รีวิว ASUS Chromebook Flip CX5 (CX5400) แล็ปท็อประดับพรีเมียมที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Chrome OS จาก Google ที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย สะดวก ทำงานรวดเร็ว ปลอดภัย และมีความเสถียร เหมาะสำหรับกลุ่มนักเรียนนักศึกษา หลังจากที่ได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกา ตอนนี้ทาง ASUS ได้มาเปิดตลาด Chromebook ให้คนไทยได้ใช้งานกันแล้ว
ต้องยอมรับว่า ก่อนหน้านี้สำหรับคนไทย ระบบปฏิบัติการ Android บนสมาร์ทโฟน เป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่สำหรับ Chromebook ที่มีออกมาหลายปี ยังเป็นสิ่งใหม่ในบ้านเรา สำหรับทีมงานล้ำหน้าฯ หลังจากที่ได้ทดสอบลองใช้ ASUS Chromebook Flip CX5 (CX5400) เครื่องที่ได้มาลอง รีวิว ได้สักพัก ก็รู้สึกได้ว่า Chrome OS นั้นใช้งานได้ง่าย เรียนรู้ได้ไม่ยาก ระบบไม่ซับซ้อน แทบทำงานผ่านระบบออนไลน์ คลาวด์ หรือเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อย่างไร้รอยต่อ
ถึงแม้ว่าพื้นฐานมันจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเจาะกลุ่มการศึกษา แต่ถ้าจะเอามาใช้งานอื่นๆ ก็ตอบโจทย์ได้ดี เพราะสเปคของ ASUS Chromebook Flip CX5 (CX5400) ตัวนี้ แรงเหลือทั้งงานเอกสาร เล่นอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงด้านความบันเทิง ดู YouTube ดูสตรีมมิ่ง และเล่นเกม ก็รองรับได้สบาย
สเปค ASUS Chromebook Flip CX5 (CX5400)
- หน้าจอ IPS 14 นิ้ว FHD แบบสัมผัส Glossy display, sRGB100%
- ขนาดตัวเครื่อง 320.9 x 206.5 x 15.75 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 1.4 กิโลกรัม
- โปรเซสเซอร์ Intel Core i5–1130G7 Processor 1.8 GHz
- GPU Intel Iris Xe Graphics
- RAM 8G LPDDR4X on board
- 512GB M.2 NVMe PCIe 3.0 SSD
- กล้อง HD Camera พร้อม Webcam Shield
- ลำโพงคู่จาก harman/kardon
- มี Titan C Security Chip ชิปรักษาความปลอดภัยที่ออกแบบโดย Google
- พอร์ตเชื่อมต่อ
- 2 x Thunderbolt 4 USB-C
- 2 x USB 3.2 Gen 1 Type-A
- 1 x microSD card reader
- 1 x 3.5mm combo audio jack
- เชื่อมต่อไร้สาย Dual-band 2×2 WiFi 6 (802.11ax) Bluetooth® 5.0
- Battery 48WHrs, 3–cell Li–ion ใช้งานต่อเนื่องนานสูงสุด 10 ชั่วโมง
- อะแดปเตอร์ Output :15 V DC, 3 A, 45 W
- ระบบปฏิบัติการ Chrome OS
- Wi-Fi 6(802.11ax)+BT5.0
- อุปกรณ์ในกล่อง Wireless mouse / Sleeve Case / อะแดปเตอร์ชาร์จ / Stylus
- สี AI Blue
- ราคา (เปิดตัว) 30,000 บาท
แกะกล่อง ส่องรอบเครื่อง ดูดีไซน์
