รีวิว POCO X3 GT สมาร์ทโฟนที่สร้างความเซอร์ไพรส์ให้เราไม่น้อย เพราะรองรับ 5G สเปคจัดมาให้ระดับดี ชิปเซ็ตใช้เป็น MediaTek Dimensity 1100 จอรีเฟรชเรต 120Hz RAM 8GB ROM 256GB ลำโพงคู่รองรับ Dolby Atmos กล้องหลัง 3 ตัว 64 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 67W แต่เปิดมาขาย ราคา ไม่ถึงหมื่นบาท! อยู่ที่ 9,999 บาทเท่านั้น
POCO X3 GT เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่ส่งลงมาสู้ในตลาดกลุ่มเกมมิ่ง และคนที่ต้องการมือถือ ราคาไม่เกิน 10,000 บาท ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่รอบด้าน ไม่ใช่แค่เล่นเกม แต่ยังเต็มที่ได้ทั้งความบันเทิง, การใช้งานทั่วไป, การถ่ายภาพ และแบตเตอรี่ที่อึดใช้ได้เต็มวัน แถมยังรองรับ 5G อีกด้วย
POCO ที่ตอนนี้เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอิสระ ก็จัดหนักจัดเต็มแบบไม่มียั้งมือ โดย POCO X3 GT รุ่นนี้จะจำหน่ายเฉพาะช่องทางออนไลน์ เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะทาง LAZADA เท่านั้น เรามาเริ่มดูกันตั้งแต่แกะกล่องกันก่อนเลย
แกะกล่อง รีวิว POCO X3 GT
พอมาเป็นรุ่น GT กล่องแพ็กเกจจากที่ปกติจะเป็นสีเหลืองสด ก็เปลี่ยนมาเป็นสีดำสนิท ตัดกับตัวหนังสือ POCO X3 GT และตัวกล่องด้านในที่จะเป็นสีเหลืองแทน โดยตัวกล่องทั้งหมดใช้วัสดุเป็นกระดาษที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ง่าย
ภายในกล่อง นอกจากตัวเครื่องที่ห่อซีลพลาสติกเอาไว้แล้ว จะมีในส่วนของอุปกรณ์เสริมต่างๆ ให้มาด้วย เริ่มด้วย เคสพลาสติกใสสำหรับใส่หุ้มป้องกันตัวเครื่อง วัสดุจะมีความยืดหยุ่นเล็กน้อย และจะมีเอกสารคู่มือการใช้งานเบื้องต้น, การรับประกัน, เข็มจิ้มถาดซิม และสติกเกอร์ POCO แถมมาให้ด้วย
ด้านล่างสุดในกล่อง จะเป็นชุดของอุปกรณ์ชาร์จ โดยจะให้สายเป็นแบบ USB-C to USB-A พร้อม อะแดปเตอร์ชาร์จที่มีกำลังไฟสูงถึง 67W
สเปค POCO X3 GT
- ขนาด 163.3 x 75.9 x 8.9 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 193 กรัม
- หน้าจอ IPS LCD 6.6 นิ้ว FHD+ (2400 x 1080) อัตราส่วน 20:9
- รีเฟรชเรต 120Hz / HDR10 / ค่าความสว่าง 450 nits
- กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass Victus
- ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 1100 5G (6 nm)
- CPU : Octa-core (4×2.6 GHz Cortex-A78 & 4×2.0 GHz Cortex-A55)
- GPU : Mali-G77 MC9
- หน่วยความจำภายใน 256GB(UFS 3.1)
- RAM 8GB
- กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล f/2.5
- กล้องหลัง triple Camera
- กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล (26mm) f/1.8 PDAF
- กล้อง Ultra-Wide 120 องศา 8 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล f/2.4
- รองรับ 2 ซิม Nano SIM 2G / 3G / 4G / 5G SA/NSA
- WiFi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot
- Bluetooth 5.2
- มี Infrared port
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง
- พอร์ต USB-C 2.0
- แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 67W
- ระบบปฎิบัติการ MIUI 12.5 for POCO บนพื้นฐาน Android11
- มีให้เลือก 3 สี Stargaze Black, Wave Blue, Cloud White
