Netflix เผย 5 เหตุผลที่ไม่ว่าใคร ก็ไม่ควรพลาด เดอะวิทเชอร์ นักล่าจอมอสูร: ตำนานหมาป่า ภาพยนตร์อนิเมะที่จะย้อนอดีตไปขยายเส้นขอบฟ้าในโลกของซีรีส์ฟอร์มยักษ์
ผลงานที่ครองใจผู้ชมทั่วโลกด้วยพล็อตเรื่องที่น่าติดตามในโลกแฟนตาซีสายดาร์คอย่างซีรีส์ เดอะ วิทเชอร์ นักล่าจอมอสูร (The Witcher) กำลังจะขยายความสนุกด้วยการย้อนสู่อดีตของมหาทวีป ไปบอกเล่าเรื่องราวที่มาของ “เวเซเมียร์” วิทเชอร์ผู้เป็นอาจารย์ของเกรอลท์ ในภาพยนตร์อนิเมะ เดอะ วิทเชอร์ นักล่าจอมอสูร: ตำนานหมาป่า (The Witcher: Nightmare of the Wolf) โดยจะพาไปสำรวจเส้นทางอันน่าตื่นเต้นของวิทเชอร์หนุ่มผู้หนีวิถีชีวิตอันแร้นแค้นมาล่าอสูรเพื่อแลกกับเงิน
ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนตัวยงของ เดอะ วิทเชอร์ อยู่แล้ว หรือว่าเพิ่งจะได้สัมผัสกับจักรวาลนี้เป็นครั้งแรก เรามี 5 เหตุผลเด็ดๆ ที่ทำให้ภาพยนตร์อนิเมะ เดอะ วิทเชอร์ นักล่าจอมอสูร: ตำนานหมาป่า เป็นความสนุกที่พลาดไม่ได้ ก่อนเตรียมดูพร้อมกันบน Netflix ในวันที่ 23 สิงหาคมนี้
1. ผลงานอนิเมะจากทีมงานยอดฝีมือ
Studio MIR ที่ได้ฝากผลงานอนิเมะชั้นยอดอย่าง Avatar: The Legend of Korra เมื่อปี 20122012 และ Voltron: Legendary Defender ในปี 2016 ได้มาร่วมงานกับทีมผู้สร้างซีรีส์ เดอะ วิทเชอร์ ทั้งผู้จัด ลอเรน ชมิตต์ ฮิสส์ริช และโปรดิวเซอร์ โบ เดอเมโย ในการนำเรื่องราวในอดีตจากโลกของซีรีส์หลัก มาถ่ายทอดในรูปแบบอนิเมะ
ลอเรน ชมิตต์ ฮิสส์ริช มีบทบาทเป็นทั้งผู้สร้าง ผู้จัด และผู้อำนวยการสร้างจากซีรีส์ไลฟ์แอคชั่น เดอะ วิทเชอร์ นักล่าจอมอสูร และยังได้ร่วมสร้างสรรค์ผลงานในหลายโปรเจกต์ก่อนหน้านี้ ทั้ง เดอะดีเฟนเดอร์ส และ แดร์เดวิล ในขณะที่ โบ เดอเมโย ที่ควบตำแหน่งเขียนบทและอำนวยการสร้างในซีรีส์ เดอะ วิทเชอร์ และ ภาพยนตร์อนิเมะเรื่องนี้ ได้เคยเขียนบทให้กับซีรีส์ ดิ ออริจินอลส์ และผ่านการดูแลงานสร้างของอีกหลายโปรเจกต์ เช่น Gravity Falls และ Atomic Blonde
ลอเรน ชมิตต์ อิสส์ริช ได้กล่าวถึงการร่วมงานกับ Studio MIR ไว้ว่า “มันเป็นความร่วมมือที่ยอดเยี่ยมมาก และเราก็สนุกมากที่ได้ทำงานกับทีมที่เชี่ยวชาญด้านอนิเมะโดยเฉพาะ ส่วนผู้กำกับ ฮันกวังอิล ก็สามารถดำดิ่งเข้าสู่โลกของเดอะ วิทเชอร์ได้อย่างลึกซึ้งสุดๆ และเขากับโบก็ทำงานร่วมกันอยู่ตลอดเพื่อให้อนิเมะเรื่องนี้ยิ่งดีขึ้นไปอีก”
จากผลงานและฝีมือที่ยอดเยี่ยมของผู้สร้างตัวหลักทั้งสามคนนี้ ทำให้มั่นใจได้เลยว่าเราจะได้เห็นทั้งการเล่าเรื่องที่เฉียบคมและงานภาพสุดละเมียดที่พร้อมพาทุกคนไปตื่นเต้นกับโลกของเหล่าวิทเชอร์กันแบบเต็มอิ่ม
2. เล่นใหญ่กว่าเดิม ให้ตระการตาและกระแทกใจ
