ท่ามกลางรายงานจากพรีเซนเทชั่นภายในที่หลุดออกมา ที่ทำให้หลายคนเข้าใจว่ากลุ่มผู้ใช้ที่เป็นวัยรุ่นของ Facebook นั้นกำลังลดลงเรื่อยๆ ทางฝั่ง Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Facebook จึงอยู่เฉยไม่ได้พร้อมกับกล่าวถึงประเด็นนี้ว่า บริษัทกำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงเพื่อเน้นให้บริการกลุ่มผู้ใช้วัยรุ่นและคนหนุ่มสาวเป็นลำดับความสำคัญสูงสุด
คนหนุ่มสาวและวัยรุ่นนี่แหละ คือ อนาคตของ Facebook
ในแผนการที่จะปรับปรุงและยกเครื่อง Facebook ใหม่นั้น บริษัทวางแผนที่จะทำการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ทั้งกับ Facebook และผลิตภัณฑ์ในเครือตัวอื่นๆ เพื่อปรับและสร้างวิสัยทัศน์ให้ตรงกับ vision และเป้าหมายที่วางไว้ให้บริษัทก้าวสู่ยุคของ Metaverse
ปัจจุบัน โซเชียลมีเดียตัวอื่นๆ ต่างก็ค่อยเติบโตขึ้นเรื่อยๆ การแข่งขันเริ่มเข้มข้นและสูงขึ้นเรื่อยๆ Zuckerberg ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า บริษัทจะเพิ่มความพยายามเอาใจผู้ใช้วัยรุ่นและคนหนุ่มสาวที่อายุ 18 – 29 ปีให้มากกว่านี้ แม้ว่ามันจะเป็นส่วนของค่าใช้จ่ายของผู้ใช้ที่มีอายุมากกว่าก็ตาม
ในระหว่างการพูดคุยเรื่องผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของบริษัท Zuckerberg กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญใน Facebook และ Instagram ในปีหน้า เพื่อพัฒนาวิดีโอให้ดียิ่งขึ้นไปกว่านี้ และ Reels ของ Instagram ก็ถือเป็นส่วนสำคัญของประสบการณ์ผู้ใช้ นอกจากปรับปรุงฝั่งแพลตฟอร์มแล้ว ตัวบริษัท Facebook จะมีการปรับปรุงภายในเพื่อให้คนหนุ่มสาวเป็นดาวเด่น
Zuckerberg กล่าวถึงเรื่องวิสัยทัศน์ใหม่ของบริษัทว่า เป้าหมายของ Facebook คือช่วยให้ Metaverse เข้าถึงผู้คนหลายพันล้านคน โดย Metaverse สามารถเปิดการค้าดิจิทัลที่มีมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ แต่เขาไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่บริษัทจะทำการเปลี่ยนชื่อเพื่อให้สะท้อนถึงโฟกัสใหม่ที่เน้นไปที่ AR และ VR แต่จะเป็นการแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีความทะเยอทะยาน ให้ความสำคัญ และจริงจังกับด้านนี้มาก
วันจันทร์ที่ผ่านมาว่าจะมีการรายงานเกี่ยวกับรายงานทางการเงิน 2 ชุด โดยชุดแรก เกี่ยวกับตระกูลของแอปต่างๆ ของ Facebook ที่รวมถึง Facebook , Instagram , Messenger และ WhatsApp ส่วนอีกชุด เป็นรายงานของแผนก Reality Labs ที่ดูแลเรื่องงาน AR และ VR โดยในแถลงการณ์ Facebook กล่าวว่ากำไรปี 2021 จะลดลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากการลงทุนใน Reality Labs และบริษัทมีแผนจะเพิ่มการรายจ่ายในอีกหลายปีข้างหน้าให้กับเฉพาะ AR และ VR เท่านั้น
อีกหนึ่งเรื่องที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ คือ เรื่องการเปิดเผยเอกสารภายในที่ได้จากอดีตพนักงานของ Facebook อย่าง Frances Haugen นั้น Zuckerberg กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า มันเป็นความพยายามร่วมกันของกลุ่มองค์กรข่าวในการคัดกรองและคัดเลือกเอกสารที่หลุดออกมาเพื่อชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดของ Facebook โดยเอกสารภายในจำนวนมากที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับความพยายามต่อสู้กับเรื่อง hate speech และความรุนแรงต่างๆ ของ Facebook ที่ล้มเหลว ที่ถูกส่งมอบให้แก่สมาชิกสภาคองเกรซและคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ
ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ ไม่ได้เกี่ยวกับโซเชียลมีเดียเป็นหลัก นั่นหมายความว่า ไม่ว่า Facebook จะทำอะไร พวกเราไม่สามารถแก้ไขมันด้วยตัวของเราเอง
Mark Zuckerberg กล่าวถึงเรื่อง hate speech และความรุนแรงต่างๆ บนแพลตฟอร์ม Facebook
ที่มา : ENGADGET
