รีวิว HUAWEI FreeBuds 4 หูฟังไร้สาย TWS แบบ Open-fit ให้ประสบการณ์เสียงสมจริง ลดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีขึ้น ไดดามิกไดรเวอร์ 14.3 มม. เชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์พร้อมกัน น้ำหนักเบา และมีเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ราคา เปิดตัว 5,999 บาท
ข้อมูล สเปค HUAWEI FreeBuds 4
- ขนาดหูฟัง : 41.4 มม. X 16.8 มม. X 18.5 มม.
- น้ำหนัก : ข้างละ 4.1 กรัม
- ขนาดเคชชาร์จ : เส้นผ่านศูนย์กลาง 58 มม. หนา 21.2 มม.
- น้ำหนักเคส : 38 กรัม
- สี : Silver Frost, Ceramic White
- ขนาดไดรเวอร์ : 14.3 มม. ไดนามิกไดรเวอร์แบบ LCP ไดอะแฟรม
- ระบบตัดเสียงรบกวน : Active Noise Cancellation 2.0
- ไมค์ตัดเสียงรบกวนขณะโทรศัพท์ : ไมค์ 3 ตัว
- มีระบบลดเสียงลมรอบข้าง
- แบตเตอรี่ : Lithium polymer 30 mAh (หูฟัง), 410 mAh (เคสชาร์จ)
- ระยะเวลาในการใช้งาน
- 4 ชั่วโมง เมื่อปิดการใช้งาน ANC และ 22 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ
- 2.5 ชั่วโมง เมื่อเปิดการใช้งาน ANC และ 14 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ
- มาตรฐานกันน้ำ : IPX4
- ระบบเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.2
- ราคา 5,999 บาท
แกะกล่อง รีวิว HUAWEI FreeBuds 4
ตัวแพ็กเกจจะเป็นตามแบบของหัวเว่ย ที่จะเป็นกล่องกระดาษสีขาว ตัวพิมพ์หนังสือหน้ากล่องเป็นสีทอง มีภาพของตัวสินค้าที่หน้ากล่อง โดย HUAWEI FreeBuds 4 ตัวที่ทางทีมงาน รีวิว จะเป็นสีเงิน Silver Frost และจะมีอีกสีให้เลือกคือ สีขาว Ceramic White
ในกล่องนอกจากตัวหูฟังที่จะใส่มาให้อยู่ในเคสชาร์จเรียบร้อย ด้านในจะมีสาย USB-C to USB-A สำหรับเอาไว้ใช้ชาร์จแบตเตอรี่ให้กับเคส รวมถึงมีเอกสารคู่มือแนะนำการใช้งานเบื้องต้น, ข้อมูลด้านความปลอดภัย และการรับประกันสินค้ามาให้
การออกแบบ ดีไซน์
โดยรวมแล้ว รูปร่างหน้าตาของตัวหูฟังนั้น ไม่ได้ต่างจากรุ่นก่อนมากนัก แต่จะมีการปรับโครงสร้างบางจุด เพื่อให้สามารถสวมใส่ได้ดียิ่งขึ้น โดยทางหัวเว่ยศึกษาจากช่องหูของกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 10,000 คนทั่วโลก เพื่อให้ตัว HUAWEI FreeBuds 4 สวมใส่แล้วมีความกระชับกับหูของทุกคน อีกทั้งยังปรับให้มีน้ำหนักที่เบาลงกว่าเดิม ที่เหลือเพียงข้างละ 4.1 กรัม เรียกว่าเบาจนรู้สึกเหมือนไม่ได้สวมอยู่เลย
ตัว HUAWEI FreeBuds 4 สีเงิน Silver Frost เป็นสีใหม่ที่มีความสวยสะดุดตามากๆ ตั้งแต่ตัวเคสที่ปรับขนาดใหม่ มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 58 มิลลิเมตร น้ำหนักอยู่ที่ 38 กรัม เล็กและเบากว่าเดิม พกพาสะดวกง่ายขึ้น ซึ่งสีเคสจะออกไปทางโลหะรมดำ ที่ดูเข้มเท่
ด้านหน้าตัวเคสจะมีไฟสัญญาณ LED สำหรับแสดงสถานะการทำงาน อย่างเช่นการเชื่อมต่อ และชาร์จแบตเตอรี่ ส่วนที่ด้านหลังจะมีโลโก้ของ HUAWEI ติดอยู่ และที่ด้านข้างจะมีปุ่มเพื่อทำการเชื่อมต่ออุปกรณ์ และช่องพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่
ตัวฝาเคสชาร์จ เปิดขึ้นมา ด้านในจะเป็นสีเข้มกว่าตัวเคสด้านนอก ตัดกันดูสวยงาม และที่เด่นมาก็คือสีของตัวหูฟัง ที่ทำออกมาเป็นลักษณะเงินแบบเงาวาว คล้ายโลหะ เป็นสีที่เราไม่เคยเห็นหูฟัง TWS รายไหนทำออกมาก่อน
