วิธีดาวน์โหลด Disney+ Hotstar มีอะไรน่าดู? สมัคร ยังไง? กับแพ็กเกจจาก AIS ราคา แค่ 49 บ./เดือน

สรุปทุกเรื่องที่ต้องรู้ คลายทุกข้อสงสัย กับ Disney+ Hotstar (ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์) บริการสตรีมมิ่งที่รอคอยกันมานาน มาดูกัน ตั้งแต่วิธีดาวน์โหลดแอป ทั้งในสมาร์ทโฟน และทีวี รวมไปถึงวิธีการ สมัคร พร้อมค่าบริการ แพ็กเกจ ราคา สุดคุ้มกับ เอไอเอส ด้วยราคาเริ่มต้นแค่เดือนละ 49 บาท หรือสมัครแบบรายปีเพียง 499 บาทเท่านั้น!

ตอนนี้บริการ Disney+ Hotstar เปิดให้บริการในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2564 หลายคนอาจจะยังสงสัย และมีคำถามในใจเกี่ยวกับบริการนี้ ว่าสรุปแล้วเป็นสตรีมมิ่งที่มีอะไรให้ดูบ้าง ดูผ่านช่องทางหรืออุปกรณ์อะไรได้บ้าง รวมถึงจะสมัครใช้งานจะต้องทำอย่างไร ทางทีมงานล้ำหน้า เราสรุปสิ่งสำคัญมาให้คุณหายสงสัยกันแล้ว

Disney+ Hotstar ต่างจาก Disney+ ยังไง?

ดิสนีย์พลัส (Disney+) ถือว่าเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งของทางค่ายดิสนีย์ ที่ร้อนแรงและเติบโตอย่างรวดเร็วมากๆ โดยเวลาเพียงแค่ปีกว่าๆ ก็มียอดสมาชิกทั่วโลกแล้ว มากกว่า 100 ล้านคน โดยปัจจุบันมีการขยายประเทศที่ให้บริการอย่างต่อเนื่อง และประเทศไทยก็ได้เปิดให้บริการแล้ว ตั้งแต่วันทีี 30 มิถุนายนที่ผ่านมา

บางคนอาจจะสงสัยทำไมในไทยถึงได้ใช้ชื่อบริการนี้ว่า Disney+ Hotstar (ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์) ต้องเล่าย้อนนิดหน่อยกว่า เป็นการที่ดิสนีย์ได้เข้าซื้อกิจการ Hotstar แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในอินเดีย และหลายประเทศในฝั่งเอเซีย ทางดิสนีย์จึงยังใช้ชื่อรวมกัน เพื่อทำตลาดในโซนเอเซียรวมถึงประเทศไทย โดยจะมีความต่างจากดิสนีย์พลัสบ้างเล็กน้อย เราจะสรุปสั้นๆ ดังนี้

Disney+

  • คอนเทนต์ของทาง Disney, Disney+ และอีกหลายค่ายในเครือ
  • มีเสียงพากย์และซับไตเติลหลากหลายภาษา
  • รับชมได้พร้อมกัน 4 อุปกรณ์
  • มีระบบ Family แยกได้ 7 โปรไฟล์
  • ราคา 249 บาท/ เดือน (2,500 บาท/ปี)

Disney+ Hotstar

  • คอนเทนต์ของทาง Disney, Disney+, 20th Century Studio, Hulu, และคอนเทนต์ในกลุ่มประเทศที่ให้บริการ (ไทย, เกาหลี, จีน ฯลฯ)
  • มีเสียงพากย์และซับไตเติล ภาษาอังกฤษ และภาษาในกลุ่มประเทศที่ Disney+ Hotstar ให้บริการ
  • รับชมได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์
  • ไม่มีระบบ Family แยกโปรไฟล์
  • ราคา 99 บาท/เดือน (799 บาท/ปี)

มีภาพยนตร์, ซีรี่ย์, อะไรน่าดูบ้าง?

