GrabFood แนะ 3 กลยุทธ์ นำพาร้านเดลิเวอรี่สู่ความสำเร็จ เตะตา-ติดใจ-ต่อยอด

คนไทยใช้เวลาโดยเฉลี่ยเพียงคนละ 1 นาทีในการตัดสินใจเลือกสั่งอาหารบน GrabFood นับตั้งแต่การเปิดแอป ท่ามกลางความหลากหลายของร้านอาหารในแอปพลิเคชัน การทำให้ร้านโดดเด่นและเตะตาลูกค้าในช่วงเวลาอันสั้น มีผู้ใช้บริการสั่งอาหารจากที่ร้านอย่างสม่ำเสมอ และกลายเป็นร้านที่ครองใจผู้บริโภค

เพื่อเป็นแนวทางสู่ความสำเร็จสำหรับธุรกิจร้านอาหาร แกร็บฟู้ดจึงขอถอดบทเรียนจากงาน Grab Next พลิกวิกฤต เพิ่มโอกาส ก้าวสู่สุดยอด “ร้านค้าตะหลิวทองคำ” ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจ จากรายงานเทรนด์การสั่งอาหารเดลิเวอรี่ในประเทศไทย ประจำปี 2563/2564 (Thailand Food Delivery Trend Report 2020/2021) จัดทำโดย NielsenIQ

นี่คือ 3 รหัสลับ “เตะตา-ติดใจ-ต่อยอด” ที่จะช่วยให้ร้านอาหารมัดใจลูกค้าได้ในทุกๆ มื้อ

1.เตะตา – เมนูโดนใจ ภาพปัง คำบรรยายชวนน้ำลายไหล 

การสร้างสรรค์ชื่อเมนูที่แตกต่าง รูปภาพเตะตา ไปพร้อมกับคำบรรยายเมนูให้ชวนน้ำลายไหลถือเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดผู้บริโภคให้หยุดพิจารณาร้านอาหาร โดยจากรายงาน Thailand Food Delivery Trend Report 2020/2021 เผยว่า เพียงถ่ายภาพที่โชว์จุดเด่นของเมนูอาหาร หรือเพิ่มคำอธิบายอย่าง “ความกรอบ” ลงในเมนูไก่ทอดช่วยทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 60% และเรียกน้ำย่อยของลูกค้าได้แน่นอน

การออกแบบเมนูให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละมื้อเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะเพิ่มโอกาสในการเพิ่มยอดขายสำหรับร้านอาหารบนแกร็บฟู้ด โดยจากรายงานข้างต้น พบว่าโอกาสในการสั่งอาหารมีอยู่ในทุกมื้อ ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้า กลางวัน เย็นหรือดึก 

  • สำหรับมื้อเช้า ในปี 2019 ยอดการสั่งอาหารในมื้อเช้าเติบโตถึง 4.4 เท่า ดังนั้น การเปิดร้านค้าให้เร็วขึ้น สามารถช่วยเพิ่มยอดขายสำหรับเมนูประเภทอาหารเช้าได้ 
  • ในส่วนของมื้อกลางวัน ผู้บริโภคมักนิยมสั่งมาทานเป็นคู่ การจัดเซ็ตเมนูอาหารสำหรับ 2 ท่านจึงเป็นที่นิยมสำหรับผู้บริโภค 
  • มื้อเย็นมักเป็นช่วงเวลาที่ผู้บริโภคพร้อมลองเมนูใหม่ๆ และพร้อมใช้จ่ายเพื่อดื่มด่ำกับการทานอาหารกับครอบครัว เพื่อนฝูงและคนที่รัก ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับร้านอาหารที่จะนำเสนอเซ็ตเมนูใหม่ๆ ที่ทำให้ทั้งอิ่มท้องและอิ่มคุ้มร่วมกับคนใกล้ชิดได้

2. ติดใจ – บริการดี อาหารตรงปก หมั่นมอบโปรปัง 

การมอบบริการที่รวดเร็วทันใจในการปรุงอาหาร รักษามาตรฐานความสะอาดและสุขอนามัย รวมถึงเมนูอาหารที่นำมาส่งต้องตรงปก จะช่วยยกระดับความประทับใจให้แก่ลูกค้า และทำให้พวกเขากลับมาสั่งอาหารอีกครั้ง จนกว่ารู้ตัวก็กลายเป็นลูกค้าประจำไปเรียบร้อยแล้ว

