รีวิว MSI GP 66 LEOPARD เกมมิ่งแล็ปท็อปที่มาพร้อมกับสเปคเร็วแรง ทั้งชิปประมวลผล เจเนอเรชั่นที่ 11 Intel Core-i7 11800H การ์ดจอ GeForce RTX 3070 และหน้าจอ 15.6 นิ้ว FHD 240Hz วางจำหน่ายในไทย ราคา 67,990 บาท
ในปี 2021 นี้ ถือว่าทาง MSI มีผลิตภัณฑ์ออกมาบุกตลาดแบบต่อเนื่องไม่มีหยุด พร้อมทั้งยังมีการปรับปรุงจัดรุ่นของสินค้าออกมาให้เหมาะเจาะกับกลุ่มผู้ใช้ที่หลากหลายมากขึ้น สเปคต่างๆ อัปเดตเป็นตัวใหม่ล่าสุด พร้อมเพิ่มเทคโนโลยี เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ประสบการณ์อย่างที่ต้องการได้ดีที่สุด
สำหรับ รีวิว ครั้งนี้ ทางทีมงานล้ำหน้าฯ เราได้เจ้า MSI GP 66 LEOPARD เกมมิ่งแล็ปท็อปอีกตัวที่แฟนๆ รอคอยกัน ตอนนี้เริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถือว่าเป็นรุ่นที่ค่อนข้างน่าประทับใจ สำหรับสายเล่นเกมจริงจัง เพราะนอกจากสเปคภายในที่มาแบบสดใหม่ ให้คุณอัปเกรดเพิ่มได้ ตัวดีไซน์ก็ดูสวยโฉบเฉียวยิ่งกว่าเดิม
ก่อนอื่น เราจะมาสรุปในส่วน สเปค ของ MSI GP 66 LEOPARD ให้ชมกันก่อน
ข้อมูล สเปค MSI GP66 LEOPARD
- ขนาดตัวเครื่อง : 358 x 267 x 23.4 มิลลิเมตร
- หนัก 2.38 กิโลกรัม
- หน่วยประมวลผล : 11th Gen Intel Cor i7-11800H
- กราฟฟิคการ์ด :NVIDIA GeForce RTX 3070 Laptop (8GB GDDR6)
- หน้าจอ ขนาด 15.6 นิ้ว FHD 240Hz IPS (sRGB 100%)
- RAM 16GB DDR4-3200 ใส่ได้ 2 slot รองรับสูงสุด 64GB
- Storage : 1x NVMe PCIe Gen4x4 SSD , 1x NVMe PCIe Gen3x4 SSD รับรับสูงสุด 2TB
- กล้องเว็บแคม HD (720p 30fps)
- คียบอร์ด ระบบไฟ RGB ปรับแต่งได้แยกอิสระทุกปุ่ม โดย SteelSeries
- ระบบเชื่อมต่อไร้สาย intel Killer Wi-Fi 6E AX1675 (PCIe) + Bluetooth 5.2
- พอร์ตเชื่อมต่อ
- 3x Type-A USB3.2 Gen1,
- 1x RJ45, 1x HDMI 2.1(8K@60Hz), 1x mDP1.4, 1x Audio combo jack
- ระบบเสียง 2x 2W Speaker, Hi-Res Audio Certified, Nahimic
- อะแดปเตอร์ / แบตเตอรี่ 280W AC adapter | 4-Cell, 65 Whr
- ราคา 67,990 บาท
แกะกล่อง รีวิว MSI GP 66 LEOPARD
ในแพ็กเกจของ MSI GP66 LEOPARD จะจัดมาให้แบบชุดใหญ่ เพราะว่านอกจากตัวเครื่องแล้ว MSI ยังมีกระเป๋าเป้ขนาดใหญ่ บุกันกระแทกอย่างดี สำหรับเอาไว้ใส่ตัวเครื่องเพื่อพกพาเดินทางได้อย่างสะดวก พร้อมทั้งมีคู่มือการใช้งานเบื้องต้นมาให้เรียบร้อย
ในกล่องยังมีตัว Power Adaptor สำหรับชาร์จไฟและใช้งานภายในบ้าน กำลังไฟ 280W ที่ถือว่าค่อนข้างสูง แน่นอนว่ามันจึงมาพร้อมกับขนาดและน้ำหนักที่มากพอสมควรเลย
