Ninja van พร้อมก้าวทันกระแสอีคอมเมิร์ซเปิดตัวบริการจัดส่งไว ในวันถัดไปจากกรุงเทพฯ สู่ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคตะวันตก บริการใหม่พร้อมรองรับความต้องการจัดส่งพัสดุที่เพิ่มสูงขึ้น
นินจาแวน (Ninja van) ผู้นำบริการโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดตัวบริการจัดส่งในวันถัดไป เพื่อรองรับความต้องการการจัดส่งพัสดุที่เพิ่มสูงขึ้นสืบเนื่องจากจำนวนนักช้อปปิ้ง ออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงภาวะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งบริการจัดส่งในวันถัดไปของนินจาแวน พร้อม ให้บริการแล้วทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดต่างๆ ในภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก
บริการจัดส่งในวันถัดไปจะช่วยพัฒนาเครือข่ายการขนส่งพัสดุและช่วยผลักดัน ให้นินจาแวนเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯวางแผนเพิ่มจำนวนพนักงานและพาหนะที่ใช้ขนส่งพัสดุ เป็นสองเท่าจากปีที่แล้ว พร้อมทั้งเปิดศูนย์ กระจายพัสดุ ทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆในภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก เพื่อลดปริมาณ การคัดแยกพัสดุที่คลังสินค้าหลัก ทำให้การรับ คัดแยก และขนส่งพัสดุรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้นินจาแวน จะเปิดคลังสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของนินจาแวนในประเทศในไตรมาสที่ 4 ซึ่งถือเป็นการลงทุนเพิ่มเติมในด้านเทคโนโลยี ที่จะช่วยปรับปรุงระบบการคัดแยกพัสดุและเพิ่มความรวดเร็วใน การทำงาน
มร. เพียซ เอิง กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัทนินจาแวน ประเทศไทย กล่าวว่า “นับว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนินจาแวน ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตของอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย เราใช้ โอกาสนี้ เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทฯ เผื่อมอบบริการที่ดียิ่งขึ้นให้แก่พันธมิตร ผู้ค้า และลูกค้าของเรา โดยในปีผ่านมา การขนส่งพัสดุของเราเติบโตขึ้นมากกว่า 300% และเพื่อรักษาอัตรา การเติบโตนี้ เรามุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพและการบริการอย่างต่อเนื่อง การจัดส่งที่รวดเร็วถือเป็นบริการที่เป็นที่ต้อง การมากที่สุดจากทั้งผู้จัดส่งและผู้รับ ผมรู้สึกยินดีมากที่เราสามารถเพิ่มพื้นที่การบริการจัดส่งในวันถัดไปได้”
ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงของภาวะการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยบริษัทวิจัยการตลาด ระดับโลก นีลเส็น ไอคิว (NielsenIQ) รายงานว่าในปี 2563 จำนวนครัวเรือนไทยที่ซื้อของออนไลน์เพิ่มขึ้น 58% ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้หลายธุรกิจเพิ่มช่องทางการขายสินค้าออนไลน์มากขึ้น โดยในช่วงปี 2563 นินจาแวน มีผู้ส่งสินค้าเพิ่มขึ้น 250% ปริมาณการจัดส่งพัสดุเพิ่มขึ้น 300% และปริมาณการเข้ารับพัสดุ จากการจองล่วงหน้าหรือ on demand pick up เพิ่มขึ้นสองเท่า จากข้อมูลของ เจ.พี. มอร์แกน (J.P Morgan) แสดงให้เห็นว่าการใช้จ่ายด้านอีคอมเมิร์ซต่อคนในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 54,478.82 บาทต่อคนต่อปี และสามารถเติบโตได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซกับผู้บริโภคคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 12.5% ต่อปี ในปี 2564