ขนาดของตัวหูฟัง HUAWEI FreeBuds 4 จะอยู่ที่ 41.4 x 16.8 x 18.5 มิลลิเมตร ลักษณะจะเป็นหูแบบ Ear-Buds ที่สวมแบบไม่ได้ยัดเข้าไปในรูหูแบบ In Ear โดยจะมีก้านของหูฟังยาวออกมา เพื่อให้เวลาสวมใส่สามารถเหน็บที่ใบหูด้านในของเราได้
ข้อดีของหูฟังรูปทรงแบบนี้ก็คือ มันสวมใส่สบาย เพราะตัวลำโพงหูฟังจะไม่มียางซิลิโคนใส่เพื่ออุดรูหู อีกทั้งยังลดแรงกดบริเวณหูชั้นนอก และมีการปรับองศาให้ศูนย์ถ่วงเอียงเข้าด้านใน จึงมีความกระชับในการใส่โดยไม่รู้สึกอึดอัด
ตัวก้านของหูฟัง สามารถรับคำสั่งควบคุมด้วยการสัมผัสด้วยปลายนิ้ว แตะ 2 ครั้งเพื่อเล่น/หยุดเพลงชั่วคราว หรือรับสาย/วางสาย, แตะค้างเพื่อเปิด/ปิดโหมด ANC, สไลด์ขึ้น/ลงเพื่อปรับระดับเสียง หรือสามารถตั้งค่าคำสั่งการใช้งานตามความคุ้นเคยของตนเองได้อย่างที่ต้องการ ผ่านแอปพลิเคชัน HUAWEI AI Life ในสมาร์ทโฟน
ระบบเสียง
ภายในหูฟัง HUAWEI FreeBuds 4 ใช้ไดนามิกไดร์เวอร์ ขนาดใหญ่ถึง 14.3 มิลลิเมตร ตอบสนองความถี่ได้ถึง 40kHz ตัวไดอะแฟรมที่มีส่วนประกอบของพอลิเมอร์ผลึกเหลว (LCP) ทำให้สามารถให้ประสบการณ์เสียงรายละเอียดสูงระดับ Hi-Res คาแรคเตอร์เสียง ในส่วนเบสมีความอัดแน่น เป็นแบบที่คนไทยชอบสำหรับการฟังเพลงจังหวะหนักๆ สนุกๆ
ไมโครโฟน และการตัดเสียงรบกวน
ตัวไมค์นั้น สามารถเก็บบันทึกเสียงได้คุณภาพระดับ HD สูงสุดถึง 48kHz ทำให้สามารถใช้ในการบันทึกเสียงทำคอนเทนต์ ถ่าย Vlog ได้สบายๆ ส่วนการใช้คุยสายสนทนา คุณภาพเสียงก็ได้สูงสุดถึง 32 kHz เลยทีเดียว อีกทั้งตัวไมโครโฟนยังมีระบบ ANC ช่วยลดเสียงรบกวน ทำให้เสียงพูดเราชัดเจนยิ่งขึ้น
ด้านระบบการตัดเสียงรบกวน ใน Huawei Freebuds 4 มีการพัฒนาขึ้นไปอีก ด้วยเทคโนโลยี Open-Fit ANC 2.0 และใช้ไมโครโฟน 3 ตัว ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างได้สูงสุด 25 เดซิเบล ทำให้ในระหว่างการฟังเพลง ก็จะมีเสียงจากภายนอกเข้ามาน้อยมาก แต่ก็ยังพอให้สามาถได้ยินเพื่อให้รับรู้เสียงภายนอกได้ ตรงจุดนี้สามารถเลือปรับเปิดได้จากในแอป และกดสั่งใช้งานที่การสัมผัสก้านของหูฟังได้ตลอดเวลา
ส่วนสายเล่นเกม ก็จะมี Low Latency Gaming Mode ให้ผู้ใช้ได้เพลิดเพลินกับการเล่นเกมด้วยค่าความหน่วงต่ำกว่า 150 มิลลิวินาที ทำให้ภาพและเสียงตรงกันในระหว่างที่เล่นเกม หรือดูหนังดูคลิป
ประสิทธิภาพ การใช้งาน
การใช้งานนั้น มีระบบเชื่อมต่อที่ฉลาด ให้คุณทำงานแบบ Multi-tasking ระหว่างอุปกรณ์ 2 เครื่องได้พร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต แล็ปท็อป สมาร์ทวอทช์ หรือสมาร์ททีวี เช่น หากกำลังประชุมผ่านแล็ปท็อป แล้วมีสายเรียกเข้าจากสมาร์ทโฟน HUAWEI FreeBuds 4 จะสลับไปที่สมาร์ทโฟนได้อัตโนมัติ โดยไม่ต้องสลับการเชื่อมต่อให้วุ่นวาย
เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ ใช้เป็น Bluetooth 5.2 ที่มีความเสถียร มีสัญญาณรบกวนที่ต่ำ รองรับใช้งานได้หมด ทั้งอุปกรณ์ Android, iOS, Windows ฯลฯ และพิเศษเมื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่เป็น EMUI ของหัวเว่ย ที่เป็นเวอร์ชั่น 10.0 ขึ้นไป ก็จะสามารถตรวจจับการเชื่อมต่อได้อัตโนมัติ เพียงเปิดฝาเคสชาร์จ หน้าต่าง Pop-up ก็จะปรากฏบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตที่อยู่ในบริเวณเดียวกันทันที