- ราคา 9,999 บาท
Hand-on ลองสัมผัส ดีไซน์
สีสันของ POCO X3 GT จะมีความแตกต่างจากหลายรุ่นก่อนพอสมควร โดยสีที่เข้าไทยจะมาทั้งหมด 3 สีด้วยกันคือ สี Wave Blue , Cloud White และ Stargaze Black รุ่นที่ทางทีมงานเราได้มา รีวิว เป็นสีดำไล่เฉดกับสีเทา โดยมีประกายระยิบระยับ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอวกาศที่เป็นไปด้วยแสงดาว โดยพื้นผิวฝาหลังจะเป็นแบบมันวาว ถ้าจับตรงๆ ก็จะเกิดรอยนิ้วมือค่อนข้างง่าย
ฝาหลังดีไซน์วางได้เหมาะเจาะลงตัว โลโก้ POCO จะวางอยู่ในตำแหน่งมุมด้านล่าง ส่วนชุดโมดูลกล้องหลัง 3 เลนส์ และไฟแฟลช LED จะเป็นกรอบนูนขึ้นมาจากฝากหลัง ดีไซน์รูปทรงให้ความรู้สึกเมื่อถือสมาร์ทโฟนในแนวนอน จะมองดูคล้ายกับกล้องถ่ายรูปคอมแพค
ฝาหลังขอบด้านข้างจะโค้งแบบ 3D รับกับเฟรมเครื่องอย่างสมส่วน ทั้งตำแหน่งปุ่ม, พอร์ต และเซ็นเซอร์ต่างๆ
ที่ด้านบนตัวเครื่อง จะมีช่อง Infrared สำหรับใช้ส่งสัญญาณควบคุมรีโมทเครื่องใช้ไฟฟ้า, ลำโพงเสียง และไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวน
ด้านล่าง จะมีช่องลำโพงอีกตัว ซึ่ง POCO X3 GT จะเป็นลำโพงคู่แบบสเตอริโอ รองรับ Dolby Atmos และมีพอร์ตแบบ USB-C สำหรับชาร์จไฟและเชื่อมต่ออุปกรณ์ สุดท้ายจะเป็นช่องของไมโครโฟนสนทนา
ด้านข้างตัวเครื่อง ทางซ้าย จะเป็นช่องของถาดซิม ที่ในรุ่นนี้จะรองรับขนาด Nano SIM ได้ 2 ซิม ใช้งานเป็น 5G ได้ทั้ง 2 เบอร์ แต่ว่าจะไม่สามารถเพิ่ม microSD ได้
ด้านขวาของตัวเครื่อง จะมีปุ่มปรับระดับเพิ่มลดเสียง และปุ่ม Power ที่ใช้เปิดปิดเครื่อง โดยตัวปุ่มจะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ด้ว ให้เราใช้ปลดล็อคเครื่องได้พร้อมกับการกดปุ่มเปิดหน้าจอ ทำให้ใช้งานได้สะดวกรวดเร็วมากกว่าเดิม
หน้าจอ 120Hz กระจก Gorilla Glass Victus
จอของ POCO X3 GT นั้นมีขนาดอยู่ที่ 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080) อัตราส่วน 20:9 เป็นขนาดที่ใหญ่กำลังดี และเหมาะสำหรับการเล่นเกมและรับชมคอนเทนต์บันเทิง โดยตัวหน้าจอเป็นแบบ IPS LCD ที่รองรับการแสดงผล HDR10
และที่ดีมาก กับค่ารีเฟรชเรตหน้าจอ ที่ปรับได้สูงสุดถึง 120hz พร้อมเทคโนโลยี DynamicSwtich และ Touch Sampling Rate สูงถึง 240Hz สามารถทำงานปรับค่าเฟรมเรตตามการใช้งานรูปแบบต่างๆ เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน อย่างเช่น ดูคลิปจะปรับให้เป็น 30/60Hz, ดูทีวีซีรีย์เป็น 50Hz และเล่นเกมเป็น 60/90/120Hz ถือเป็นจอที่เกรดดีมากๆ สำหรับ สมาร์ทโฟนราคาไม่ถึงหมื่นบาท เพราะให้คุณใช้งานได้อย่างไหลลื่น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดดู Timeline ฟีดใน Facebook , หน้าเว็บไซต์ และดีมากเมื่อเล่นเกม ที่ให้สัมผัสการบังคับปุ่มต่างๆ บนหน้าจอได้จังหวะที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น
อีกทั้งยังเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับหน้าจอ ด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus ที่เป็นกระจกหน้าจอสมาร์ทโฟนเวอร์ชั่นล่าสุดของทาง Corning ที่มีความทนต่อการขีดข่วน ทำให้เกิดริ้วรอยได้ยาก รวมถึงความแข็งแรงทนทานมากขึ้น ถือว่าเป็นกระจกเกรดระดับสมาร์ทโฟนเรือธงเลยทีเดียว
ประสิทธิภาพภายใน