จากการเก็บข้อมูลของแกร็บพบว่า มีโอกาสถึง 70% ที่ผู้บริโภคจะไม่กลับมาใช้บริการร้านอาหารซ้ำ หากได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีจากคุณภาพของอาหารที่ได้รับ การมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านอาหาร นอกจากนี้ การรับฟังเสียงของลูกค้าและนำมาปรับปรุงการบริการที่ดีขึ้นจะยิ่งช่วยมัดใจลูกค้าได้อีกด้วย

การทำโปรโมชันหรือสร้างสรรค์เมนูเซ็ตพร้อมส่วนลด เพื่อมอบมื้อที่อิ่มท้อง ไปพร้อมๆกับความคุ้มค่าแบบจุใจ จะยิ่งช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น โดย 63% ของผู้บริโภคตัดสินใจเลือกร้านอาหารและเมนูที่มอบดีลสุดคุ้ม มากกว่าร้านอาหารที่ไม่ได้จัดเมนูโปรโมชั่น ดังนั้น หากหมั่นมอบโปรปังบ่อยๆ เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นลูกค้าให้ซื้อซ้ำจนติดใจอย่างแน่นอน

3. ต่อยอด – เพิ่มโอกาสทางธุรกิจต้องอาศัยข้อมูล และตัวช่วยเพิ่มการมองเห็นของร้าน 

หมั่นศึกษาข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า ภาพรวมของยอดขาย รวมถึงสินค้าขายดีของร้าน เพื่อวางแผนการจัดเตรียมวัตถุดิบสำหรับเมนูขายดี หรือสร้างเซ็ตเมนูจากรายการอาหารที่ลูกค้านิยมสั่ง จะยิ่งช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจความต้องการลูกค้าอย่างตรงจุด และพัฒนาเมนูให้โดนใจได้มากขึ้น 

นอกจากนี้ การทำโฆษณาในแอปพลิเคชันผ่านการค้นหาร้านอาหารด้วยคีย์เวิร์ด หรือบริการ GrabAds ยังสามารถเพิ่มการเข้าถึงของลูกค้าและโอกาสในการทำยอดขายได้ เช่น เมื่อร้านขายข้าวมันไก่ ซื้อคีย์เวิร์ดคำว่า ‘ข้าวมันไก่’ ร้านข้าวมันไก่นั้นๆ จะปรากฏอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นง่าย โดยจากสถิติพบว่าร้านอาหารที่มีการทำโฆษณาผ่าน GrabAds มีโอกาสในการมองเห็นของร้านและเพิ่มยอดขายได้ถึง 3 เท่าเลยทีเดียว

“แกร็บฟู้ด ในฐานะหนึ่งในผู้ให้บริการแอปพลิเคชันฟู้ดเดลิเวอรี ขอเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนแก่พาร์ทเนอร์ร้านอาหารในการร่วมฝ่าวิกฤตโควิด-19 ผ่านการแชร์เคล็ดลับและข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการร้านอาหารสามารถต่อยอดธุรกิจ เพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้เพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จในยุคที่เทรนด์ของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วตลอดเวลา” นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ผู้อํานวยการฝ่ายการตลาดและพันธมิตรทางธุรกิจ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวทิ้งท้าย

งาน “Grab Next: พลิกวิกฤต เพิ่มโอกาส ก้าวสู่สุดยอด ร้านค้าตะหลิวทองคำ” ถูกจัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีในการแบ่งปันเคล็ดลับในการวางแผนธุรกิจแก่พาร์ทเนอร์ร้านอาหาร รวมถึงข้อมูลเชิงลึกของพฤติกรรมของผู้ใช้บริการแอปพลิเคชันแกร็บ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ในการกระตุ้นยอดขายให้แก่พาร์ทเนอร์ร้านอาหาร ภายในงาน ยังมีประกาศฟีเจอร์ใหม่สำหรับพาร์ทเนอร์ร้านค้า โดยแนะนำเครื่องมือที่จะช่วยให้พาร์ทเนอร์สามารถจัดการร้านอาหารบนแอปพลิเคชั่นได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น และฟีเจอร์เด่นเพื่อสร้างความประทับใจแก่ผู้บริโภค นอกจากนี้ แกร็บ ยังได้เปิดตัวโครงการ “ร้านตะหลิวทองคำ*” เพื่อทลายขีดจำกัดของร้านอาหารให้เข้าถึงสิทธิพิเศษที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

สำหรับผู้ที่สนใจที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับแกร็บฟู้ด สามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร และทริคดีๆที่จะทำให้ร้านอาหารเตะตา ติดใจ และต่อยอดโอกาสใหม่ๆ ได้ ผ่าน https://www.facebook.com/GrabTH หรือ Facebook Group: ครอบครัวร้านค้า GrabFood