เรื่องของแบตเตอรี่ และการใช้งาน ถือว่าน่าประทับใจ เห็นตัวเล็กๆ เบาๆ แบบนี้ สามารถใช้ฟังเพลงต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 4 ชั่วโมง แต่ถ้าเปิดใช้งาน ANC จะได้อยู่ที่ราวๆ 2.5 ชั่วโมง และตัวเคสใส่ก็ยังมีแบตเตอรี่ช่ยในการชาร์จไฟ ให้ใช้หูฟังรวมแล้วได้ถึง 22 ชั่วโมง
ตัวเคสนั้น ยังรองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว ที่เสียบชาร์จด้วยสาย USB-C เพียงแค่ 15 นาที ก็สามารถใช้งานต่อไปได้อีกถึง 2.5 ชั่วโมง
ล้ำหน้า Choice
สรุปกับ รีวิว HUAWEI FreeBuds 4 ทีมงานล้ำหน้าฯ เรามอบ Award ให้ในส่วนของการออกแบบ และประสิทธิภาพในการใช้งาน
Best Design 8.5/10
รูปร่างหน้าตาของตัวหูฟัง อาจจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรจากเดิม แต่ก็เป็นทรงที่ลงตัวและสวมใส่สบาย ตัวก้านที่ดูเฉยๆ อาจจะรู้สึกว่าใหญ่ แต่เวลาสวมแล้วก็ถือว่ากำลังดี พื้นที่สัมผัสเพื่อสั่งงานด้วยนิ้วแตะตอบสนองดี ที่ดีมากๆ คือการออกแบบหูฟังแบบ Open-fit ที่สวมใส่ได้สบาย ไม่อึดอัดรูหู แล้วยังตัดเสียง ANC ได้ด้วย ถึงแม้จะไม่ได้เงียบสนิทแต่ก็ทำให้การรับฟังเพลงได้เต็มอรรถรสมากขึ้น
ตัวหูฟังมีน้ำหนักที่เบามาก รวมกับตัวเคสที่ขนาดรูปทรงกำลังดีในการพกพา และสี Silver Frost ที่ให้ความเป็น Material Design แบบเท่ๆ ไม่เหมือนใคร
Best Performance 9/10
แบตเตอรี่การใช้งานต่อเนื่องได้ 3-4 ชั่วโมง และเสียบเก็บเคสเพื่อชาร์จ แน่นอนว่าใช้งานตลอดทั้งวันได้แบบไม่ต้องกลัวหมด ส่วนตัวเคสเป็นแบบชาร์จ USB-C ที่ชาร์จได้ค่อนข้างเร็ว เพียงชั่วโมงนิดๆ ก็เต็มแล้ว
ฟีเจอร์การใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน รองรับได้หมด ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นอุปกรณ์ของ HUAWEI จะเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์, iPhone, iPad, นาฬิกา, ทีวี ฯลฯ รองรับได้หมด แต่ถ้าใช้ที่เป็น EMUI 10.0 ก็จะมีฟีเจอร์เพิ่มอย่างการเชื่อมต่อสลับอุปกรณ์ได้รวดเร็วขึ้น รวมถึงค่าความหน่วงของเสียงในการเล่นเกมก็ดีขึ้นด้วย
Value 8/10
ถือเป็นหูฟังคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res แบบไร้สาย มี ANC ในราคาหลักพันกลางๆ ที่น่าสนใจ คุณภาพเสียงที่น่าประทับใจ เหมาะทั้งสำหรับฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกม กับอุปกรณ์พกพาต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย
ราคา และการวางจำหน่าย
Huawei Freebuds 4 วางจำหน่ายใน ราคา 5,999 บาท ลดพิเศษสำหรับโปรโมชันพรีออเดอร์เหลือเพียง 4,499 บาท พร้อมรับฟรีบริการ HUAWEI Music VIP นาน 3 เดือน รวมมูลค่า 387 บาท เมื่อซื้อระหว่างวันที่ 14 กรกฎาคม 2564 ถึง 22 กรกฎาคม 2564
สามารถเป็นเจ้าของได้ที่ HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์ที่ร่วมรายการ
- HUAWEI Online Store https://bit.ly/2VCOX6j
- Shopee https://bit.ly/36aO2fi
- Lazada https://bit.ly/3AfI22S
- JD Central https://bit.ly/2UfsMCK