riftbreaker เป็นหนึ่งในการผสานรวมเทคโนโลยีที่ราบรื่นที่สุดที่เราเคยทำมา ต้องขอบคุณปรัชญา ‘no black box’ ของ AMD ที่ทำให้เราสามารถนำมาปรับใช้ได้อย่างง่ายดายทั้งบนคอมพิวเตอร์และเครื่องเกมคอนโซล และปรับแต่งให้เข้ากันกับเครื่องมือพัฒนาของเราโดยเฉพาะ”
ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟีเจอร์ AMD FSR รวมไปถึงรายชื่อนักพัฒนาและเกมที่รองรับเพิ่มเติม คลิก
Supporting Resources