สำหรับผู้ใช้งานในประเทศไทย บริการ Disney+ Hotstar จะมีคอนเทนต์ภาพยนตร์กว่า 700 เรื่อง และซีรีย์ยอดฮิตกว่า 14,000 ตอน รวมไปถึงรายการทีวี สารคดี ฯลฯ ให้ได้รับชมกัน ด้วยเนื้อหาหลากหลายแนว จากหลายค่ายและสตูดิโอชื่อดัง จะขอแนะนำบางส่วนที่มีการเปิดเผยแล้ว ที่บอกเลยว่าเด็ดๆ ทั้งนั้น

Disney+ Originals และ ภาพยนตร์ชื่อดังจาก Disney, Pixar, Marvel, Star Wars, National Geographic และ อีกมากมาย

  • Loki
  • The Falcon and The Winter Soldier
  • WandaVision
  • Raya and The Last Dragon
  • Marvel’s Agents of S.H.I.E.L.D.
  • Marvet MCU
  • The Mandalorian
  • Luca
  • Star Wars: The Bad Batch
  • High School Musical: The Musical: The Series
  • Hamilton
  • Monsters at Work
  • The Mysterious Benedict Society
  • Star Wars ทั้ง 3 ไตรภาค
  • Star Wars : Rouge One
  • Star Wars : Solo
  • Star Wars : Clone Wars

ภาพยนตร์ และซีรีย์ จาก 20th Century Studio

  • Avatar
  • Nomadland
  • Criminal Minds
  • The Walking Dead
  • Ford v Ferrari
  • Planet of the Apes
  • Aliens
  • The X-Files
  • Grey’s Anatomy

ภาพยนตร์ไทย

  • Extraordinary Siamese Story: Eng and Chang
  • เฟรนด์โซน
  • น้อง พี่ ที่รัก
  • พี่มาก พระโขนง
  • ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ
  • ห้าวเป้งจ๋าอย่าแกงน้อง
  • ต้มยำกุ้ง
  • Love and Fortune (ละคร)
  • รักแลกภพ (ละคร)

ภาพยนตร์ และซีรีย์ จากเกาหลี, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน และจีน

  • Seobok
  • Parasite
  • Train To Busan
  • Shin Godzilla
  • Let Me Eat Your Pancreas
  • 24
  • The Silent Forest
  • Precious is the Night
  • Ip Man 4: The Finale
  • Infernal Affairs
  • The Stormriders ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า

ต้องบอกว่านี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่มีให้รับชมได้ใน ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ ซึ่งเราจะมีมาแนะนำเรื่องใหม่ๆ ที่น่าดูอีกมากมาย

มีซับไทย หรือ พากย์ไทยหรือเปล่า?

เนื้อหาส่วนใหญ่นั้น จะเป็นภาษาอังกฤษ แน่นอนว่า เมื่อมาเปิดให้บริการในประเทศไทย คอนเทนต์ส่วนใหญ่จะมีให้ทั้งซับไตเติ้ลภาษาไทย และเสียงพากย์ไทย โดยภาพยนตร์ระดับบล็อกบัสเตอร์ จะมีรองรับเสียงพากย์ไทย และภาพยนตร์และซีรี่ย์ภาษาอังกฤษทุกเรื่อง โดยพื้นฐานจะมีทั้งเสียงและซับไตเติ้ลอังกฤษให้ ตามข้อมูลเบื้องต้น ซีรีย์และคอนเทนต์ของดิสนีย์ ก็จะมีทำซับไตเติลไทยเอาไว้ให้ รวมถึงบางเรื่องก็มีพากย์ไทยให้ด้วย