แน่นอนว่านอกจากอัดแน่นด้วยฉากแอคชั่นและความตื่นเต้นจากทั้งสัตว์ประหลาด เวทมนตร์ และปริศนาที่รอการเปิดเผย ภาพยนตร์อนิเมะเรื่องนี้ยังมีกลิ่นอายความโรแมนติกผสานอย่างลงตัว เรียกได้ว่าติ๊กถูกทุกช่อง ถึงทุกอารมณ์! โปรดิวเซอร์ โบ เดอเมโย เล่าว่าอนิเมะเรื่องนี้ช่วยเปิดประตูให้ทีมสร้างได้สำรวจอานุภาพการเล่าเรื่องของแอนิเมชันที่สามารถสรรสร้างทั้งภาพและอารมณ์ออกมาได้อย่างลงตัว
การเปิดประตูที่ว่านี้ นำไปสู่โอกาสในการเล่าเรื่องราวในสเกลที่ใหญ่ขึ้นในโลกนี้ โดยที่ไม่มีข้อจำกัดด้านงบประมาณหรือทุนสร้างที่มักจะมาพร้อมกับการทำซีรีส์แบบไลฟ์แอคชั่น ซึ่งถือเป็นสิ่งแปลกใหม่และน่าตื่นเต้นสำหรับผู้สร้างซีรีส์ ลอเรน ชมิตต์ ฮิสส์ริช เป็นอย่างมาก “ตอนที่โบจินตนาการถึงอสุรกายตัวมหึมากับการต่อสู้อันอลังการอยู่ในหัว ฉันก็คิดไปก่อนว่าจะต้องทำชุดสัตว์ประหลาดมั้ย ใช้วิชวลเอฟเฟกต์มากขนาดไหน จะทำไหวมั้ย แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าเป็นแอนิเมชัน เราทำได้ทุกอย่างนี่นา” ส่วนทางผู้กำกับ ฮันกวังอิล และทีมงานของเขาก็ยังสามารถนำจินตนาการออกมาโลดแล่นได้อย่างอิสระ แต่งแต้มรายละเอียดให้ทุกซีนเปี่ยมด้วยความสร้างสรรค์และความสนุก และเก็บตกองค์ประกอบต่างๆ ของโลกวิทเชอร์ในแบบที่ตรงกับคำบรรยายในนิยายชุดต้นฉบับที่สุด
นอกเหนือจากอาหารตาจากงานภาพที่พิถีพิถัน โปรดิวเซอร์ โบ เดอเมโย ยังให้ความสำคัญในการโฟกัสเรื่องราวที่ดำดิ่งสู่โลกและประวัติที่มาของเหล่าวิทเชอร์ โดยที่ถ่ายทอดออกมาอย่างเต็มเปี่ยมด้วยอารมณ์และความเป็นมนุษย์ แม้ว่าจะรายล้อมไปด้วยองค์ประกอบแฟนตาซีต่างๆ มากมายก็ตาม
3. ดำดิ่งสู่ตำนานจากโลกของ เดอะ วิทเชอร์ และเผยที่มาของผู้เป็นอาจารย์ของเกรอลท์
จักรวาลของ เดอะ วิทเชอร์ ได้ถูกนำไปดัดแปลงและถ่ายทอดใหม่มาแล้วในหลายรูปแบบจนฮิตไปทั่วโลก ซึ่งก็นับเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความละเมียด ซับซ้อน และน่าสนใจของโลกแฟนตาซีแห่งนี้ โปรดิวเซอร์ โบ เดอเมโย มองว่าเรื่องราวของ เดอะ วิทเชอร์ มีความหลากหลายและครบรสมาก ส่วนภาพยนตร์อนิเมะเรื่องนี้ก็สร้างขึ้นมาเพื่อขยายความเข้าใจในมหาทวีปและประวัติศาสตร์ของจักรวาลนี้
นอกจากนั้น เรายังได้ย้อนเวลาไปทำความรู้จักกับเวเซเมียร์ ผู้เป็นอาจารย์ของเกรอลท์ เมื่อเขาต้องมาพัวพันกับหญิงสาวชนชั้นสูง ผู้วิเศษทรงอานุภาพ และนักรบผู้โชกโชน ในการผจญภัยที่จะทำให้เราเข้าใจโลกปัจจุบันของ เดอะ วิทเชอร์ มากขึ้น
ถ้ายังไม่เต็มอิ่มกับประวัติศาสตร์อันน่าอัศจรรย์ของโลก เดอะ วิทเชอร์ และอยากเข้าใจถึงที่มาของเกรอลท์แห่งริเวีย เรียกได้ว่า เดอะ วิทเชอร์ นักล่าจอมอสูร: ตำนานหมาป่า เป็นหนังที่คุณพลาดไม่ได้!