ตัวบรรจุภัณฑ์ของ ASUS Chromebook Flip CX5 (CX5400) ทางเอซุสใช้เป็นกล่องกระดาษน้ำตาล เป็นวัสดุที่สามารถนำไปทำการรีไซเคิลได้ง่าย เปิดฝามาด้านในจะมีตัวเครื่องวางอยู่ โดยที่ในกล่องจะมีสิ่งของและอุปกรณ์ต่างๆ มาให้ดังนี้
ทั้งหมดนี้ ถือว่าให้มาครบถ้วนสำหรับพร้อมทำงานได้เลย สำหรับการเปิดใช้งานครั้งแรก แนะนำว่าให้ทำการเสียบอะแดปเตอร์และชาร์จไฟจนแบตเตอรี่เต็ม 100% เพื่อเป็นการกระตุ้นแบตเตอรี่เพื่อการใช้งานครั้งแรก
คราวนี้เรามาดูที่ดีไซน์และรอบๆ ตัวเครื่องกันบ้าง สำหรับ ASUS Chromebook Flip CX5 (CX5400) ที่ทีมงานล้ำหน้าเราได้มา รีวิว เครื่องนี้ ตัวเครื่องเป็นสี Al Blue เป็นสีฟ้าอ่อน พื้นผิวแบบด้าน มีเหลือบสีออกไปทางสีเทาเงิน เป็นสีที่ให้ความรู้สึกเหมือนโลหะ จึงดูมีความพรีเมียม พื้นผิวสัมผัสมีความละมุนนุ่มนิ้ว
มีการทำช่องว่างรูปตัว V ระหว่างฝาบนและตัวเครื่อง ที่บริเวณขอบด้านหน้าเครื่อง เพื่อให้เปิดฝาได้ง่าย และการตัดขอบเหลี่ยมมุมรอบเครื่องโดยเทคนิค CNC แบบ Diamond Cut ก็ช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับตัวเครื่องมากยิ่งขึ้น
บอดี้ตัวเครื่องเป็นวัสดุอัลลอยด์ที่มีความแข็งแรงทนทาน ระบายความร้อนได้ดี โดยที่มีความแข็งแรงทนทาน ตัวเครื่องนั้นความแข็งแกร่งผ่านการรับรองมาตรฐาน MIL-STD 810H ทนต่อสภาพอากาศที่อุณภูมิสูง, หนาวจัด และความชื้นสูง อีกทั้งยังป้องกันแรงสั่นสะเทือนได้จากทุกทิศทาง และผ่านการทดสอบต่อการตกหล่นและการกระแทก ทำให้มั่นใจได้ว่าในการใช้งานพกพาไปที่ไหน ก็จะปลอดภัยกับทั้งตัวเครื่องและข้อมูลด้านใน
ฝาหลังของตัวเครื่อง ดูเรียบๆ มีโลโก้ของ ASUS และชิ้นส่วนข้อต่อ เป็นสีเงินเงาวาว สวยตัดเด่นกับสีด้านของตัวเครื่อง และที่มุมบนจะมีโลโก้ของ chromebook เป็นสีเทาติดอยู่
พอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ จะถูกจัดไว้ที่ด้านข้างทั้ง 2 ด้านของตัวเครื่อง มาดูทางด้านซ้ายกันก่อน จะมีช่องของ USB-C ที่รองรับ Thunderbolt4, ช่อง USB 3.2 Gen 1 Type-A, ช่องเสียงแบบ Combo audio jack ขนาด 3.5 มิลลิเมตร และช่องอ่านการ์ดขนาด microSD
พลิกมาทางด้านขวากันบ้าง จะมีปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง, ปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง, ช่องไมโครโฟน และ ช่อง USB-C รองรับ Thunderbolt 4 และช่องเก็บปากกา USI stylus
เอซุสออกแบบช่องเก็บปากกา USI stylus ให้เสียบเก็บไว้กับเครื่องได้อย่างแนบเนียน โดยตัวปากกาจะชาร์จไฟอัตโนมัติทันทีที่เสียบเก็บ ความเร็วในการชาร์จก็ทำได้ดีมาก เพราะเสียบชาร์จแค่ 15 วินาที ก็สามารถใช้งานต่อไปได้นานถึง 45 นาที
ในการใช้งานก็ให้ประสบการณ์การเขียนที่ดี สามารถรองรับแรงกดได้มากถึง 4096 ระดับ ให้คุณใช้งานกับแอปต่างๆ ที่ไม่ใช่แค่จดบันทึกหรือขีดเขียน แต่ยังใช้งานกับแอปวาดรูประดับสูงที่ตอบสนองกับน้ำหนักแรงกดได้อีกด้วย