ดีไซน์การออกแบบ
โดยรวมแล้ว MSI GP66 LEOPARD รูปร่างหน้าตาจะไม่แตกต่างจากรุ่นก่อนมากนัก และดูสไตล์เป็นแบบเดียวกับรุ่นพี่ในตระกูล GE76 Raider อีกด้วย ตัวเครื่องที่เข้ามาจำหน่ายในไทย จะเป็นสีดำ Core Black เป็นสีที่เหมาะสำหรับวางบนโต๊ะของเกมเมอร์ที่สุดแล้ว
ขนาดมิติของตัวเครื่อง 358 x 267 มิลลิเมตร หนา 23.4 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2.38 กิโลกรัม (ไม่รวมอะแดปเตอร์ชาร์จ) ถือว่าทาง MSI ยังทำทรงตัวแล็ปท็อปจอใหญ่ให้ได้ขนาดเล็กและเบาที่สุดในระดับนี้ได้
ตัวฝาเครื่องเป็นวัสดุแมกนีเซียมอัลลอยด์ ตรงโลโก้มังกรของ MSI ใช้ดีไซน์ใหม่เป็นป้าย emblem ลวดลายสีดำคุมโทนกับตัวเครื่อง
จุดเด่นของดีไซน์ อยู่ตรงที่ช่วงข้อต่อฝาพับของหน้าจอกับตัวเครื่อง ที่จะมีส่วนนูนขึ้นมาเป็น 3 มิติ เพื่อเพิ่มความทนนทานของข้อต่อ และยังดูสวยงาม รับกับด้านหลังของเครื่องที่ทำช่องระบายความร้อนออกด้านหลัง เป็นทรงคล้ายกับท้ายรถยนต์ซูเปอร์คาร์ ให้ความรู้สึกที่เรียบๆ แต่ดูดุดันมากยิ่งขึ้น
พอร์ตเชื่อมต่อ
มาดูในส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อที่มีอยู่รอบเครื่องกันบ้าง เริ่มจากทางฝั่งซ้าย จะมีพอร์ต USB Type-A 3.2 gen 1 มาให้ 1 ช่อง พร้อมกับพอร์ตเสียบ Audio แบบ 3.5 มิลลิเมตร รองรับใช้งานหูฟังและไมโครโฟน
ด้านขวา จะมี พอร์ต USB Type-A 3.2 gen 1 มาให้อีก 2 ช่อง รวมแล้วก็จะมีทั้งหมด 3 ช่องสำหรับการใช้งานเชื่อมต่อ
ด้านท้ายตัวเครื่อง จะมี mini DisplayPort 1.4 , พอร์ตแลน RJ45, พอร์ต HDMI 2.1 รองรับการแสดงผลสูงสุด 8K ที่ 60Hz และ พอร์ตช่องสำหรับเสียบอะแดปเตอร์ไฟ DC In ถือว่าพอร์ตต่างๆ พร้อมรองรับการเชื่อมต่อภาพระดับคุณภาพสูง มาให้ครบ และการเอาพอร์ตต่อจอมาไว้ข้างหลัง ทำให้เวลาตั้งบนโต๊ะแล้วสายต่างๆ จะไม่รกเกะกะอีกด้วย
ส่วนตัวผมแอบเสียดายที่ MSI GP66 LEOPARD ไม่มีพอร์ตแบบ USB-Type-C มาให้เลย ซึ่งถ้ามีแล้วเป็น Thunderbolt4 ด้วยจะเยี่ยมมากๆ เพราะสามารถเอาไว้ใช้งานได้อย่างหลากหลาย ทั้งเชื่อมต่ออุปกรณ์ด้วยความเร็วรับส่งข้อมูลที่รวดเร็ว และใช้กับอุปกรณ์ใหม่ๆ หลายรุ่นที่เริ่มมาใช้พอร์ตแบบนี้กันแล้ว
ระบบการระบายความร้อน
ช่องต่างๆ รอบเครื่องสำหรับระบบระบายความร้อนนั้น จะมีช่องด้านล่างตัวเครื่อง ที่มีการออกแบบให้มีแท่นหนุน ยกตัวเครื่องให้สูงจากพื้นโต๊ะเล็กน้อย เพื่อให้สามารถมีอาการเข้าจากด้านใต้เครื่องได้ และยังมีจุดด้านข้างซ้ายขวาของเครื่อง และด้านหลังของเครื่อง ที่เราเห็นเป็นดีไซน์เท่ๆ แบบรถสปอร์ต เป็นจุดสำหรับใช้ถ่ายเทความร้อนออกจากตัวเครื่อง
