รีวิว BenQ ScreenBar ไฟหน้าจอมอนิเตอร์ จัดโต๊ะคอม ให้สว่างทำงานสบายตา

รีวิว BenQ ScreenBar ไฟติดหน้าจอมอนิเตอร์ ช่วยคุณ จัดโต๊ะคอม ให้มีแสงสว่างเหมาะสำหรับการทำงานได้สบายสายตามากกว่าเดิม ดีไซน์ขนาดเล็ก ปรับองศาของแสงไฟได้ วางติดตั้งกับจอคอมได้ง่าย แถมมีระบบปรับแสงให้อัตโนมัติ ราคา 3,490 บาท

ในปีนี้ กระแสของการทำงานที่บ้านแบบ Work from Home รวมถึงการเรียนออนไลน์ที่บ้าน กลายเป็นสิ่งที่คนไทยเราต้องปรับตัวกันเป็นอย่างมาก จนทำให้หลายบ้านต้องลุกขึ้นมาจัดพื้นที่ภายในบ้าน เอาไว้สำหรับการทำงาน, การประชุมออนไลน์ ฯลฯ กันมากขึ้น

สิ่งที่สำคัญในการจัดพื้นที่การทำงาน โดยเฉพาะการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ที่คนจำนวนมากตอนนี้ ต้องนั่งทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ การจัดองค์ประกอบที่เหมาะสมจึงมีความจำเป็นเพื่อให้ไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพในะระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการจัดที่นั่งให้ตำแหน่งหน้าจออยู่ในระยะที่ไม่ก้มหน้า ท่านั่งที่ไม่งอเพื่อลดอาการปวดหลัง และสิ่งสำคัญที่หลายคนมองข้ามไปคือ การทำงานในที่ๆ มีแสงสว่างเพียงพอ

รีวิว BenQ ScreenBar แกะกล่อง
ในแพ็กเกจจะมีตัวแท่งของโคมไฟ, ฐานตั้ง, และสาย USB มาให้พร้อมใช้งาน

ทำไมต้องใช้ โคมไฟปรับแสงหน้าจอมอนิเตอร์?

เชื่อว่า คนที่นั่งทำงานหน้าจอเป็นเวลานานๆ ต่อเนื่องเป็นประจำ จะประสบกับอาการที่เวลาเรามองอะไรก็ดูจะพร่ามัวอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่คุณไม่ได้สายตาสั้น อาการนี้คือ “สายตาล้า” ที่เกิดจากการใช้สายตาต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ โดยมีตัวเร่งให้เกิดอาการนี้ก็คือ “แสงสว่าง”

เพราะถ้าเราใช้สายตามองในพื้นที่ๆ แสงไม่เพียงพอ ก็จะทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานหนักขึ้นจนเกิดอาการ ตาล้า ขึ้น หรือถ้าหากใช้วิธีเปิดจอคอมพิวเตอร์ให้สว่างมากๆ ก็มีผลต่อดวงตาด้วยเช่นกัน ไม่ใช่แค่ตาล้าแต่จะมีอาการอย่างแสบตาด้วย และยิ่งอยู่ในสภาวะแบบนี้ต่อเนื่อง เป็นประจำ ก็จะมีผลต่อสุขภาพดวงตา ตั้งแต่ปัญหาสายตาหรือผลกระทบด้านอื่นๆ ตามมาหลายอย่าง

สำหรับค่าแสงสว่างที่เหมาะสมสำหรับการทำงาน หรือการอ่านหนังสือ ควรจะอยู่ที่ 300-500 Lux แต่ว่าไฟในบ้านที่พักอาศัยนั้น ส่วนใหญ่จะสว่างไม่ถึง โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 200 Lux หรือถ้าเป็นห้องนอนก็จะสว่างน้อยกว่านั้น ที่บางครั้งเราคิดว่าเปิดไฟที่บ้านก็สว่างแต่จริงๆ แล้วมันสว่างไม่พอ หรือแม้แต่ตำแหน่งไฟบนเพดานที่พอส่องมาตัวเราก็อาจจะไปบังแสงนั้นด้วย