ระบบเสียงลำโพงตัวเครื่องเป็นแบบสเตอริโออยู่ด้านข้างของเครื่อง ระบบเสียงโดย harman/kardon ที่การันตีเรื่องเสียงที่ดี มีมิติ
ด้านล่างของตัวเครื่องจะเรียบๆ มีส่วนปุ่มยาง 4 จุดที่เป็นเหมือนฐานสำหรับวางตั้งบนโต๊ะไม่ลื่นไถล และมีช่องสำหรับระบายความร้อนที่ด้านข้างใกล้ๆ กับตำแหน่งลำโพง
ที่เห็นว่ามีช่องระบายความร้อนน้อยแบบนี้ เพราะว่าภายใน เอซุสออกแบบเป็นแบบ Fanless Thermal ที่ไม่ใช้พัดลมในการระบายความร้อน ทำให้การใช้งานไม่มีเสียงดัง และยังลดปริมาณฝุ่นที่เข้าไปในตัวเครื่องได้อีกด้วย
เปิดฝาดูด้านในของเครื่องกันบ้าง ภายในตรงบริเวณเครื่องด้านล่างจะเป็นสี Al Blue เหมือนกันกับด้านนอกตัวเครื่อง ส่วนหน้าจอขอบโดยรอบจะเป็นสีดำ ดีไซน์ของจอเป็นแบบ NonoEdge Display ที่ตัวจอขนาดใหญ่ 14 นิ้ว แต่ใช้พื้นที่เท่าๆ กับโน้ตบุ๊คจอ 13 นิ้ว โดยพื้นที่การแสดงผลนั้น มีมากถึง 85% ของหน้าจอ ตัวจอเป็นแบบ IPS ความละเอียด Full HD มีมุมมองในการมองกว้าง 178 องศา และตัวจอยังรองรับการสั่งการแบบสัมผัส ที่ใช้นิ้วจิ้มหรือใช้ปากกา Stylus ก็ได้
ที่ด้านบนตรงกลางของจอ จะมีกล้อง HD Camera ความละเอียด 720p ที่มีตัว Webcam Shield สำหรับเลื่อนปิดกล้องเอาไว้เวลาที่ไม่ได้ใช้งานเพื่อความปลอดภัย และข้างๆ จอจะมีไมโครโฟนอีก 2 ตัว เพื่อช่วยตัดเสียงรบกวนในการสนทนาผ่านการประชุม ให้เสียงพูดของเรามีความคมชัดมากขึ้น
ที่แป้นคีย์บอร์ด เป็นขนาด Full Size วางนิ้วพิมพ์แบบสัมผัสได้อย่างถนัด ระยะความสูงของแป้นอยูที่ 1.5 มิลลิเมตร ให้จังหวะการพิมพ์ที่นุ่มนวลสบายนิ้ว และมี Back-lit ไฟส่องสว่างเพื่อให้ใช้งานในที่มืดได้
ด้านล่างมีทัชแพดขนาดใหญ่ ใช้สำหรับควบคุมเคอร์เซอร์ และคำสั่งควบคุมต่างๆ ได้อย่างลงตัว ทั้งการคลิ้ก, ลาก, Scroll ฯลฯ โดยมีรูปแบบควบคุมสั่งการได้ทั้ง 1 นิ้ว, 2 นิ้ว และ 3 นิ้ว
360° ErgoLift กางจอได้ 360 องศา ใช้งานได้หลายรูปแบบ
ตัวบานพับของ ASUS Chromebook Flip CX5 (CX5400) ออกแบบมาให้ตัวเครื่อง สามารถพับหน้าจอจากตำแหน่งพับปิด ให้กางออกย้อนไปด้านหลังได้ถึง 360 องศา เพื่อให้เราใช้งานได้ในหลากหลายรูปแบบ
- โหมดแล็ปท็อป คือกางเปิดครื่องออกมาใช้งานเป็นคอมพิวเตอร์ตามปกติ แต่ถ้าเรากางหน้าจอออกไปที่ระยะ 135 องศา ตัวฝาหน้าจอจะดันให้นตัวเครื่องเอียงยกขึ้น ทำให้แป้นคีย์บอร์ดเอียงลาดทำมุม 3 องศา ช่วยให้วางมือบนแป้มและพิมพ์ได้สบายมากขึ้น และการยกตัวให้ฐานเครื่องลอยเหนือพื้นโต๊ะเล็กน้อย ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการระบายความร้อนระหว่างทำงานไ้ด้ดีขึ้นอีกด้วย
- โหมดวางราบ เราสามารถกางจองแบบ 180 องศา เพื่อวางเครื่องแผ่กับโต๊ะได้ โหมดนี้เหมาะสำหรับการพรีเซนต์หรือกางเพื่อนำเสนอกับคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม รวมถึงใช้เวลาทำงานร่วมกันหลายๆ คนแล้วกางจอมองได้ง่ายขึ้น
