Google ประกาศว่ากำลังใช้เทคโนโลยี AI และข้อมูลการทำแผนที่เพื่อช่วยให้ผู้คนทั่วโลกเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์และที่สำคัญ เชื่อถือได้ เช่น เรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ทาง Google จึงได้นำเสนอฟีเจอร์ใหม่ของ Maps เพื่อช่วยให้ชุมชนต่างๆ ปลอดภัยและอยู่กันอย่างยั่งยืนมากขึ้น และยังทำให้ชุมชนนั้นๆ สามารถเข้าถึงและค้นหาเจอได้ รวมถึงอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงของ Google Maps คือ การเพิ่มเลเยอร์แสดงผลของ พื้นที่เกิดไฟป่า (wildfire layer) เข้าไป
เมื่อปีที่แล้ว Google Maps ได้เพิ่มแผนที่ขอบเขตไฟป่าโดยใช้ข้อมูลดาวเทียมเพื่อให้ผู้ใช้ได้เข้าใจถึงขนาดและตำแหน่งที่เกิดไฟป่าได้ดีขึ้น ทั้งนี้ Google สร้างฟีเจอร์ดังกล่าวจากการรวบรวมข้อมูลไฟป่าทั้งหมด และนำเสนอในเลเยอร์แบบใหม่บนแผนที่ทั่วโลก ผู้ใช้จะได้รับรายละเอียดปัจจุบันเกี่ยวกับไฟป่าหลายครั้งได้จากเลเยอร์ไฟป่า
Google ยังกล่าวอีกว่าข้อมูลนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและมีข้อมูลเพียงพอในกรณีฉุกเฉิน ผู้ใช้สามารถแตะสัญลักษณ์ไฟบนแผนที่เพื่อดูแหล่งข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมดจากรัฐบาลท้องถิ่น รวมถึงเว็บไซต์ฉุกเฉิน หมายเลขโทรศัพท์ และรายละเอียดในเรื่องของการอพยพ
เมื่อข้อมูลพร้อมใช้งาน การแตะไปที่สัญลักษณ์รูปไฟจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องการควบคุม , จำนวนพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้ และเวลาที่รายงานข้อมูล
เลเยอร์ พื้นที่เกิดไฟป่า บน Google Maps กำลังเปิดตัวทั่วโลกภายในสัปดาห์นี้บนระบบปฏิบัติการ Android และจะเปิดให้ผู้ใช้ iOS และเดสก์ท็อปในเดือนตุลาคม 2021
นอกจากนี้ ยังมีการอัปเดตเรื่องการขยาย Tree Canopy Insights เพิ่มเติมไปยังอีก 100 เมือง และ Google ยังกล่าวอีกว่าจะขยายเครื่องมือ Environmental Insights Explore Tree Canopy จากปัจจุบัน 15 เมืองเพิ่มเป็น 100 เมืองทั่วโลกในปีนี้ รวมถึง กวาดาลาฮารา (เม็กซิโก) , ลอนดอน , ซิดนีย์ และโตรอนโต
ในขั้นต้น Tree Canopy Insights เปิดให้บริการใน 15 เมืองในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น โดย Google ให้ข้อมูลว่าฟีเจอร์นี้เปิดตัวครั้งแรกที่ลอสแอนเจลิส และได้กลายเป็นส่วนสำคัญของเป้าหมายระยะยาวของเมืองในการเพิ่มร่มเงาของต้นไม้อย่างน้อย 50% ภายในปี 2028
Google ยังคงมุ่งมั่นนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อช่วยให้รัฐบาลและ NGO สามารถสร้างที่อยู่ที่ใช้งานได้และไม่ซ้ำใครภายในแอป Android พร้อมกล่าวว่าการสร้างที่อยู่อาจใช้เวลาหลายปีในก่อนหน้านี้ แต่ฟีเจอร์ใหม่ทำให้กระบวนการนั้นสั้นลงเหลือไปหลายสัปดาห์เลยทีเดียว
ที่มา : SLASHGEAR