ชิปเซ็ตที่ทาง POCO เลือกใช้ในรุ่นนี้คือ MediaTek Dimensity 1100 5G ผลิตที่เทคโนโลยีระดับ 6 nm ใช้ซีพียู Octa-core ประกอบด้วย Arm Cortex-A78 Core 4 ตัวความเร็วสูงสุด 2.6 GHz และ Arm Cortex A55 Core อีก 4 ตัว ส่วนการประมวลผลกราฟฟิค ใช้ GPU เป็น Mali-G77 ถือว่าเป็นชิปเซ็ตระดับตัวท็อปของทาง MediaTek ที่ออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมที่ต้องใช้ประสิทธิภาพการทำงานระดับสูง
โดยตัวชิปเซ็ตนี้ รองรับการใช้งาน 5G ได้ทั้งแบบ NA และ NSA แบบ Dual Sim ใช้ได้ทั้ง 2 ซิม แถมการเชื่อมต่อไร้สาย ยังรองรับ WiFi6 ที่มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลมากกว่า 2.4GHz และ 5GHz ซึ่งหาไม่ได้ง่ายๆ ที่สมาร์ทโฟนราคาไม่ถึงหมื่นจะให้ความสามารถถึงระดับนี้
RAM ใส่มาให้ที่ 8GB และหน่วยความจำในเครื่อง 256GB เป็นแบบ UFS3.1 ช่วยให้ความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลทำได้อย่างรวดเร็ว รวมแล้วจากสเปคทั้งหมดนี้ทำงานผสานการเพื่อเล่นเกม สามารถเล่นเกมฮิตๆ ที่ต้องการกราฟฟิคระดับสูงได้แบบไม่มีปัญหา
ด้วยระบบในเครื่อง ทาง POCO มี Game Turbo ที่จะช่วย Optimize การทำงานของเครื่องให้พร้อมสำหรับการเล่นเกมที่ลื่นไหลที่สุด และยังช่วยปรับเรื่องการแจ้งเตือนระหว่างที่เล่นเกมไม่ให้มีขึ้นมารบกวน และการเปิดแอปจอเล็กขึ้นมาระหว่างเล่นเกมได้ด้วย เป็นอีกส่วนที่ช่วยให้การเล่นเกมได้ประสบการณ์ที่ดีขึ้น
กล้องหลัง Triple Camera 64 ล้านพิกเซล
เรื่องของกล้อง POCO X3 GT ก็ทำได้ดีเกินที่เราคาดไว้พอสมควร กล้องหลังที่จัดมาเป็นแบบ 3 เลนส์ Triple Camera ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกับกล้องมุมกว้าง Ultra-Wide 8 ล้านพิกเซล และกล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล เป็นเซ็ตอัพที่สามารถถ่ายภาพได้ทุกระยะขาดแค่ซูมระยะไกลเพียงอย่างเดียว
และด้วยประสิทธิภาพของ MIUI ทึ่ตัวซอฟท์แวร์กล้องนั้น อภินิหารลูกเล่นมีใส่มาให้ทั้งการถ่ายภาพและวิดีโอสนุกมากขึ้น อย่างเช่นการถ่าย Pro Time-Lapse การถ่าย Burst shot ผ่าน AI Shutter รวมไปถึง real-time bokeh และโหมด HDR ที่รองรับการใช้งานได้ทั้งในกล้องหน้าและกล้องหลัง
ส่วนโหมดถ่ายภาพกลางคืน และสภาพที่แสงน้อย ก็ทำได้น่าประทับใจ เก็บสีสันและได้ภาพที่คมชัดสวยงาม การถ่ายจะเป็นการประมวลผล 3-5 วินาที ภาพนั้นจะไม่เบลอเป็นวุ้น และยังมีปรับลด Noise ให้อีกด้วย
การถ่ายวิดีโอมีโหมด VLOG ที่จัดเท็มเพลทสำหรับถ่ายวิดีโอเก๋ๆ มาให้เลือกใช้ มีถ่ายวิดีโอพร้อมกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง, โหมด Clone Video รวมถึงโหมดวิดีโอหลักของกล้องหลัง มีระบบลดการสั่นไหวที่ช่วยให้เวลาเดินถ่ายคลิปมีความไหลลื่นมากขึ้น
กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล สำหรับการถ่ายเซลฟี่ ถ่ายคลิป ทำได้ดี มีทั้งฟิลเตอร์และโหมด Beauty ที่ช่วยในเรื่องปรับแต่งการถ่ายภาพและวิดีโอบุคคลออกมาให้สวยดูดี
และในส่วนของการปรับแต่งภาพ ก็มีเครื่องมือให้ใช้ทั้งปรับสี, ใส่ฟิลเตอร์ ลบวัตถุ รวมไปถึงของดีอย่างเปลี่ยนท้องฟ้าสีหม่นๆ ให้ดูสดใสสวยงาม
ภาพถ่าย Portrait ก็สามารถมาเลือกปรับความเบลอโฟกัสภายหลังได้ และเลือกใส่เอฟเฟ็กแสงสตูดิโอได้อีกด้วย
แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 67W
ความจุของแบตเตอรี่ให้มา 5000mAh ถือว่าถูกใจสายเล่นเกม ถึงแม้ว่าจะทำให้ตัวเครื่องมีความหนาและมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น แต่แบตเยอะไว้ก่อน เล่นเกมต่อเนื่องได้แบบยาวๆ แต่ที่เด็ดมากก็คือ POCO ใส่เทคโนโลยีชาร์จเร็ว Turbo charging 67W มาให้ด้วย ที่สามารถชาร์จแบตฯ จากหมดเกลี้ยงจนเต็ม 100% ได้ภายในเวลาเพียงแค่ 42 นาทีเท่านั้น
ภายในยังมีเทคโนโลยี LiquidCool Technology 2.0 ที่ช่วยระบายความร้อน ไม่ให้เครื่องร้อนจนเกินไป ช่วยไม่ให้เราต้องเจอกับอาการเครื่องร้อนจัด จนทำให้การเล่นเกมเฟรมเรตกระตุก อีกทั้งตัวระบบยังมีโหมดควบคุมการใช้พลังงานที่ฉลาด ทำให้การใช้แบตเตอรี่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานมากขึ้น
ล้ำหน้า Choice
รีวิว POCO X3 GT ทีมงานล้ำหน้าฯ มอบ Award ให้ในส่วนของประสิทธิภาพ, การเล่นเกมที่ดีเยี่ยม และความคุ้มค่ากับ ราคา 9,999 บาท
Best Performance 9/10
ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 1100 5G พร้อม RAM 8GB และ ROM 256GB แบบ UFS 3.1 ประสิทธิภาพวัดด้วย Antutu ได้ในระดับคะแนน 500000+ ถือว่าเทียบชั้นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นปีที่แล้วได้สบายๆ หน้าจอที่เป็น 120Hz ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหล และแบตเตอรี่ใหญ่ 5000 mAh พร้อมชาร์จเร็ว 67W ทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานทุกด้าน ไม่ใช่แค่เล่นเกม แต่ใช้งานทั่วไป หรือชมคอนเทนต์บันเทิงต่างๆ ก็ทำได้ดี
Best Gaming 9/10
การเล่นเกมหลังจากทดสอบ เกมกราฟฟิคหนักๆ ทั้งหลายเล่นได้ไม่มีปัญหา โดยปรับกราฟฟิคในระดับมาตรฐาน สามารถเล่นได้แบบเลื่นสบาย ความร้อนระหว่างการเล่นเกมนั้นยังคงมีอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ทำให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมลดลง หน้าจอในการกดสัมผัสค่อนข้างติดมือ และมีลำโพงคู่สเตอริโอ ก็ยิ่งเพิ่มอรรถรสการเล่นเกมให้สนุกยิ่งขึ้น
Best Value 9.5/10
ต้องยอมรับว่า POCO X3 GT ที่เปิดราคาขายไม่ถึง 10,000 บาท แต่ให้สเปคและประสบการณ์ที่เทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนราคา 15,000-20,000 บาท ได้สบาย และยังรองรับ 5G และมี WiFi6 ให้ด้วย ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่าราคากับสิ่งที่ได้มากๆ
Design 8/10
รูปทรงหน้าตาถือว่าทำออกมาสวยกว่าหลายรุ่นที่ผ่านๆ มา การเลือกใช้กระจก Gorilla Glass Victus รวมถึงการเล่นเฉดสีและเอฟเฟกต์ที่ฝาหลังทำให้ดูสวยพรีเมียมมากขึ้น แต่ส่วนตัวผมแล้ว ความมันวาวของฝาหลังนั้น เกิดรอยนิ้วมือได้ง่ายมากๆ และโมดูลกล้องหลังก็นูนออกมาพอสมควร
Camera 8/10
กล้องหลัง 64 ล้านพิกเซลเก็บรายละเอียดของภาพได้ดี พร้อมทั้งซอฟท์แวร์กล้องที่ช่วยให้ถ่ายภาพและวิดีโอมีลูกเล่นเยอะมาก ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ได้สวยเป๊ะ แต่ถ้าถ่ายในสภาพแสงน้อยมากๆ ยังมีเจอ noise ขึ้นในภาพอยู่บ้าง
POCO X3 GT วางจำหน่ายในประเทศไทย ราคา 9,999 บาท โดยจะเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะทาง LAZADA เท่านั้น มาพร้อมกับการรับประกันถึง 15 เดือน