Adobe กำลังจะเปิดตัว Content Credentials เป็นระบบใน Photoshop ที่สร้างขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ได้ว่าผู้ขาย NFT คือคนที่ทำผลงานชิ้นนั้นเอง และผู้ขาย NFT สามารถเชื่อมโยง Adobe ID กับกระเป๋าเงินคริปโตได้ รวมถึงอนุญาตให้ตลาดกลาง NFT แสดงใบรับรองเพื่อพิสูจน์ว่าแหล่งที่มาของงานศิลปะนั้นเป็นของแท้
จากบทสัมภาษณ์กับ Scott Belsky หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Adobe กล่าวว่าฟังก์ชันนี้จะรวมอยู่ใน Photoshop พร้อมตัวเลือก “prepare as NFT” ซึ่งจะเปิดตัวเป็นแบบพรีวิวภายในสิ้นเดือนนี้ Belsky กล่าวว่าข้อมูลการระบุแหล่งที่มาที่สร้างโดย Content Credentials จะอยู่ในระบบ IPFS
Note : IPFS หรือ InterPlanetary File System เป็นการ decentralize ในการโฮสต์ไฟล์โดยเครือข่ายของผู้คนมีหน้าที่รับผิดชอบในการรักษาข้อมูลให้ปลอดภัยและพร้อมใช้งาน แทนที่จะเป็นแบบบริษัทเดียว (คล้ายการทำงานของระบบ torrent)
Adobe กล่าวว่าตลาดกลาง NFT อย่างเช่น OpenSea , Rarible , KnownOrigin และ SuperRare จะสามารถผสมผสานและทำงานร่วมกับ Content Credentials เพื่อแสดงข้อมูลที่ระบุแหล่งที่มาของ Adobe
การขโมยผลงานศิลปะเป็นปัญหาใหญ่ในโลกของ NFT มีกรณีตัวอย่างมากมายที่ผู้ที่นำผลงานศิลปะขึ้นระบบ NFT ไม่ใช่ผู้สร้างงานศิลปะชิ้นนั้น หรือไม่มีสิทธิ์ในบล็อกเชน เหตุผลก็คือ ใครๆ ก็สามารถสร้าง NFT ได้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของคอนเทนต์นั้นก็ตาม และไม่มีอะไรที่บล็อกเชนจะสามารถหยุดสิ่งเหล่านี้ได้ พูดให้เข้าใจง่ายก็คือ เราสามารถคลิกขวาที่รูปภาพที่มีอยู่ของ NFT แล้วสร้างใหม่อีกครั้งด้วยตัวเอง ซึ่งอาจหลอกผู้ซื้อโดยไม่รู้ตัวได้ แม้ว่าระบบของ Adobe จะไม่ได้ช่วยป้องกันการขโมยงานศิลปะ แต่ก็มีวิธีพิสูจน์ได้ว่า NFT ที่ขายอยู่ไม่ได้ขโมยมาขาย
อย่างไรก็ตาม NFTไม่ใช่สิ่งเดียวที่ได้รับประโยชน์จาก Content Credentials ของ Adobe ที่เป็นผลมาจาก Content Authenticity Initiative โดยบริษัทจะเปิดตัวฟังก์ชันนี้ในแบบ beta ก่อน และผู้ใช้สามารถใช้เพื่อแสดงว่ามีการแก้ไขอะไรในไฟล์บน photoshop , ติดแท็กรูปภาพในสต๊อกบนระบบ adobe และอื่นๆ
ที่มา : The Verge | Adobe Blog