ประเทศจีนมักจะมีปัญหาในเรื่องการเล่นเกมอยู่เสมอ เพราะล่าสุดก็มีการออกกฎใหม่ ที่บังคับให้ผู้เยาว์เล่นเกมได้ ไม่เกิน 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และให้เล่นเพียง 1 ชั่วโมงในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้น
ย้อนกลับไปในปี 2015 ตอนนั้นประเทศจีนก็มีการห้ามขายและซื้อเครื่องเล่นเกมทั่วประเทศ ซึ่งทางรัฐบาลจีนอ้างว่าที่ทำไปก็เพื่อปกป้องเยาวชนและวัฒนธรรมของประเทศ
เมื่อไม่กี่เดือนก่อน Steam ได้เปิดตัว Client ภาษาจีน อย่างเป็นทางการ แต่ก็มาพร้อมกฎระเบียบที่เคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็น การแสดงฉากที่มีเลือดและการพนัน
ล่าสุดรัฐบาลจีนก็ได้ออกกฎใหม่ ที่ระบุว่าเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีในประเทศจีน จะสามารถเล่นวิดีโอเกมได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมงในแต่ละสัปดาห์ โดย Xinhua สื่อจีนของรัฐฯ รายงานว่า เยาวชนจะสามารถเล่นเกมได้แค่ 1 ชั่วโมงในวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์
ที่สำคัญก็คือเด็ก ๆ ไม่สามารถเลือกช่วงเวลาที่อยากจะเล่นเกมได้เอง เพราะทางรัฐบาลกำหนดช่วงเวลามาให้แล้ว นั่นก็คือช่วง 20.00 น. ถึง 21.00 น. แปลว่าเด็ก ๆ จะต้องเล่นเกมภายในช่วงเวลาดังกล่าวเท่านั้น หากใครมาช้าก็อดเล่นให้ครบ 1 ชั่วโมง
รัฐบาลจีนไม่ได้ทำข้อกำหนดนี้ไปบังคับกับผู้ปกครองของเด็ก ๆ แต่นำไปใช้กับบริษัทเกมอย่าง Tencent และ NetEase แทน โดยจะให้บริษัทเหล่านี้ปรับเงื่อนไขการลงทะเบียนด้วยชื่อจริง รวมถึงการเข้าสู่ระบบที่จะช่วยให้รัฐบาลสามารถติดตามกิจกรรมการเล่นเกมของผู้เยาว์ได้ และถ้าเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีไม่ได้ลงทะเบียนดังกล่าวก็จะไม่สามารถเล่นเกมได้เลย
จากข้อมูลของ Xinhua รายงายว่าสาเหตุของข้อจำกัดเหล่านี้คือปักกิ่งต้องการป้องกัน “การติดเกมออนไลน์” โดยไม่คำนึงถึงแพลตฟอร์มที่ผู้เล่นใช้ แม้แต่องค์การอนามัยโลก (WHO) ก็กล่าวว่า “Gaming disorder” เป็นโรคอย่างหนึ่งในปี 2019 ซึ่งทำให้อุตสาหกรรมเกมผิดหวังมาก
ก่อนหน้านี้ผู้เยาว์ในจีนสามารถเล่นเกมได้นาน 90 นาทีในวันธรรมดา และ 3 ชั่วโมงในช่วงวันหยุด แปลว่าช่วงเวลาในการเล่นเกมของพวกเขาจะหายไปถึง 66% ซึ่งกฎนี้มีผลไปถึงช่วงวันหยุดราชการต่าง ๆ ด้วย
ที่มา neowin