- โหมดเต้นท์ เมื่อเราพับจอย้อนไปด้านหลัง แล้วพลิกตั้งเหมือนกับกระโจม หน้าจอจะหมุนปรับ 180 องศามาเพื่อให้ดูได้ตรงทิศ โหมดนี้เหมาะสำหรับการใช้งานแบบสัมผัสหน้าจอ เพราะแป้นคีย์บอร์ดควบคุมจะถูกล็อคให้ใช้งานไม่ได้ เหมาะสำหรับการพรีเซนเตชัน, ดูคอนเทนต์บันเทิงต่างๆ
- โหมดแท็บเล็ต คือการพับจอกลับมาเป็น 360 องศา ตอนนี้การใช้งานก็เหมือนว่าเรามีแท็บเล็ตขนาด 14 นิ้ว ใช้งานแบบสัมผัส และถือเพื่อจดบันทึกหรือวาดรูปได้ถนัดมากขึ้น
สเปคภายใน และ ประสิทธิภาพ
ASUS Chromebook Flip CX5 (CX5400) ใช้โปรเซสเซอร์เป็น Intel® Core i5-1130G7 1.8 GHz ส่วนประมวลผลกราฟฟิค GPU เป็น Intel® Iris Xe Graphics หน่วยความจำในเครื่อง ใช้เป็น PCIe® 3.0 NVMeTM M.2 SSD ขนาด 512GB และ RAM 8 GB 4266 MHz LPDDR4X
สเปคนี้ สำหรับการใช้งานเป็น chromebook นั้น ถือว่ารวดเร็วเหลือเฟือมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานทั่วไป การใช้งานออนไลน์ต่างๆ งานเอกสาร หรือความบันเทิงทั้งดูหนัง ดูซีรีย์ Netflix หรือว่าเล่นเกมก็ทำได้สบายๆ อีกทั้งพื้นที่เก็บข้อมูลขนาด 512GB นั้นก็ถือว่าใหญ่พอสำหรับการเก็บข้อมูลทุกอย่างได้แบบไม่ต้องห่วงว่าจะเต็มพื้นที่ แถมความเร็ว SSD ที่ใส่มาให้ก็ทำได้ดีมาก
การเชื่อมต่อ
พอร์ตเชื่อมต่อนั้น น่าประทับใจตรงที่ให้มาเป็น USB-C 2 ช่อง ที่รองรับรับมาตรฐาน Thunderbolt4 ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทั้งการชาร์จไฟที่ 45W สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์โอนถ่ายข้อมูลความเร็วสูง และยังสามารถใช้เป็น DisplayPort สำหรับต่อจอที่รองรับ USB-C ระดับ 4K ได้อีกด้วย
ช่อง USB-A ก็ยังมีใส่มาให้ 1 ช่อง เพื่อที่ว่าจะสะดวกในการใช้งานกับอุปกรณ์ทั่วไป รวมไปถึง Flashdrive ต่างๆ และยังมีช่องอ่านการ์ด microSD มาให้อีกด้วย
ด้วยความที่ตัวเครื่องดีไซน์ให้มีความเล็กและบาง ทำให้มันไม่มีช่องเชื่อมต่ออย่าง พอร์ต RJ45 สำหรับเสียบสาย LAN และช่อง HDMI สำหรับเสียบออกจอมอนิเตอร์ ซึ่งจะต้องหาอุปกรณ์พวก HUB มาใช้พ่วงเพิ่มแทน
ส่วนการเชื่อมต่อไร้สาย รองรับมาตรฐาน Wi-Fi6 (802.11ax) แบบ Dual-band 2×2 รองรับความเร็วสูงสุด 2.4Gbps เทคโนโลยี ASUS WiFi Stabilizer ช่วยปรับปรุงการเชื่อมต่อ Wi-Fi ให้มีความเสถียรมากขึ้น และเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 สำหรับใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นจอยคอนโทรลเลอร์ หรือหูฟังแบบไร้สาย
แบตเตอรี่ และการใช้พลังงาน