มาดูภายในกันบ้างกับระบบ Cooler Boost 5 ของทาง MSI ที่ใส่ให้มา ใช้พัดลม 2 ตัว พร้อมเส้นทองแดง Heat Pipe ขนาดใหญ่ถึง 6 เส้น ที่ช่วยในการลำเลียงและระบายความร้อนจากจุดสำคัญในบอร์ดอย่าง CPU และ GPU ให้ถูกส่งออกไปนอกเครื่องได้อย่างรวดเร็ว และในส่วนของ RAM และ SSD ก็ยังมีแผนกราไฟท์มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อนให้อีกด้วย
หน้าจอ 15.6 นิ้ว FHD 240Hz
เป็นจอที่จัดมาให้กับสายเกมเมอร์โดยเฉพาะ ด้วยจอแบบ IPS แบบด้าน ไม่มีแสงสะท้อน ขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด FullHD ให้ค่าสี 100% sRGB ให้สีสันที่สวยงามชัดเจน และค่า Refresh Rate ของจอที่สูงถึง 240Hz เป็นจอที่ตอบโจทย์การเล่นเกมที่มีการเคลื่อนไหวรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นแนว First-Person Shooting, Racing และเกมแอคชั่นต่างๆ ให้ความลื่นไหลในการมองที่ดีมากๆ
สำหรับหน้าจอออกแบบมาเว้นขอบข้างกับตัวบอดี้เครื่องค่อนข้างน้อย ทำให้มองได้เต็มตามากขึ้น โดยที่บริเวณตรงกลางด้านบนของจอ จะมีกล้องเว็บแคม ความละเอียด 720p 30fps ติดตั้งมาให้ด้วย อยู่ในระดับที่ใช้งานวิดีโอคอลสื่อสารทั่วไป หรือใช้เป็นกล้องหน้าเวลาสตรีมเกมเป็นกรอบเล็กก็ใช้ได้อย่างไม่มีปัญหา
คีย์บอร์ดปรับแต่งได้ตามใจชอบ
ผมค่อนข้างประทับใจกับ แป้นคีย์บอรด์บนเกมมิ่งแล็ปท็อปของ MSI มาก โดยใน MSI GP 66 LEOPARD ใช้เป็นคีย์บอร์ดแบบ Full-size ของ SteelSeries ที่ให้สัมผัสในการกดที่ดี มีระบบไฟ RGB แบบ Per-Key คือเราสามารถปรับแต่ง Customize ไฟของแต่ละปุ่มบนแป้นพิมพ์ได้อย่างอิสระ แฃะยังมีโปรไฟล์การแสดงสีให้เลือกใช้หลายรูปแบบ ทำให้คีย์บอร์ดแสดงอารมณ์ได้วิบวับสวยงามมาก
รวมถึงยังมี SteelSeries Engine 3 ที่รองรับโปรไฟล์การแสดงแสงไฟ RGB ร่วมกับเกมและโปรแกรมต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเละเล่นเกมที่แปลกใหม่ได้อารมณ์ยิ่งขึ้น
ส่วนของ Touchpad ที่ให้มานั้น ขนาดถือว่าไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากนัก ซึ่งเป็นปกติของเกมเมอร์ที่ไม่ค่อยเน้นการใช้งานในส่วนนี้ การสัมผัสและตอบสนองทำงานได้ดี โดยพื้นผิวจะเป็นวัสดุแบบด้านที่มีผิวสัมผัสลื่นมือ
ระบบเสียง