ดังนั้น วิธีการแก้ปัญหาเรื่องความสว่างที่ง่ายที่สุดก็คือ การใช้โคมไฟมาเพิ่มความสว่างเฉพาะที่บริเวณโต๊ะคอมนั่นเอง แต่หลายคนก็มีข้อจำกัดกับการใช้โคมไฟ ตั้งแต่เรื่องของพื้นที่ในบ้านไม่เอื้ออำนวย หรือจะวางบนโต๊ะก็รู้สึกว่าเกะกะรุงรัง

ปัจจุบัน มีโคมไฟแบบใหม่ ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานร่วมกับจอมอนิเตอร์ได้อย่างลงตัว นั่นก็คือ ScreenBar ที่ต้องบอกว่า BenQ คือเจ้าตำรับที่ออกสินค้ารูปแบบนี้มาก่อนใคร ตั้งแต่ปี 2018 และยังได้รางวัลสินค้าดีเด่นจาก Taiwan Excellent 2018 และ IF Design Award 2019 อีกด้วย จนตอนนี้จะเห็นว่าเริ่มมีหลายๆ แบรนด์ทำโคมไฟลักษณะนี้ออกมาวางจำหน่ายกันบ้างแล้ว

จุดเด่นของโคมไฟแบบ สกรีนบาร์ ก็คือ การออกแบบเพื่อตอบโจทย์การใช้งานบนพื้นที่โต๊ะทำงานที่มีจำกัด โดยให้ความแสงสว่างที่เพียงพอต่อการใช้งานหน้าคอม และการอ่านหนังสือ ด้วยขนาดที่เล็ก ติดตั้งง่าย แถมยังดูสวยทันสมัย จนหลายๆ คนนอกจากจะเอาไว้ใช้สำหรับเปิดไฟส่องสว่างแล้ว ยังดูเป็นอุปกรณ์เสริมตกแต่งจอคอมที่ดูเท่ขึ้นอีกด้วย

คุณสมบัติเด่น

การออกแบบของ BenQ ScreenBar และฟีเจอร์ต่างๆ สำหรับการใช้งาน ถือว่าทำออกมาได้น่าสนใจ เราจะมาแนะนำกันเป็นข้อๆ ไปเลย

ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย

ตัวโคมไฟจะเป็นรูปแบบทรงแท่งยาว ขนาดความยาว 45 เซนติเมตร เหมาะสำหรับการใช้งานกับจอมอนิเตอร์ขนาดตั้งแต่ 24-34 นิ้ว โดยใช้งานได้ทั้งแบบจอแบบเรียบปกติ และแบบจอโค้ง 1500R การติดตั้งตัวฐานจะมีแท่นด้านหลักออกแบบมาให้ปรับเพื่อวางพาดบนขอบจอและดันที่ด้านหลังจอได้อย่างง่ายได้ รองรับทั้งจอที่ด้านหลังแบนและนูนตั้งแต่ 1-3 เซนติเมตรได้อย่างไม่มีปัญหา

โดยตัวฐานเวลาพาดเกี่ยวกับหน้าจอ จะกินพื้นที่เข้ามาประมาณ 5 มิลลิเมตร ทำให้เวลาใช้งานกับจอที่ขอบบางมากๆ ก็ไม่มีปัญหาว่าจะล้ำเกินเข้ามาบริเวณแสดงภาพ

แหล่งพลังงาน ตัวโคมไฟจะมีสาย USB-C to USB-A ความยาว 1.5 เมตรมาให้ เราสามารถเอาไปเสียบกับช่อง USB-A ของคอมพิวเตอร์ หรือ HUB หลังจอมอนิเตอร์ก็ได้ หรือไม่มี ก็เสียบกับอะแดปเตอร์ไฟที่กำลัง 5V/1A ก็ได้

การใช้งาน ปุ่มควบคุมทั้งหมดจะเป็นแบบสัมผัสที่ใช้แตะเบาๆ โดยฝั่งซ้ายจะเป็นปุ่มเลือกปรับความสว่าง กับปรับอุณหภูมิสี ส่วนทางขวา จะเป็นปุ่มเปิดปิด ระบบปรับแสงอัตโนมัติ และปุ่มเปิดปิดไฟ

แสงจาก LED ที่ไม่รบกวนสายตา

แหล่งกำเนิดแสงของโคมไฟ BenQ ScreenBar จะเป็นแบบ LED ที่ปรับอุณหภูมิสีได้ 8 ระดับ ตั้งแต่สีโทนอุ่น Warm Light 2700K ไปจนถึงสีฟ้า Day light 6500K ซึ่งเป็นค่าสีตามมาตรฐานของ ANSI ส่วนความสว่างสามารถเลือกปรับได้ถึง 15 ระดับ

ตัวหลอดไฟ LED ที่ใช้นั้น มีคุณสมบัติ ผ่านมาตฐาน IEEE PAR1789 ที่ไม่มีผลด้านอัตราแสงกระพริบ และผ่านมาตรฐาน IEC/TR 62778 ที่ปราศจากอันตรายจากแสงสีฟ้า ทำให้แสงของตัวโคมไฟนั้น ไม่ส่งผลกระทบกับดวงตาในระหว่างการทำงาน

หมุนปรับองศา ไม่มีแสงสะท้อนที่หน้าจอ

ตัวแผงหลอดไฟ LED มีการออกแบบด้วยวิธี Asymmetrical Optical Design ควบคุมให้ทิศทางการฉายแสงสว่างออกมามีมุมองศาที่ไม่กว้างจนเกินไป ทำใหม่เมื่อฉายแสงจากด้านบนของจอลงมา จะสว่างเฉพาะบริเวณพื้นที่บนโต๊ะเท่านั้น แสงไฟจะไม่ส่องไปที่หน้าจอจนเกิดแสงสะท้อน สร้างความรำคาญให้กับสายตาในเวลาทำงาน รวมถึงตัวโคมไฟยังสามารถเลื่อนปรับหมุนเองได้อีก 10 องศา

ปรับแสงให้อัตโนมัติ ตามสภาพแสงของห้อง

เป็นจุดเด่นที่หาจาก ScreenBar ยี่ห้ออื่นไม่ได้ ด้วยที่ BenQ ใส่เซ็นเซอร์วัดแสงมาให้ด้วย ทำให้มันสามารถปรับ DIM แสงสว่างของโคมไฟ ให้เหมาะสมกับสภาพแสงของห้องในเวลานั้นได้อย่างเหมาะสม โดยสามารถปรับระดับความสว่างได้ถึง 500 lux โดยความสว่างในระดับ 500lux จะอยู่ในระยะ 74 x 35 เซนติเมตร จากหน้าจอ

คุณไม่ต้องเดาว่าจะเลือกแสงสว่างแค่ไหนดี หรือจะเลือกอุณหภูมิเท่าไหร่ดี ตัว BenQ ScreenBar จะจัดการปรับให้เองโดยอัตโนมัติ ถ้าหากอยู่ในสภาพห้องที่มีแสงสลัว หลอดไฟจะปรับความสว่างเป็น 300lux ซึ่งไม่ได้สว่างมากจนเกินไป แต่ถ้าเป็นห้องมืดก็จะปรับได้ถึง 500lux

ทดสอบลองใช้ BenQ ScreenBar แล้วรู้สึกอย่างไร?

ต้องบอกก่อนว่า ก่อนที่ผมจะได้ตัว BenQ ScreenBar มา รีวิว ก็เคยมีใช้งานอุปกรณ์โคมไฟรูปแบบนี้มาก่อนบ้างแล้ว เชื่อว่าหลายคนน่าจะสงสัยว่า โคมไฟแบบนี้ เอามาติดแล้ว มันจะแก้ปัญหาที่มีผลกระทบกับสายตาอย่างที่กล่าวไปตอนต้นได้หรือไม่ ผมก็คงต้องบอกว่า “ช่วยได้จริงๆ ครับ”

ปกติแล้ว ผมจะเป็นคนที่ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ในแต่ละวัน ไม่ต่ำกว่า 7-8 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ก่อนหน้านี้อาการ “สายตาล้า” เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยมาก หลังจากทำงานต่อเนื่องมาทั้งวัน ทั้งๆ ที่ห้องก็เปิดไฟสว่าง แต่ในความจริงแล้ว ความสว่างนั้นยังไม่พอ ซึ่งบางทีผมก็ไปเร่ง Brightness ของจอให้สว่างขึ้น ผลก็คือยิ่งทำให้สายตาพร่าง่ายขึ้นไปอีก

แต่หลังจากลองใช้ตัวโคมไฟ ScreenBar แล้ว เจ้าอาการสายตาล้า มองอะไรก็เบลอหลังจากทำงานนานๆ แทบจะไม่เกิดขึ้นอีกเลย เพราะตอนนี้แสงสว่างบริเวณโต๊ะทำงานและหน้าคอมสว่างเพียงพอกับสายตาแล้ว ถือว่าดีมากๆ

และสำหรับ BenQ ScreenBar ถือว่าทำงานได้น่าประทับใจมาก กับระบบปรับแสงอัตโนมัติ Auto Dimming เพราะว่าในการทำงาน บางครั้งแสงในห้องของเราก็เปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละช่วงของวัน อย่างกลางวันแสงจากแดดด้านนอกเข้ามา กลางคืนบางทีก็ไม่ได้เปิดไฟ ตัวโคมไฟนั้นจะปรับให้ตรงที่เราทำงาน สว่างเพียงพอตลอดเวลาโดยไม่ต้องไปปรับตั้งค่าอะไรเองเลย

นอกจากนี้ การปรับค่าอุณหภูมิและความสว่างของแสงของ BenQ ScreenBar จะไม่ส่งผลกระทบกับสีบนหน้าจอ เป็นสิ่งที่คนทำงานด้านกราฟฟิค แต่งภาพ หรือวิดีโอให้ความสำคัญมากๆ เพราะตัวโคมไฟที่ฉายแสงมานั้นไม่ได้ส่องหรือกระทบไปที่ตัวจอ ทำให้การแสดงสีของจอนั้นไม่เกิดการผิดเพี้ยน

มีบางส่วนที่หลังจากทดสอบใช้งานแล้วมีขัดใจบ้างเล็กน้อย ตรงที่การปรับความสว่างหรือค่าสี ที่ตัวโคมไฟไม่มีตัวแสดงผลให้เห็นว่าตอนนี้สว่างระดับไหน โทนอะไร ถ้าคิดจะปรับเองคือต้องค่อยๆ ปรับเอา ซึ่งสุดท้ายผมก็แก้ไขปัญหาด้วยการเปิดเป็น Auto-Dimming ไว้ตลอดเลย

สรุปแล้ว ใครที่ตอนนี้ Work from Home แล้วมีปัญหาเรื่องความสว่างของโต๊ะคอมทำงานไม่พอ เจ้า BenQ ScreenBar ถือว่าแก้ปัญหาได้ทีเดียวจบเลย ไม่ต้องไปเปลี่ยนหลอดไฟในบ้านใหม่ ไม่ต้องหาโคมไฟแบบตั้งโต๊ะ เหน็บโต๊ะมาตั้งให้เกะกะ แถมเอามาติดกับจอก็ไม่เกะกะสายตา จะทำงานตอนกลางคืนปิดไฟมืดๆ ในห้องนอน ก็ทำได้ไม่กวนคนอื่นที่หลับอยู่

BenQ ScreenBar ราคา หาซื้อได้ที่ไหน?

สำหรับตัวโคมไฟปรับแสง BenQ ScreenBar ราคา จำหน่ายในประเทศไทย อยู่ที่ 3,490 บาท สามารถหาซื้อได้จากร้านค้าไอทีชั้นนำ ตัวแทนจำหน่าย และช่องทางออนไลน์ที่ BenQ Thailand ใน Shopee และ Lazada สินค้ารับประกัน 1 ปี โดยสามารถลงทะเบียนได้ทางหน้าเว็บไซต์ BenQ Thailand

นอกจากนี้ ยังมี ScreenBar Plus เป็นรุ่นที่เพิ่มตัวรีโมทคอนโทรลแบบ Dial สำหรับวางไว้บนโต๊ะ ให้คุณเลือกปรับควบคุมการทำงานได้สะดวกมากขึ้น ราคา อยู่ที่ 4,490 บาท เลือกกันได้ตามสะดวก

ข้อมูลสเปค ด้านเทคนิค ของ BenQ ScreenBar

  • Light source‎ : Dual color LED‎
  • Color Rendering Index‎: > 80‎
  • Illuminance‎: 800 Lux in the center (height 45cm)
  • Luminous Flux‎: 320lm‎
  • Color Temperature‎: 2700~6500K ‎
  • Power Input‎: 5V USB port‎
  • Power Consumption: 5W (max.)‎
  • Materials‎ : Aluminium alloy, Polycarbonate
  • Dimension‎ : 45cm x 9.0cm x 9.2cm‎
  • Net Weight‎ : 0.53kg‎

Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล และจักรยาน