ตัวเครื่องที่ดีไซน์เน้นความบางเบา แต่ก็ยังให้แบตเตอรี่มาเป็น 48Wh 3-cell lithium polymer ที่เมื่อชาร์จจนเต็ม จะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 10 ชั่วโมง เรียกว่าพกไปทำงานนอกบ้าน ไปเรียนที่โรงเรียนหรือมหาลัย แบบไม่ต้องกังวล
และตัวอะแดปเตอร์ชาร์จ เป็นแบบ 45W สามารถชาร์จได้ 60% ภายในเวลา 49 นาที ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับอะแดปเตอร์หรือ Powerbank ที่เป็นแบบ PD Power Delivery ซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่มาก พกพาได้สะดวกอีกด้วย
ทำความรู้จักกับ Chrome OS
ดูในส่วนของตัวเครื่องกันไปแล้ว คราวนี้มาดูกันที่ตัวระบบปฎิบัติการ พระเอกของ chromebook ตัวนี้ สำหรับ Chrome OS นั้น เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาขึ้นมาโดย Google เจ้าของเดียวกันกับสารพัดผลิตภัณฑ์ออนไลน์ และระบบ Android บนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต
ทำให้การใช้งานหลักๆ ถ้าใครที่เคยใช้งานมือถือ Android มาจะรู้สึกคุ้นเคยขึ้นมาทันที เพราะมีหลายอย่างที่ใกล้เคียงกัน อีกทั้งยังทำงานร่วมกับแอป Android ได้อีกด้วย โดยเราจะแนะนำจุดเด่นที่น่าสนใจให้ได้รู้จักกัน
ใช้งานง่ายมากๆ หลายคนอาจจะกลัวเวลาที่ต้องเลือกใช้อุปกรณ์ที่เป็นระบบที่ตัวเองไม่เคยใช้ แต่อย่างที่บอกไปว่าด้วยพื้นฐานที่มันคล้ายกับ Android ถ้าคุณใช้มือถือระบบนี้อยู่ เรียกว่าแทบจะไม่ต้องเรียนรู้อะไรเพิ่มเลย หรือถ้าไม่เคยใช้ คุณก็สามารถเริ่มใช้งานได้ไม่ยาก
Google ออกแบบ Chrome OS เน้นที่ความสะดวกและคล่องตัว ตั้งแต่การเริ่มใช้งาน คุณเพียงแค่ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Google ของคุณ ก็สามารถเริ่มใช้งานได้ทันที โดยระบบจะสร้างผู้ใช้ใหม่ขึ้นมาในเครื่อง แล้วก็ทำงานได้ทันที
และถ้าต้องการเปลี่ยนไปใช้งานใน chromebook เครื่องอื่น ก็สามารถไปลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Google ทุกอย่างที่คุณเซ็ตไว้ ก็จะตามไปในเครื่องใหม่ได้ทันทีแบบไม่ต้อง Setup ใหม่ให้วุ่นวาย
ทำงานแบบ Offline ได้ หลายคนคิดว่าทำงานผ่านระบบ Google จะต้องออนไลน์ตลอดหรือเปล่า คำตอบคือ ไม่ เพราะเราสามารถทำงานกับไฟล์ที่บันทึกไว้ในเครื่องได้ เหมือนกับคอมพิวเตอร์ทั่วไป เพียงแค่ว่าตอนที่ออฟไลน์ งานจะไม่ได้ sync กับ cloud เท่านั้นเอง
ทำงานรวมกับโซลูชันต่างๆ ของ Google ได้หมด ไม่ว่าจะเป็น Google Play ที่คุณสามารถดาวน์โหลดแอป Android มาใช้งานบน ASUS Chromebook Flip CX5 (CX5400) ไม่ว่าจะเป็นแอปสำหรับทำงาน หรือแอปบันเทิงทั้งหลายก็รองรับ หรือจะใช้งานกับ Google Workspace เพื่อทำงาน ทั้ง Gmail, Docs, Drive, Calendar, Google Meet ฯลฯ