ตัวลำโพงของ MSI GP66 LEOPARD จะติดตั้งเป็นแบบสเตอริโอ อยู่ด้านข้าง 2 ฝั่งของเครื่อง ที่ให้คุณภาพเสียงที่อยู่ในระดับที่น่าพอใจ กำลังขับออกด้านข้างให้เสียงที่มีมิติชัดเจนดีมาก โดยภายในจะมีระบบปรับแต่งเสียงด้วย Nahmic 3 ช่วยให้คุณภาพเสียงขับออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ถ้าสำหรับการฟังเพลง จะให้อรรถรสในการฟังเพลงแบบ Loseless ได้แบบ Hi-Res Audio ถึง 192KHz/24bit และในการเล่นเกมก็ยัง 3D Surround และ Sound Sharing ผ่านทาง Bluetooth มาให้ด้วย
มาเรื่องของไมโครโฟน ติดตั้งมาให้เป็นแบบ 2 ตัว พร้อมระบบ Noise Cancellation ที่มี AI มาช่วย เพื่อช่วยในเรื่องของการตัดเสียงรบกวน และเร่งในส่วนของเสียงสนทนามีความคมชัดมากยิ่งขึ้น โดยตำแหน่งของไมค์นั้น จะอยู่ที่ด้านข้างของกล้องหน้า ตรงขอบด้านบนตรงกลางจอ
ระบบภายใน + การอัปเกรด
MSI อัปเดตสเปคด้วย CPU เป็น 11t Gen Intel Core i7-11800H (2.30 GHz-4.60 GHz) ตัวใหม่ล่าสุดของปีนี้ ผลิตด้วยเทคโนโลยี 10nm 16 MB L3 Cache, up to 4.60 GHz 8 Core/16 Thread ชิปเซ็ตใช้เป็น Intel HM570 ทางด้านการประมวลผลกราฟฟิค เป็น NVIDIA GeForce RTX 3070 Laptop GPU ตัว VRAM 8GB GDDR6 ทำ Boost Clock ได้สูงสุดถึง 1720MHz, 140W Maximum Graphics Power with Dynamic Boost
ระบบปฏิบัติการ ติดตั้งมาให้เลยเป็น Microsoft Windows 10 Home ให้คุณพร้อมใช้งานได้ทันทีที่เปิดเครื่องครั้งแรก
หน่วยความจำ RAM เป็น 2 slot โดยใส่ให้มาเป็น 16GB DDR4-3200 ซึ่งเราสามารถอัปเกรดในส่วนของ RAM ได้สูงสุดถึง 64GB (32GB x2) เทียบกับ DDR4-2666 แล้ว ตัวนี้ทำความเร็วในการอ่านเร็วขึ้น 10% และเขียนเร็วขึ้นถึง 35%
Storage สำหรับเก็บข้อมูล ใส่มาให้เป็นแบบ SSD M.2 NVMe PCIe มีให้ใส่ได้ 2 สล็อต โดยมีใส่มาให้แล้ว 1 แถวขนาด 1TB โดยอัปเกรดใส่เพิ่มได้อีกรวมสูงสุดที่ 2TB
ทดสอบ ประสิทธิภาพ
ดูจากสเปคแล้ว ถือว่า MSI GP 66 LEOPARD จัดมาในระดับที่พร้อมรบกับเกมระดับประสิทธิภาพสูงต่างๆ ได้สบาย
เริ่มการทดสอบด้วย PC Mark สำหรับ CPU Intel Core i7 Gen11 ถือว่าทำได้แรงพอตัว ได้คะแนนมาที่ 6982 การทำงานนั้นเหลือเฟือสำหรับการทำงานตั้งแต่ระดับพื้นฐานทั่วไป จนถึงระดับที่ต้องการพลังในการทำงานขั้นสูงแบบหายห่วง
มาด้านการเล่นเกม กับการทดสอบ 3D Mark คะแนนที่ได้จากการทดสอบ ทั้งใน TimeSpy, Port Royal และ Fire Strike ถือว่าทำคะแนนในระดับที่ดีมาก ด้วยตัว GPU NVIDIA GeForce RTX 3070 Laptop ตัวนี้มีความครบเครื่องสำหรับด้านกราฟฟิคระดับต้นๆ อยู่แล้ว จัดการเรื่องการประมวลผลได้อย่างไหลลื่น มี Ray Tracing ในการประมวลผลแสงเงาแบบเรียลไทม์ และในการเล่นเกมที่เฟรมเรตสูงก็ยังคงทำได้ดีด้วยเช่นกัน