  • Disney Original ซีรี่ย์ใหม่ๆ ของ Disney+ มีพากย์ไทย และซับไตเติ้ล
  • หน้าดิสนีย์ทุกเรื่อง มีซับไตเติ้ล และพากย์ไทยชุดเดียวกับที่ฉายในโรงภาพยนตร์
  • ซีรี่ย์การ์ตูนดิสนีย์ ก็มีพากย์ไทยเช่นกัน เป็นเสียงเดียวกับที่ฉายทาง Disney Club
  • สารคดีของ National Geographic จะมีซับไตเติ้ลอย่างเดียว ไม่มีพากย์
  • ซีรีย์ของ FOX ส่วนใหญ่จะไม่มีพากย์ไทย
  • ภาพยนตร์ของ FOX ส่วนใหญ่จะมีพากย์ไทย
  • ภาพยนตร์เกาหลี, ไต้หวัน, ญี่ปุ่น ของสหมงคลฟิล์ม มีพากย์ไทยโดยทีมพันธมิตรที่เราคุ้นเคย
ภาพยนตร์ทุกเรื่อง มีซับไตเติ้ล และเสียงพากย์ภาษาไทยให้เลือก และเสียงก็เป็นเวอร์ชั่นเดียวกับที่เคยฉายในโรง

สมัคร ใช้บริการ Disney+ Hotstar ยังไง?

ราคาค่าบริการ ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ สำหรับไทย จะอยู่ที่ 799 บาท/ปี และแบบรายเดือนอยู่ที่ 99 บาท/เดือน เมื่อสมัครผ่านทางหน้าเว็บของ www.hotstar.com/th

วิธีดาวน์โหลด Disney+ Hotstar สมัคร AIS เอไอเอส ราคา พิเศษ

แต่พิเศษกว่า และคุ้มค่ากว่า เพราะ เอไอเอส จับมือกับ ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ จัดแพ็กเกจรับชมสตรีมมิ่งในราคาพิเศษ สำหรับลูกค้าที่ใช้ AIS ทั้งแบบรายเดือนและเติมเงิน เพียง 499 บาท/ปี และแบบรายเดือนเพียง 49 บาท/เดือน โดยให้ดูฟรี 1 เดือน (ในเดือนที่ 2)

วิธีดาวน์โหลด Disney+ Hotstar สมัคร AIS เอไอเอส ราคา พิเศษ

โดยวิธีการสมัครจะมีให้เลือกได้ 3 ช่องทางคือ

IVR

  1. สมัครแพ็กเกจรายเดือน กด *111 แล้วโทรออก
  2. สมัครแพ็กเกจรายปี กด *112 แล้วโทรออก
  3. ลูกค้าจะได้รับข้อความ SMS แจ้งว่าทำการสมัครสำเร็จ และมีลิงก์ไปดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน

myAIS application

  1. เปิดแอป myAIS
  2. เข้าสู่ระบบด้วยเบอร์มือถือและ OTP
  3. กดที่แบนเนอร์ของ Disney+ Hotstar
  4. เลือกแพ็กเกจรายเดือนหรือรายปี แล้วกด “สมัคร”
  5. กด “ยืนยัน” เพื่อสมัครและยอมรับเงื่อนไข
  6. คุณจะเห็นหน้า “ขอบคุณ”
  7. ลูกค้าจะได้รับข้อความ SMS แจ้งว่าทำการสมัครสำเร็จ และมีลิงก์ไปดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน

AIS website

  1. ไปที่ www.ais.th/disney
  2. กด “สมัครเลย”
  3. เลือกแพ็กเกจรายเดือนหรือรายปี แล้วกด “สมัคร”
  4. หากลูกค้าไม่ได้อยู่บนเครือข่าย AIS ต้องกรอกเบอร์มือถือ AIS และ OTP
  5. กด “ยืนยัน” เพื่อสมัครและยอมรับเงื่อนไข
  6. ลูกค้าจะได้รับข้อความ SMS แจ้งว่าทำการสมัครสำเร็จ และมีลิงก์ไปดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน

แล้วถ้าใครใช้มือถือค่ายอื่น อยากจะได้สิทธิพิเศษแบบนี้ ต้องทำยังไง? ง่ายๆ ครับ เปิดเบอร์ใหม่กับ AIS หรือไม่ก็ย้ายค่ายเบอร์เดิมมาเอไอเอส ก็จะได้รับสิทธิพิเศษนี้เช่นกัน ดูรายละเอียดได้ ที่นี่ หรือ กด*151*เลขที่บัตรประชาชน# แล้วกดโทรออก

วิธีรับชม ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ ผ่านอุปกรณ์อะไรได้บ้าง?