ทำงานร่วมกับอุปกรณ์ Android ได้อย่างไร้รอยต่อ อีกความสะดวกที่คุณจะหลงรัก Chrome OS คุณสามารถลิงก์สมาร์ทโฟน Android ของคุณกับ ASUS Chromebook Flip CX5 (CX5400) เพื่อทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นให้การแจ้งเตือน หรือสายโทรเข้าจากสมาร์ทโฟน มาแจ้งบน Chromebook ได้ หรือการต่ออินเทอร์เน็ต ก็สามารถแชร์เน็ตจากสมาร์ทโฟนมาใช้ได้ทันที
ความปลอดภัยระดับสูง ระบบมีการป้องกันไวรัสภายในตัว ผ่านการอัปเดตอัตโนมัติตลอดเวลา ทำให้อุปกรณ์ของคุณปลอดภัยและทันสมัยอยู่เสมอ และการเชื่อมต่อกับบัญชี Google ของคุณ ความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัย
- Built-in virus protection มีระบบป้องกันไวรัส และมัลแวร์ต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องลงแอป Anti-virus เพิ่มเติม
- Security sandbox ตัว Chrome OS จะเก็บข้อมูลซอฟท์แวร์ที่อยู่ในเครื่องแยกออกจากกัน เพื่อป้องกันในกรณีที่เข้าเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย ข้อมูลส่วนอื่นๆ ก็จะยังคงปลอดภัย
- Verified Boot มีการตรวจสอบระบบอย่างเข้มงวดตั้งแต่การบูตเครื่อง จะทำการตรวจหามัลแวร์และซ่อมแซมระบบให้อัตโนมัติหากเกิดมีความเสียหาย
- Titan C Security Chip เป็นชิปที่ใช้รักษาความปลอดภัยของระบบ ที่ทาง Google ออกแบบมาใช้ใน Chromebook รุ่นที่เปิดตัวตั้งแต่หลัง มกราคม 2019 เป็นต้นมา เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่าใช้งานแล้วจะมีความปลอดภัยอยู่เสมอ
- Multi-user support ด้วย Chromebook เครื่องเดียว สามารถลงทะเบียนผู้ใช้ Google ได้หลายคน โดยจะแยกความเป็นส่วนตัวของทั้งการตั้งค่า แอป และไฟล์ต่างๆ ให้เป็นอย่างดี
ระบบที่เบา ทำงานได้รวดเร็ว เราสัมผัสกับความเร็วบน Chromebook ตั้งแต่การบูสต์เครื่องที่เร็วมาก ใช้เวลาเพียงแค่ 6 วินาทีก็พร้อมทำงานได้แล้ว ตัวระบบมีการอัปเดตซอฟต์แวร์ทุก 6 สัปดาห์ เพื่อให้คุณได้ใช้งานเวอร์ชั่นใหม่สุดตลอดเวลา อีกทั้งยังใช้งานผู้ช่วยอัจฉริยะ Google Assitant เพียงแค่พูด OK Google เพื่อสั่งการได้เลย
จุดเด่นของ Chromebook สำหรับการศึกษา
อธิบายคร่าวๆ เกี่ยวกับจุดเด่นของ Chrome OS ไปแล้ว ทีนี้เรามาเข้าเรื่องที่ว่า ทำไม Chromebook ถึงได้เหมาะสำหรับการใช้งานในกลุ่มการศึกษา
ด้วยความที่ Chrome OS นั้นมีความเรียบง่าย แต่ทรงประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยระดับสูง จึงเหมาะมากที่จะใช้ในระบบของการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นครูอาจารย์ หรือว่านักเรียน รวมไปถึงสถาบันการศึกษา เราจะมาแยกให้ดูว่า ASUS Chromebook Flip CX5 (CX5400) เหมาะเหม็งและลงตัวกับการเรียนการสอนได้ขนาดไหน
