รายงานจากบริษัทวิจัยข้อมูล Counterpoint ระบุว่า ยอดขาย สะสมของ iPhone 12 ซีรีส์ทั่วโลกนั้นทะลุ 100 ล้านเครื่องในเดือนเมษายน 2021 แล้ว
สมาร์ทโฟนซีรีส์ล่าสุดของ Apple นั้นประสบความสำเร็จโดยใช้เวลาเพียงแค่ 7 เดือนหลังจากเปิดตัวเท่านั้น ซึ่งเร็วยิ่งกว่าตอนที่ iPhone 11 ซีรีส์ทำได้ถึง 2 เดือน คล้ายกับช่วงแรกๆ ของการมาของเทคโนโลยี 4G ซึ่ง iPhone 6 ซีรีส์ช่วยให้ Apple ทำยอดขายถล่มทลาย ณ ช่วงเวลานั้น เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงจาก 4G มายังยุคสมัยของ 5G โดย Apple ได้ออกสมาร์ทโฟนใหม่หลังจากนั้นถึง 6 รุ่นสมาร์ทโฟนของ Apple ก็ยังคงกอบโกยยอดขายได้เป็นจำนวนมาก
ในกรณีของ iPhone 6 ซีรีส์นั้นมีการปลดล็อคความต้องการให้ iPhone มีหน้าจอที่ขนาดใหญ่ขึ้นเป็นปัจจัยในการผลักดัน ยอดขาย ในขณะที่ iPhone 12 ซีรีส์นั้นมีการรองรับ 5G และหน้าจอ OLED แบบเต็มๆ ที่ดึงดูดลูกค้าและนำไปสู่การทำรายได้ที่ทำลายสถิติของบริษัทที่เคยทำเอาไว้
ข้อมูลระบุว่า iPhone 12 Pro Max นั้นเป็นรุ่นที่ถูกใจผู้บริโภคมากที่สุด โดยมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 29% ซึ่งทำได้ดีกว่า iPhone 11 Pro Max ที่มีส่วนแบ่ง 25% นี่เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ iPhone 12 ซีรีส์ทำได้รายเพิ่มถึง 22% เมื่อเทียบกับ iPhone 11 ซีรีส์ในช่วงระยะเวลา 7 เดือนแรกหลังการเปิดตัว
เมื่อเปรียบเทียบราคาเปิดตัวระหว่าง iPhone 11 Pro Max และ iPhone 12 Pro Max นั้นเท่ากันที่ 1,099 ดอลลาร์ สิ่งที่ iPhone 12 Pro Max อัปเกรดเพิ่มคือ รองรับ 5G , RAM+หน่วยความจำที่สูงขึ้น และชิป A14 Bionic แต่ก็ต้องแลกกับที่ชาร์จและหูฟังที่ไม่แถมมาให้ในกล่องแล้ว ซึ่งดูจะไม่เป็นปัญหากับผู้บริโภคเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฝั่งสหรัฐอเมริกา ที่ทำยอดสูงถึง 40% ของยอดขาย iPhone 12 Pro Max ทั่วโลกจนถึงเดือนเมษายน 2021
ด้วยการอัปเกรดสเปคในราคาเดียวกันกับ iPhone 11 Pro Max อีกทั้งยังมาพร้อมกับโปรโมชั่นของเครือข่ายโทรศัพท์แต่ละเจ้า ยิ่งผลักดันให้ iPhone 12 Pro Max มียอดขายพุ่งสูงขึ้นโดยเป็นสมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุดในสหรัฐอเมริกาต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020 ที่สำคัญที่สุด คือ iPhone 12 ซีรี่ส์นั้นได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 น้อยกว่า iPhone 11 ซีรีส์
ด้วยประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมของ iPhone 12 ซีรีส์ ทำให้ Apple มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนเมษายน 2021 นอกจากนี้ บริษัทยังได้ส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในสหรัฐฯ ต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2020 และมีแนวโน้มจะลากยาวไปถึงเดือนพฤษภาคม 2021
ที่มา : Counterpoint