ตัวบริการของ ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ ออกแบบมาให้ผู้ใช้รับชมได้อย่างสะดวก จากทุกที่ ไม่ว่าจะดูผ่านคอมพิวเตอร์, สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต รวมไปถึงสมาร์ททีวี หรือกล่องทีวี ซึ่งจะมีรองรับได้ต่างๆ ดังนี้

คอมพิวเตอร์ หรือ แล็ปท็อป เบราว์เซอร์

  • Google Chrome v75.x
  • Mozilla Firefox v70.x
  • Microsoft Edge v79+
  • Safari version v11+

โทรศัพท์ หรือ แท็บเล็ต

อุปกรณ์ในห้องนั่งเล่น

  • Android TVs with TV OS 7.0 or above
  • Chromecast (Gen 2 onwards, firmware 1.43 & above)
  • Apple tvOS 11 & above (Gen 4 onwards)

วิธีดาวน์โหลด Disney+ Hotstar และการเริ่มใช้งาน

สำหรับการรับชมผ่านคอมพิวเตอร์ คุณสามารถเข้าหน้าเว็บเบราว์เซอร์ได้เลย ไม่จำเป็นต้องติดตั้งแอปพลิเคชั่นอะไร ส่วนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตก็เข้าโหลดได้ทั้งฝั่ง iOS และ Android

ส่วนสมาร์ททีวี จะต้องเป็นระบบ Android TV (ตั้งแต่เวอร์ชั่น 7.0) หรือเป็น Google TV ให้เข้าไปในส่วน PlayStore แล้วดาวน์โหลดแอป Disney+ Hotstar มาติดตั้ง ส่วนใครที่ใช้ Apple TV ก็อัปเดตเป็นเวอร์ชั่น 11 และเข้าไปโหลดแอปใน Appl Store ได้เลย

การเริ่มใช้งาน สำหรับผู้ใช้งาน เอไอเอส หลังจากลงทะเบียนและระบบมีการแจ้งยืนยันเปิดการใช้งานเรียบร้อย ก็เตรียมเริ่มใช้งานไ้ดเลย

บนอุปกรณ์ iOS และ Android

  1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Disney+ Hotstar ผ่าน Apple App store หรือ Google Play Store
  2. ใส่หมายเลขโทรศัพท์เอไอเอสที่ทำการสมัครแพ็กเกจเพื่อเข้าสู่ระบบ > กด ดำเนินการต่อ
  3. คุณจะได้รับ OTP ผ่าน SMS และให้นำรหัส OTP 4 หลัก ที่ได้รับมากรอกในช่อง OTP
  4. กรอกข้อมูล
  5. กด “สมัครสมาชิก”
  6. คุณจะถูกพาไปที่ Home Page
  7. เริ่มสตรีมเลย!

สำหรับการใช้งานผ่านแอปบน iOS และ Android จะมีความสะดวกในการเลือกเข้าถึงเนื้อหาต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ที่จะมีแยกหมวดหมู่เอาไว้ให้ รวมถึงยังเลือกเปิด Kids mode เพื่อคัดให้แสดงข้อมูลคอนเทนต์สำหรับเด็ก ซึ่งดิสนีย์มีให้เลือกชมเป็นจำนวนมาก

รวมถึงถ้าคุณอยากจะดาวน์โหลดหนังหรือซีรีย์เอาไว้ในเครื่อง เพื่อดูภายหลังก็ได้ โดยเลือกโหลดความละเอียดตามที่ต้องการ รวมถึงคุณภาพของเสียงยังรองรับ Dolby Vision หรือถ้าอยากจะดูจอใหญ่ ก็สามารถสั่ง Cast ไปเล่นยังอุปกรณ์อื่นๆ ทั้ง Google TV, Chromecast และ Apple TV