สำหรับคุณครู : ด้วยประสิทธิภาพของ ASUS Chromebook Flip CX5 (CX5400) สามารถใช้งานในระดับหนักๆ ได้สบาย ตั้องแต่การสร้างหรือแก้ไขเนื้อหา การเขียนโปรแกรม หรือทำงานบนแอปพลิเคชั่น Virtual ต่างๆ อีกทั้งยังรองรับการทำงานแบบหลายโปรแกรมพร้อมกัน (multitasking) อาทิ วิดีโอคอลที่มีผู้ร่วมได้มากกว่า 15 คนขึ้นไป หรือการเปิดเว็บบราว์เซอร์พร้อมกันหลายๆ อัน และการทำงานผ่าน Google Space หรือต่อออกหน้าจอแสดงผลภายนอก
สำหรับนักเรียน : การใช้งานเพื่อการเรียนการสอนยุคปัจจุบัน ที่หลายสถาบันการศึกษา ได้เลือกใช้ Google Workspace for Education เป็นแพลตฟอร์มการเรียนการสอน ให้นักเรียนทำโครงงานร่วมกัน และยังเปิดกว้างให้นักเรียนเข้าถึงแอป การตั้งค่า และการใช้งานจากอุปกรณ์เครื่องใดก็ได้
สำหรับโรงเรียนและสถานศึกษา : Chrome OS ถูกออกแบบมาให้ แอดมิน สามารถบริหารจัดการอุปกรณ์หลักร้อยหลักพันเครื่องที่เข้ามาใช้ในระบบส่วนกลาง ผ่านคอนโซลได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ และระบบยังออกแบบมาเพื่อให้การเรียนการสอน รวมถึงการสอบวัดผล สามารถทำผ่านแพลตฟอร์มได้อย่างปลอดภัย
ในการสอบ นักเรียนที่ใช้ Chromebook ในระบบจะไม่สามารถต่อออนไลน์เพื่อไปค้นข้อมูล และการแชร์อุปกรณ์ระหว่างห้องเรียนและนักเรียนก็ทำได้ง่าย เพียงแค่ล็อคอินก็เข้าใช้งานได้เลย
ที่สำคัญในเรื่องความปลอดภัย ที่ช่วยให้คุณครูและแอดมิน ประหยัดเวลาในการอัปเดตเครื่อง เพราะระบบจะอัปเดตให้ตลอดเวลา และยังช่วยเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาอีกด้วย
Chrome Education Upgrade
ส่วนนี้เป็นวิธีที่โรงเรียนต่างๆ จะได้ประโยชน์สูงสุด ในการใช้ Chromebook เพื่อการเรียนการสอน โดยที่ตัวระบบนี้จะเป็นการซื้อ License แพ็กเกจเสริมเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยให้การเรียนการสอนยุคใหม่ก้าวไปได้รวดเร็ว และง่ายขึ้น
เพราะปัจจุบัน ระบบการศึกษาถูกท้าทายจากหลายปัจจัย อย่างสถานการณ์ล่าสุดที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ รูปแบบการเรียนแบบ เรียนออนไลน์ ที่นักเรียนต้องเรียนจากที่บ้าน หรือการเรียนแบบ Hybrid ตามสถานการณ์ที่ปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา
ตัว Chrome OS นั้น ออกแบบมาบนพื้นฐานของความง่าย ปลอดภัย และยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับการเรียนการสอนที่แตกต่างหลากหลาย ช่วยให้กระบวนการทั้งระบบทำงานได้ง่ายขึ้นตั้งแต่อาจาร์ยผู้สอน, นักเรียน ไปจนถึงฝ่ายไอทีที่คอยดูแลระบบ
ในตัวของ Chrome Education Upgrade ทางสถาบันการศึกษา จะมีความสามารถมากขึ้น ในการจัดการสภาพแวดล้อมของ Chrome OS ให้ตอบสนองความต้องการของทั้งโรงเรียน, ครู และนักเรียน โดยทีมไอทีจะมีการควบคุมอุปกรณ์ในแพลตฟอร์มของโรงเรียนในระดับขั้นสูงมากขึ้น ทำให้ไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์จากที่โรงเรียน ที่บ้าน หรือที่ใดก็ตาม เรื่องข้อมูลต่างๆ ก็จะยังคงปลอดภัยเสมอ
