3M

ASEAN CARES นำความหวังสู่ชุมชนท่ามกลางการแพร่ระบาด

3M ร่วมกับ United Way Worldwide และ ASEAN Foundation ประกาศว่าโครงการอาเซียนรวมใจบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยโควิด-19 ในประเทศไทยและมาเลเซียได้บรรลุวัตถุประสงค์ เริ่มโครงการอาเซียนรวมใจตุลาคม 63 เพื่อเยียวยาจากโรคระบาดโควิด-19 ด้วยการแจกจ่ายสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีวิต ให้แก่กลุ่มเปราะบางกว่า 14,300 คนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดใน 2 ประเทศข้างต้น

สำหรับประเทศไทย โครงการอาเซียนรวมใจได้มอบชุดถุงยังชีพให้แก่กลุ่มเปราะบางจำนวน 5,100 ราย ในจังหวัดนนทบุรีและจังหวัดปทุมธานี แบ่งเป็นเพศหญิงถึง 63% และกว่า 2,000 รายเป็นแรงงานต่างด้าว ผู้อพยพ และผู้ด้อยโอกาสอื่นๆ โดยโครงการได้มีการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการล้างมือและการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลให้แก่กลุ่มเปราะบางกว่า 5,000 รายด้วย

และแม้จะมีการขยายคำสั่งควบคุมการเคลื่อนไหวในประเทศมาเลเซีย โครงการอาเซียนรวมใจหรือ ASEAN CARES สามารถบรรลุเป้าหมายของโครงการถึง 84% โดยได้แจกจ่ายอาหาร และอุปกรณ์สุขอนามัยให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19ในเมืองยะโฮร์ กัวลาลัมเปอร์ ซาบาห์ และสลังงอร์ ถึง 9,237 ราย โดย แบ่งเป็นเพศหญิงถึง 55% และกว่า 4,000 รายของผู้รับเป็นแรงงานต่างด้าว ผู้อพยพ และผู้คนจากชุมชนโอรัง อัสลี นอกจากนี้ โครงการยังได้จัดกิจกรรมการล้างมือเพื่อสุขอนามัยให้แก่ผู้คนมากกว่า 8,000 รายเช่นกัน

นางวิยะดา ศรีนาคนันทน์ ประธานบริหาร บริษัท 3เอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “เรารู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งที่กลุ่มเปราะบางในประเทศไทยได้รับการบรรเทาทุกข์จากโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยโควิด-19 ทั่วโลก ของ 3เอ็ม และในช่วงเวลาที่ท้าทายเช่นนี้ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเราในฐานะบริษัทที่จะต้องยึดมั่นในคุณค่าหลักของเราในการยกระดับชีวิตให้ดีขึ้น นอกจากนี้ เราขอขอบคุณองค์กรยูไนเต็ดเวย์ มูลนิธิอาเซียน และพันธมิตรในประเทศไทยที่ร่วมมือร่วมใจในการดำเนินการให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี”

โครงการอาเซียนรวมใจหรือ ASEAN CARES มีเป้าหมายในการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 เช่น ครอบครัวที่มีเด็ก คนพิการ ผู้หญิงที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ผู้สูงอายุ กลุ่มผู้อพยพ แรงงานต่างด้าวสตรีตั้งครรภ์และสตรีให้นมบุตร ให้เข้าถึงอาหารและสุขอนามัยพื้นฐานต่างๆ โดยประเทศมาเลเซียและประเทศไทยได้รับเงินสนับสนุนทั้งหมดจำนวน 169,000 เหรียญสหรัฐ (กว่า 5.3 ล้านบาท) จาก 3เอ็ม โดยบริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางกว่า 5,000 ราย ในแต่ละประเทศ ในขณะเดียวกัน องค์กรยูไนเต็ดเวย์ และมูลนิธิอาเซียน ได้ทำงานร่วมกับองค์กรสาธารณกุศลในท้องถิ่น ทั้งการมอบถุงยังชีพให้แก่กลุ่มบุคคลดังกล่าว และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคโควิด-19

นาย โฮยัง ยัง รองประธาน องค์กรยูไนเต็ดเวย์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศเกาหลีและประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า “ในนามขององค์กรยูไนเต็ดเวย์ ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโครงการอาเซียนรวมใจหรือ ASEAN CARES เพื่อช่วยเหลือประชาชนและชุมชนในประเทศไทยและมาเลเซีย อันเป็นส่วนหนึ่งของกองทุนเพื่อการรับมือกับโรคโควิด-19 และการฟื้นฟูชุมชน ขององค์กรยูไนเต็ด โดย 3เอ็ม เป็นพันธมิตรแนวหน้าของยูไนเต็ดเวย์มาอย่างยาวนานด้วยการสนับสนุนองค์กรในการต่อสู้กับวิกฤตการณ์และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนทั่วโลก

เราขอขอบคุณ 3เอ็ม ในการเป็นผู้นำจัดทำโครงการอาเซียนรวมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โครงการนี้มีส่วนสำคัญต่อการดำเนินงานของเราภายใต้กรอบการทำงานเพื่อเยียวยาบรรเทาทุกข์ผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19ในอาเซียน( ASEAN Comprehensive Recovery Framework) ซึ่งสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการร่วมมือร่วมใจระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่าย และประชาคมอาเซียนในการต่อสู้กับโรคระบาด เรารู้สึกซาบซึ่งใจที่มูลนิธิอาเซียนได้ประสานงานร่วมกับมูลนิธิท้องถิ่นหลายแห่ง เพื่อร่วมกันสร้างความสำเร็จแก่โครงการอาเซียนรวมใจ

บทบาทของพันธมิตรองค์กรสาธารณกุศลในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นสมาคมกู้ชีพบัวเพชร สมาคมอาสาสมัครสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี และสมาคมสาธารณสุขร่วมใจ รวมถึงพันธมิตรในประเทศมาเลเซียอย่าง EcoKnights The Lost Food และ Treat Every Environment Special มีความสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้โครงการอาเซียนรวมใจประสบความสำเร็จ  พวกเขาทำงานกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อส่งมอบอาหารและอุปกรณ์เพื่อสุขอนามัยในชีวิตประจำวัน ให้แก่กลุ่มเปราะบางที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุดโดยเป็นไปตามแผนด้านสาธารณสุขของรัฐบาล

ดร.หยาง มี เอง กรรมการบริหาร มูลนิธิอาเซียน กล่าวว่า “ในฐานะองค์กรระหว่างรัฐบาลและองค์กรเพื่อภาคประชาชน มูลนิธิอาเซียนมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการตระหนักรู้ต่ออาณัติของอาเซียน โดยริเริ่มการดำเนินงานต่างๆ ในระดับภูมิภาคเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในอาเซียนให้ดียิ่งขึ้น เราขอขอบคุณ 3เอ็ม และองค์กรยูไนเต็ดเวย์ด้วยใจจริง ที่ร่วมสนันสนุนเราตลอดมา โครงการร่วมและความร่วมมือระหว่างองค์กรภาครัฐและเอกชนได้กลายเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะเมื่อเราต้องเผชิญกับความท้าทายระดับโลกต่างๆ อย่างไรก็ตาม ด้วยความสามัคคีและความร่วมมือที่แข็งแกร่งมากขึ้น  เราจะสามารถเอาชนะการแพร่ระบาดครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน”