Facebook เลิกใช้ชื่อแบรนด์ Oculus สำหรับอุปกรณ์ VR ของบริษัท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งหลังจากบริษัทได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัท เป็น Meta นอกจากนี้ ยังระบุอีกว่าบริษัทมีแผนจะลบข้อกำหนดเพื่อให้มีบัญชี Facebook สำหรับใช้ฮาร์ดแวร์ของตน คาดจะเริ่มต้นในปีหน้า
Andrew Bosworth หัวหน้าแผนกทีมพัฒนา AR/VR ของ Meta ได้โพสต์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า บริษัทกำลังนำแบรนด์และผลิตภัณฑ์ให้เข้าใกล้ความเป็น Metaverse มากขึ้น เมื่อผู้คนซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทไป ทางบริษัทก็ต้องการให้พวกเขารับรู้และเข้าใจอย่างชัดเจนว่าอุปกรณ์ทั้งหมดเหล่านั้นมาจาก Meta บริษัทที่มีวิสัยทัศน์ ที่ต้องการก้าวเข้าสู่การเป็น Metaverse
ต่อไป VR จะเป็นช่องทางที่สมจริงที่สุดสำหรับผู้คนที่เข้าถึง Metaverse และเมื่อเรามองไปสู่เป้าหมายการนำผู้คนเข้าสู่โลก VR เราต้องทำให้ชัดเจนว่า แว่น Quest คือผลิตภัณฑ์ของ Meta
ด้วยเหตุนี้ เราจึงลดความซับซ้อนของสถาปัตยกรรมแบรนด์ของเรา และเลิกใช้ชื่อแบรนด์ Oculus ตั้งแต่ต้นปี 2022 โดยคุณจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงจาก Oculus Quest จาก Facebook เป็น Meta Quest และ Oculus App เปลี่ยนเป็น Meta Quest App
Andrew Bosworth กล่าวต่อ
Bosworth ยอมรับว่าการตัดสินใจเลิกใช้ชื่อแบรนด์ Oculus นั้นยากมาก แต่ถึงแม้จะเลิกใช้ชื่อแบรนด์ไปแล้ว แต่วิสัยทัศน์ของ Oculus ดั้งเดิมยังคงฝังลึกอยู่ในวิถีของ Meta และพร้อมจะขับเคลื่อนให้เทคโนโลยี VR เป็นที่ยอมรับและเข้าถึงได้มากขึ้นในยุคปัจจุบัน
และที่สำคัญ Bosworth ระบุว่า แว่น Quest จะไม่มีการบังคับให้ล็อกอินด้วยบัญชี Facebook แล้ว โดยจะมีผลปีหน้า
สรุปการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ตามที่ Andrew Bosworth โพสต์เอาไว้ดังนี้
- ชื่อทีมของ Bosworth จากเดิมชื่อ Facebook Reality Labs เปลี่ยนเป็น Reality Labs
- ยกเลิกการใช้ชื่อแบรนด์ Oculus ทั้งหมด เป็น Meta โดยจะมีผลตั้งแต่ต้นปี 2022 ดังนี้
- แว่น Oculus Quest เปลี่ยนเป็น Meta Quest
- แอป Oculus App เปลี่ยนเป็น Meta Quest App
- บริการโซเชียลต่างๆ ในเครือของ Oculus จะเปลี่ยนไปใช้ชื่อแบรนด์ว่า Horizon อย่างเช่น Horizon Home , Horizon Venues , Horizon Friends และ Horizon Profile
- อุปกรณ์ Facebook Portal ที่ใช้สำหรับวิดีโอคอลล์ จะเปลี่ยนชื่อเป็น Meta Portal
ที่มา : Andrew Bosworth | EUROGAMER