ยอดจอง Galaxy Z Fold3 | Flip3 5G ในไทยโตไม่หยุด ล่าสุดพุ่งสูง 8 เท่าของรุ่นก่อนหน้า ทำให้ลูกค้าแบรนด์อื่นเปลี่ยนมาใช้เพิ่มถึง 30% ชูกลยุทธ์ ‘คัลเจอร์เรอร์ คูล’ ขนทัพอินฟลูเอนเซอร์ไทยและระดับโลก พิชิตใจกลุ่มลูกค้าวงกว้าง
ซัมซุง เผยกลยุทธ์พิชิตตลาดสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ ตอกย้ำตำแหน่งที่หนึ่งทั้งในระดับโลกและประเทศไทย ด้วยยอดจองพุ่งทะลุ 8 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าตั้งแต่ยัง ไม่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และตัวเลขลูกค้าใหม่จากแบรนด์อื่นเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 10% พร้อมตั้งเป้าสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้กลายเป็นสมาร์ทโฟนกระแสหลักมากขึ้นในอนาคต
ในช่วงครึ่งปีแรกของ 2564 ซัมซุงได้ทำการสำรวจตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทย และค้นพบว่าตลาดอยู่ในภาวะทรงตัว ขณะเดียวกับที่ตัวเลขของสมาร์ทโฟนในกลุ่มพรีเมี่ยมเซกเมนต์กลับสวนทางตลาด ด้วยอัตราการเติบโตเชิง
มูลค่าที่เพิ่มขึ้นถึง 11% ในขณะที่อัตราการเติบโตเชิงปริมาณเพิ่มขึ้นเพียง 1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสามารถสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยพร้อมที่จะซื้อผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยม หากผลิตภัณฑ์นั้นมีนวัตกรรมที่ดีและตรงกับความต้องการของพวกเขา
ซัมซุง ผู้บุกเบิกตลาดสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ พร้อมครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่ง 3 ปีซ้อน
นายสิทธิโชค นพชินบุตร รองประธานองค์กรกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “จากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคและเทรนด์การใช้งานสมาร์ทโฟนที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงครึ่งทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้ซัมซุงได้บุกเบิกตลาดสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ ผ่านการเปิดตัว Galaxy Fold ในปี 2562 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันในสมาร์ทโฟนเซกเมนต์ใหม่ที่มีซัมซุงเป็นผู้นำ โดยตลาดนี้ได้มีการเติบโตขึ้นต่อเนื่องแบบก้าวกระโดด ซึ่งบริษัทวิจัยข้อมูลได้เผยผลการวิเคราะห์ว่าตัวเลขตลาดสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้จะเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าภายในสิ้นปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หรืออัตราการเติบโตต่อปี (Compound Annual Growth Rate: CAGR) อยู่ที่ประมาณ 113% และยอดขายจะพุ่งสูงถึง 64 ล้านเครื่องทั่วโลกภายในปี 2568”
“ซัมซุงครองความเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ตลอด 3 ปีซ้อน ซึ่งจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์และความมุ่งมั่นในการนำเสนอนวัตกรรมล่าสุดให้กับผู้บริโภคผ่านฟอร์มแฟกเตอร์ใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าได้จริง ทำให้สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ในเจเนอเรชันล่าสุดของซัมซุง อย่าง Galaxy Z Fold3 | Flip3 5G ประสบความสำเร็จเป็นประวัติการณ์ด้วยยอดจองทั่วโลก ทั้งในเกาหลีใต้ อเมริกา และยุโรป เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าเป็นอย่างมาก รวมถึงในประเทศไทยที่ล่าสุดตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็น 8 เท่า ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ด้วยเช่นกัน” นายสิทธิโชค กล่าวเพิ่มเติม
Galaxy Z Fold3 | Flip3 5G กับการสร้างมาตรฐานใหม่ ทั้งด้านนวัตกรรมและประสบการณ์การใช้งาน
เหตุผลที่ทำให้ Galaxy Z Fold3 | Flip3 5G ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค นอกเหนือจากความโดดเด่นด้านนวัตกรรมที่นับเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับสมาร์ทโฟนแฟลกชิปด้วยการรวมหลากหลายสุดยอดนวัตกรรม ‘ครั้งแรกของโลก’ ไว้ในเครื่องเดียวแล้ว สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ยังแสดงให้เห็นถึงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการนำ ‘ความคิดเห็นของผู้บริโภค’ มาเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนา ทำให้สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้รุ่นใหม่นี้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด ทั้งในด้านการทำงาน ความบันเทิง การรับชมคอนเทนต์ การเล่นเกม ผ่าน Galaxy Z Fold3 5G และด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นทำให้ของ Galaxy Z Flip3 5G ได้บ่งบอกตัวตนและไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนของคนยุคใหม่อีกด้วย
การตลาดเชิงรุกแบบ ‘คัลเจอร์เรอร์ คูล’ สร้างความใกล้ชิดกับผู้บริโภค ผ่านอินฟลูเอนเซอร์
ปีนี้ยังถือเป็นปีแรกที่ซัมซุงเปิดตัวสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้พร้อมกันทั้ง 2 รุ่น ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญที่ชี้ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ให้แก่ผู้บริโภคในวงกว้าง (Mainstream) ยิ่งไปกว่านั้น ซัมซุงยังได้เปลี่ยนกลยุทธ์การทำการตลาดและการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ จากเดิมที่จัดสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ไว้ในหมวดหมู่ลักซ์ชัวรีเซกเมนต์ (Luxury Segment) และทำการสื่อสารกับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม มาเป็นการทำการตลาดในรูปแบบ
‘คัลเจอร์เรอร์ คูล’ (Cultural COOL marketing) เพื่อสร้างความใกล้ชิดกับผู้บริโภคในวงกว้าง อาทิ การดึงศิลปินไอดอลเกาหลีวง BTS ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ พร้อมทำมิวสิควิดีโอพิเศษเพื่อการเปิดตัว Galaxy Z Flip3 5G โดยเฉพาะ หรือการพาร์ทเนอร์กับอินฟลูเอนเซอร์ในไทยให้มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ในแบบของตนเอง ด้วยเป้าหมายที่จะให้สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้กลายเป็นสมาร์ทโฟนกระแสหลักมากกว่าเดิม
ฟอร์มแฟกเตอร์ดึงดูดใจลูกค้าใหม่ ด้วยอัตราเปลี่ยนแบรนด์สูงถึง 30%
ผลลัพธ์จากคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ทั้งในด้านนวัตกรรมและฟอร์มแฟกเตอร์อันเป็นเอกลักษณ์ การทำการตลาดและการสื่อสารรูปแบบใหม่ผ่านทางช่องทางออนไลน์ที่โดนใจผู้บริโภคยุคใหม่ รวมถึงกลยุทธ์ด้านราคาที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งยังสามารถนำสมาร์ทโฟนเครื่องเก่ามาเป็นส่วนลดแลกซื้อเครื่องใหม่ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ ซึ่งแคมเปญนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้ Galaxy Z Fold3 | Flip3 5G สามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ที่ไม่ใช่ลูกค้าซัมซุงเดิมได้มากกว่ารุ่นที่ผ่านมา
โดยจากข้อมูลการเข้าชมเว็บไซต์ samsung.com นับตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม – 7 กันยายน 2564 พบว่ามีผู้บริโภคใหม่ที่เข้ามาดูรายละเอียดเพื่อค้นหาข้อมูลสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ Galaxy Z Fold3 | Flip3 5G เพิ่มขึ้นกว่าช่วงเวลาเปิดตัวสมาร์ทโฟนแฟลกชิปรุ่นอื่นกว่าเท่าตัว พร้อมทั้งยังมีอัตราการเปลี่ยนแบรนด์ (Switching) เพื่อมาใช้ซัมซุงเพิ่มขึ้นถึง 10% จากอัตราลูกค้าใหม่ที่เปลี่ยนแบรนด์ โดยปกติที่ 20% แต่เมื่อเป็นช่วงเวลาการเปิดตัวสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้กลับสูงถึง 30%
“จากปรากฎการณ์ความสำเร็จอย่างท่วมท้นทั่วโลกและในประเทศไทย ด้วยยอดสั่งจองล่วงหน้าของ Galaxy Z Fold3 | Flip3 5G ที่เกินเป้าหมายกว่า 2 เท่า ทำให้ซัมซุง ประเทศไทย ได้รีบวางแผนจัดการเป็นการเร่งด่วน ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าทุกท่านจะได้เข้าถึงนวัตกรรมใหม่ล่าสุดนี้ เราจึงได้เปิดให้ลงทะเบียนเพื่อให้ลูกค้าทำการจองสินค้าล่วงหน้า ผ่านทาง Samsung.com และ Samsung Experience Store อีกครั้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนเป็นต้นไป ซึ่ง
ทางบริษัทฯ จะทำการส่งมอบตามลำดับการลงทะเบียน โดยคาดว่าจะสามารถส่งมอบสินค้าล็อตแรกได้ในวันที่ 8 ตุลาคมนี้” นายสิทธิโชค กล่าวทิ้งท้าย