4. เรียกน้ำย่อยก่อนการมาถึงของ เดอะ วิทเชอร์ นักล่าจอมอสูร ซีซั่น 2
สำหรับแฟนๆ เดอะ วิทเชอร์ ที่รอคอยซีซั่น 2 อย่างใจจดใจจ่อ ภาพยนตร์อนิเมะเรื่องนี้ถือเป็นออเดิร์ฟเรียกน้ำย่อยชั้นเยี่ยมที่จะมาเพิ่มความตื่นเต้นก่อนที่ซีซั่น 2 จะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดย โบ เดอเมโย บอกว่าแฟนๆ ของซีรีส์จะได้สัมผัสกับ “ประสบการณ์แปลกใหม่” ที่เขาหวังว่า “จะทำให้รู้สึกเหมือนเพิ่งเข้าสู่โลกของ เดอะ วิทเชอร์ เป็นครั้งแรกอีกครั้ง”
สำหรับมือใหม่ในโลกวิทเชอร์ ภาพยนตร์ความยาวชั่วโมงครึ่งเรื่องนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นชั้นเยี่ยมในการก้าวเข้าสู่โลกมหัศจรรย์ของจักรวาล เดอะ วิทเชอร์ และถ้าได้ไปลองลิ้มรสความตื่นเต้นของซีรีส์ไลฟ์แอคชั่น เดอะ วิทเชอร์ นักล่าจอมอสูร ต่อจากนี้ ก็รับรองได้เลยว่าจะต้องอยากดูซีซั่น 2 แน่นอน เรียกว่าปักหมุดรอดูต่อกันในวันที่ 17 ธันวาคมได้เลย
5. การผจญภัยที่ทุกคนเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับ เดอะ วิทเชอร์ มาก่อนหรือไม่ก็ตาม
หลายคนติดใจในซีรีส์ เดอะ วิทเชอร์ เพราะเรื่องราวการเดินทางของแต่ละตัวละครที่ทั้งเข้าใจและเข้าถึงได้ง่าย ผู้กำกับ ฮันกวังอิล กล่าวว่า “มีหลายองค์ประกอบในเรื่องราวของ เดอะ วิทเชอร์ ที่ผมเชื่อว่าทุกคนสามารถรู้สึกเชื่อมโยงได้ ในแง่ของอารมณ์ที่ได้พบเจอและสัมผัสในการใช้ชีวิต ผมตื่นเต้นแทนแฟนๆ และผู้ชมทั่วโลกที่จะได้โลดแล่นไปในโลกแห่งนี้อีกครั้ง และเพลิดเพลินไปกับทั้งเรื่องราวและตัวละครที่ชวนให้ตั้งคำถามที่น่าคิดเกี่ยวกับชีวิตของเราเอง”
5 เหตุผลนี้ทำให้พลาดไม่ได้เลยสำหรับภาพยนตร์อนิเมะ เดอะ วิทเชอร์ นักล่าจอมอสูร: ตำนานหมาป่า ที่จะฉายบน Netflix เท่านั้นในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ อย่าลืมกด ‘แจ้งเตือนฉัน’ และเตรียมตัวเข้าสู่โลกมหัศจรรย์ของ Witcherverse ไปพร้อมกัน!