รับชมบน Android TV และ Apple TV

  1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Disney+ Hotstar ผ่าน Apple App store หรือ Google Play Store
  2. เปิดแอปพลิเคชันบนทีวี จะมีแจ้งหน้าให้เราเบิดเบราว์เซอร์บนคอมพิวเตอร์หรือในมือถือ ที่ hotstar.com/th/activate
  3. เมื่อเข้าไปที่หน้าเว็บ ใส่หมายเลขโทรศัพท์เอไอเอสที่ทำการสมัครแพ็กเกจเพื่อเข้าสู่ระบบ > กด ดำเนินการต่อ
  4. กรอก OTP ที่ได้ในหน้าเว็บ แล้วกรอกรหัส 4 ตัวอักษรที่อยู่บนจอทีวี ก็จะเป็นการ Activate การใช้งานบนทีวีเรียบร้อย

การใช้งานบนสมาร์ททีวี จะให้ประสบการณ์การรับชมคอนเทนต์ที่ดีที่สุด โดยสามารถเลือกรับชมได้ภาพที่ระดับ 4K HDR และระบบเสียง Dolby 5.1 (คุณภาพแล้วแต่คอนเทนต์แต่ละเรื่อง) และการรับชมก็สามารถเลือกปรับทั้งซับไตเติล, เสียงพากย์ และเลือกปรับ Kids mode ได้ด้วย

รับชมผ่านเบราว์เซอร์

  1. เข้าไปที่เว็บไซต์ www.disneyplushotstar.com
  2. กด “ดำเนินการต่อ” เพื่อยอมรับเงื่อนไข
  3. ใส่หมายเลขโทรศัพท์เอไอเอสที่ทำการสมัครแพ็กเกจเพื่อเข้าสู่ระบบ > กด ดำเนินการต่อ
  4. คุณจะได้รับ OTP ผ่าน SMS และให้นำรหัส OTP 4 หลัก ที่ได้รับมากรอกในช่อง OTP
  5. กรอกข้อมูล
  6. กด “เสร็จแล้ว”
  7. คุณจะถูกพาไปที่ Home Page
  8. เริ่มสตรีมเลย!
Disney+ Hotstar ดูบนเบราวเซอร์
ที่มุมบนของหน้าจอ จะมีปุ่มสมัครสมาชิก สำหรับคนที่ยังไม่ได้สมัครใช้บริการ ส่วนใครสมัครแพ็กเกจกับ AIS ไว้แล้ว กดเลือก เข้าสู่ระบบ
Disney+ Hotstar ดูบนเบราวเซอร์
กรอกหมายเลขโทรศัพท์ที่สมัครสมาชิกไว้กับ AIS แล้วกด “ดำเนินการต่อ” เพื่อรับ OTP สำหรับเข้าใช้งาน
ระบบจะมีสอบถามข้อมูลของคุณเล็กน้อย

หลังจากที่เข้าใช้งานรับชมครั้งแรกแล้ว ในการรับชมครั้งต่อไป สำหรับการรับชมผ่านแอปบน iOS, Android และสมาร์ททีวี จะเปิดรับชมได้เลย ไม่ต้องล็อคอินอีก แต่หากรับชมผ่านเว็บไซต์ อาจจะมีต้องยืนยัน OTP อีกครั้ง หากมีการเคลียร์ Cache หรือเปลี่ยนใช้งานเบราว์เซอร์

เรียกได้ว่า บริการของ Disney+ Hotstar ทำออกมาให้ลูกค้าใช้งานได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก แล้วยังรับชมได้จากหลากหลายอุปกรณ์ และปลอดภัยผ่านการรับรหัส OTP ที่มือถือของคุณเอง และที่สำคัญ ค่าบริการรายเดือนที่ถูกมากๆ สำหรับลูกค้า AIS ที่เริ่มต้นพียง เดือนละ 49 บาท (12 เดือน) แถมได้ชมฟรี 1 เดือน (ในเดือนที่ 2) หรือจะสมัครเป็นรายปีก็แค่ 499 บาท เทียบกับปริมาณของคอนเทนต์ ทั้งภาพยนตร์และซีรี่ย์ชื่อดังมากมาย ถือว่าคุ้มค่าจริงๆ

Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล และจักรยาน