ในส่วนของการเขียนอ่านข้อมูล อันนี้น่าประทับใจมาก ในการทดสอบ ตัว SSD ที่ติดตั้งมาให้กับเครื่อง ทำความเร็วในการอ่านได้สูงถึง 5675MB/s และความเร็วในการเขียนข้อมูลที่ 4923MB/s เรียกว่านอกจากเล่นเกมจะโหลดไว้แล้ว ในการทำงานกราฟฟิกกับไฟล์ขนาดใหญ่ ก็ยังรับมือได้อย่างสบายๆ
ระบบการเชื่อมต่อ
MSI จัดตัวมาตรฐาน Wi-Fi 6E มาให้รุ่นนี้เรียบร้อย พร้อมรองรับถึงอนาคต ซึ่งมาตรฐานใหม่นี้ไม่ใช่แค่มีความเร็วมากขึ้น แต่ยังมีการจัดสรรช่องส่งสัญญาณที่กว้างมากขึ้น ทำให้การรับส่งข้อมูลทำได้ดียิ่งกว่าเดิม
ส่วนการเชื่อมต่อเน็ตเวิร์คผ่านสาย เป็น 2.5G Ethernet รองรับการเชื่อมต่อแบบบรอดแบนด์ที่เร็วกว่า 1Gbps ที่เราใช้ๆ กันอยู่ถึง 2.5 เท่า เรียกว่าตัวนี้ นอกจากสเปคแรงแล้ว การเชื่อมต่อรับส่งข้อมูลก็พร้อมสำหรับความเร็วระดับพรีเมี่ยมได้อย่างเต็มที่
ระบบภายใน
ใน MSI GP 66 LEOPARD มีการเปลี่ยนมาใช้ MSI Center ที่เป็นโปรแกรมศูนย์กลางควบคุมตัวเครื่องตัวใหม่ ที่มีขนาดที่เล็กลงกว่าตัว Dragon Center ถึง 30% ทำให้มีความคล่องตัวในการใช้งานมากขึ้น มีเพิ่มระบบใหม่ Dual Optimization ที่ปรับโหมดการทำงานของเครื่องให้พร้อมทำงานด้านต่างๆ ภายในคลิกเดียว ทั้งการเล่นเกม หรือการทำงานด้านต่างๆ
ส่วนที่ผมลองทดสอบแล้วชอบ ก็คือ Console Mode ที่จะมีตัว MSI App Player ที่จะจำลองระบบ Android ไว้ในตัวเครื่องและใช้งานเพื่อเล่นเกมของ Android บนเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ และยังใช้งานคอนโทรลเลอร์ในการบังคับเกมได้ด้วย ซึ่งพื้นฐานจะเป็นระบบของ Bluestack ที่พัฒนาให้ทำงานกับระบบของ MSI ได้อย่างลงตัว
ประสบการณ์หลังทดสอบใช้งาน
สำหรับการเล่นเกมนั้น MSI GP 66 LEOPARD ตอบสนองได้เป็นอย่างดี สเปคเครื่องพร้อมสำหรับเล่นเกมระดับพรีเมียมได้เต็มระบบ และอยู่ไปได้อีกหลายปีแบบสบายๆ ระบบระบายความร้อนยังเป็นสิ่งเชิดหน้าชูตาให้กับ MSI ได้เช่นเคย เพราะแม้ว่าในการเล่นเกมหนักๆ จะส่งผลให้เครื่องทำงานหนักและมีความร้อนสูง แต่ตัว Cooler Boost 5 ก็เข้ามาช่วยบริหารจัดการเรื่องอุณหภูมิของเครื่องในการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี ส่วนแป้นคีย์บอร์ดที่ตอบสนองการบังคับเกมได้อย่างสนุกมือ สมราคาชื่อของ SteelSeries และยังจัดเอฟเฟ็กต์ RGB ได้วิบวับสวยงามได้ดั่งใจ
ตัวหน้าจอที่เป็น Refresh Rate สูงถึง 240Hz ทำงาน สอดคล้องได้อย่างลงตัว กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3070 Laptop ได้แบบไหลลื่นไม่มีสะดุด เล่นเกมแนวยิงที่ต้องเคลื่อนไหวเร็วๆ ได้แบบสบายตาและมองได้ชัดเจนกว่าจอทั่วๆ ไปอย่างรู้สึกได้ แต่ถ้าใช้งานจริงๆ แนะนำว่าไม่ต้องอัดเต็มสตรีม เลือกปรับภาพในการเล่นเกมระดับกลางๆ ก็จะได้ภาพที่สวย เฟรมเรตลื่นๆ และเครื่องก็ทำงานไม่หนักมากอีกด้วย