หัวใจของ Chrome Education Upgrade คือการช่วยลดความยุ่งยากในการปรับใช้ Chromebook ของโรงเรียนให้อยู่ภายใต้เงื่อนไขของโรงเรียนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยทำได้จากคอนโซลผู้ควบคุมระบบของ Google ในคลาวด์ที่ใช้งานง่าย พร้อมรับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องแบบอัตโนมัติ
ความง่ายในการควบคุม ตัวคอนโซลผู้ดูแลระบบจะสามารถกำหนดค่าและจัดการอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ในเครือข่ายได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Chromebook ไปจนถึงเครื่องพิมพ์ ฯลฯ และยังตรวจสอบได้ว่า นักเรียนที่เข้ามาจะต้องล็อคอินเข้ามาผ่านอุปกรณ์ที่กำหนดของทางโรงเรียนเท่านั้น เพื่อไม่ให้มีการใช้บัญชีแปลกปลอม หรือสวมบัญชีเป็นผู้อื่นเข้ามาได้
การใช้งานกับ Google Workspace
นอกจากนี้ ยังใช้งานการเรียนการสอบบนแพลตฟอร์มของ Google อย่างเช่น Classroom สำหรับการเรียนออนไลน์ผ่าน Google Meet และเครื่องมืออื่นๆ เพื่อใช้ในการศึกษา ตามแต่ความต้องการของแต่ละโรงเรียนได้อย่างสะดวก ง่ายดาย และปลอดภัยที่สุด
สรุป รีวิว ASUS Chromebook Flip CX5 (CX5400) กับประสบการณ์ใช้งาน chromebook
สำหรับการเรียนการสอนสมัยใหม่ ตอนนี้ Chromebook ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ทั้งตัวนักเรียนเอง รวมถึงสถาบันศึกษาต่างๆ ที่ต้องการแพลตฟอร์มสำหรับการสอนได้ทั้งในโรงเรียนหรือเรียนออนไลน์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัย ควบคุมดูแลด้วยฝ่ายไอทีได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ที่สามารถจัดการกับอุปกรณ์ต่างๆ จำนวนมากผ่านคอนโซลผู้ดูแลระบบ ได้จากทุกที่ทุกเวลา
ตัว ASUS Chromebook Flip CX5 (CX5400) เมื่อใช้เป็นระบบปฎิบัติการเป็น Chrome OS ทำให้มันเป็นแล็ปท็อปที่เปี่ยมประสิทธิภาพ ทำงานได้อย่างรวดเร็วไม่มีอืดไม่มีหน่วงช้า อีกทั้งยังใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนระบบ Android ได้อย่างไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะใช้ทำงาน ใช้เรียน หรือจะใช้ด้านความบันเทิงพักผ่อนหย่อนใจ ก็ทำได้แบบไม่ต้องกังวล
ASUS Chromebook Flip CX5 (CX5400) ราคา วางจำหน่ายเปิดตัวที่ 30,000 บาท มาพร้อมกับการรับประกันแบบ 3 ปี Onsite Service และรับประกัน 3 ปีแบบ Global Warranty ครอบคลุม 57 ประเทศทั่วโลก พร้อมทั้งมีรับประกันอุบัติเหตุ 1 ปีแรกอีกด้วย (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)
สามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ทาง https://bit.ly/3gbGoXD
#ASUSTH #Chromebook #ChromebookCX5 #ChromeOS