LINE ปล่อยวีดีโออนิเมชั่น “อัพเกราะป้องกัน ด้วยพลังของวัคซีน” เพื่อองค์กรและหน่วยงานการศึกษาต่างๆ รวมถึงผู้ปกครอง สามารถนำไปใช้เป็นสื่อส่งเสริมความเข้าใจแก่เด็กและเยาวชนไทยถึงประโยชน์ของวัคซีนและรณรงค์การร่วมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด เพื่อเป็นเกราะป้องกัน ไม่ใช่เพียงแค่ป้องกันตนเอง แต่เพื่อครอบครัวที่รักและสังคมของเรา
ดร.พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE ประเทศไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อโควิด 19 ที่คลี่คลายขึ้น ผู้ติดเชื้อมีจำนวนลดลง ควบคู่ไปกับการเพิ่มขึ้นของผู้ได้รับวัคซีน มีการปลดล็อคมาตรการต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ อย่างไรก็ดี ยังมีคนไทยอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่ได้รับวัคซีน และอีกจำนวนมากที่ยังมีความกังวลในการฉีดวัคซีน ดังนั้นแนวทางปฏิบัติในการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อฯ ยังถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนยังต้องตระหนักและจะการ์ดตกไม่ได้
LINE ประเทศไทย ในฐานะแพลตฟอร์มดิจิทัลยอดนิยมอันดับหนึ่งของคนไทย เล็งเห็นถึงสถานการณ์ดังกล่าว จึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ให้ความเข้าใจเรื่องการรับวัคซีนที่ถูกต้อง ผ่านสื่ออนิเมชั่นที่เข้าใจง่ายไปยังคนไทยที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนโดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน จากข้อมูลการแพทย์ในปัจจุบัน การรับวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ถือเป็นการป้องกันบรรเทาหลักที่สำคัญและมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการรักษาระยะห่าง ใส่หน้ากาก และล้างมือเป็นประจำ
วีดีโออนิเมชัน “อัพเกราะป้องกัน ด้วยพลังวัคซีน” ถูกสร้างขึ้นในรูปแบบเอนิเมชั่น คาแรกเตอร์ลายเส้นสีสันสดใส ประกอบเสียงเพลงที่มีเนื้อหาเข้าใจง่าย เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเด็กและเยาวชนได้ดี มีเรื่องราวสะท้อนถึงสิ่งที่พวกเราคนไทยได้พบเจอ และปฏิบัติตัวกันมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการดูแลร่างกายให้แข็งแรง การรักษาระยะห่าง การใส่หน้ากาก ล้างมือ แต่ไม่ว่าเราจะเข้มงวดเพียงใด ก็ดูเหมือนอาจยังไม่เพียงพอที่จะป้องกันกับเชื้อโควิด ในช่วงเวลานี้ วัคซีนจึงเป็นเหมือนการยกระดับการป้องกันได้อีกขั้น หรืออาจเรียกว่า อัพเกราะป้องกัน ด้วยพลังของวัคซีน ถือเป็นการอัพเลเวลการป้องกันครั้งสำคัญที่จะช่วยให้พวกเราสามารถก้าวผ่านสถานการณ์ครั้งนี้ไปด้วยกันได้
ไลน์ ประเทศไทย หวังว่า วิดีโออนิเมชันชิ้นนี้จะเป็นสื่อกลางในการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการรับวัคซีนโดยเฉพาะแก่เด็กและเยาวชนที่จะทำให้ทุกคนสามารถมีภูมิป้องกัน ไม่พ่ายแพ้ต่อการติดเชื้อโควิดได้ง่าย การป้องกันครั้งนี้เริ่มจากตัวเรา และเมื่อทุกคนมีภูมิต้านโควิดมากพอ พวกเราจะได้กลับมามีใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกันยิ่งกว่าเดิม” ดร.พิเชษฐ กล่าวทิ้งท้าย