และนอกจากเล่นเกมจะดีแล้ว เรื่องการทำงานก็ถือว่าเด่นด้วยเช่นกัน ด้วยสเปคระดับนี้ ถือว่าทำงานด้านกราฟฟิคหนักๆ ได้แบบไร้กังวล กับสเปคพื้นที่ให้มาทั้ง RAM 16GB และพื้นที่เก็บข้อมูลแบบ SSD ที่มีความเร็วในการอ่านเขียนเร็วมากๆ ถ้าคุณทำงานพวกตัดต่อวิดีโอเรนเดอร์หนักๆ ก็เอาอยู่หมัดได้เลย
หรือถ้ายังไม่พอใจกับสเปคที่ให้มา อยากจะอัปเกรดเพิ่มก็ยังทำได้ เพราะรองรับอัปแรมไปได้สุดถึง 64GB และ SSD ที่ใส่เพิ่มได้อีกแถวรวมเป็น 2TB นอกจากใช้เป็นเครื่องเล่นเกมแล้ว ยังทำงานเป็น Work Station ตัวแรงจี้ดได้จบในตัวเดียว
อีกทั้ง ยังออกแบบการเชื่อมต่ ให้รองรับการทำงานได้ 3 หน้าจอ ที่ทาง MSI เรียกว่า Mattrix Display เสียบแยกที่ HDMI 2.1 และ Mini DisplayPort เพื่อทำงานขึ้นจอใหญ่ความละเอียดสูง ซึ่งถ้าคุณต้องทำงานที่ซีเรียสกับค่าสี ก็สามารถต่อขึ้นจอคุณภาพสูงเพื่อทำงานกราฟฟิคได้แบบไม่ต้องกังวล
ล้ำหน้า Award
สรุปกับ รีวิว MSI GP 66 LEOPARD ทางทีมงานล้ำหน้าฯ เรามอบ Award ให้ในส่วนของประสิทธิภาพ และประสบการณ์เล่นเกมที่ดีเยี่ยม
Best Performance 9.5/10
ขุมพลังของมันนั้น ไม่มีข้อกังขาอะไรเลย เป็นเกมมิ่งแล็ปท้อปที่สเปคเพียงพอเหลือหลายกับเกมทุกระดับ CPU ของ Intel Gen 11 นั้นทรงพลังขึ้นกว่ารุ่นก่อนอย่างชัดเจน ทำงานรวมกับการ์ดจอตัว GeForce RTX 3070 ผสานกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ของ MSI ทำให้มันคือยานรบประสิทธิภาพสูง ที่กำราบได้หมดทั้งเกมและการทำงานหนักๆ ร่วมด้วยระบบระบายความร้อนที่ดีเยี่ยม
Best Gaming 9.5/10
การเล่นเกมที่ดีด้วยสเปคที่พร้อมทุกด้าน หน้าจอ 240Hz ตอบโจทย์การเล่นเกมระดับมืออาชีพ คีย์บอร์ดดีไซน์สวย ให้สัมผัสในการบังคับคล่องมือ ระบบเสียงรองรับได้ถึงขั้น Hi-Res Audio
Design 8/10
ขนาดเครื่องถือว่าไม่เล็กหรือใหญ่ ขนาดกำลังดี และน้ำหนักยังพอสำหรับการสะพายใส่เป้ออกไปนอกบ้านได้ การจัดเรียงตำแหน่งของพอร์ตรอบเครื่องค่อนข้างลงตัว มีตินิดเดียวที่ไม่มีตัวพอร์ต USB-C มาให้ด้วย
Value 8/10
MSI GP 66 LEOPARD ราคา จำหน่ายในประเทศไทย อยู่ที่ 67,990 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ไม่ได้สูงเกินไป สำหรับเกมมิ่งแล็ปท็อปแบรนด์ MSI ความคุ้มค่าที่ลงทุนทีเดียว ได้ทั้งเล่นเกมและทำงานในตัวเดียว