หากเอ่ยถึงชื่อแบรนด์ Balmuda แล้ว หลายคนคงนึกถึง เครื่องปิ้งขนมปัง/เตาอบ เป็นอย่างแรก ล่าสุด Balmuda บริษัทออกแบบจากประเทศญี่ปุ่นได้เปิดตัว Balmuda Phone สมาร์ทโฟนตัวแรกของแบรนด์ในงานแถลงข่าวที่กรุงโตเกียว
โทรศัพท์ Balmuda Phone เปิดตัวโดย Balmuda Technologies แผนกใหม่ของบริษัทที่ก่อนหน้านี้รู้จักกันในด้านเครื่องใช้ในบ้านระดับพรีเมียมที่มีสไตล์ เช่น หม้อหุงข้าวและเครื่องฟอกอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เครื่องปิ้งขนมปังของ Balmuda ที่ได้รับความนิยมสูงมาก
จากรูปลักษณ์ที่เห็น Balmuda Phone นั้นมีความแตกต่างจากสมาร์ทโฟนตัวอื่นๆ ที่วางขายในตลาด โดย Gen Terao ซีอีโอของบริษัทกล่าวถึงสมาร์ทโฟนในตลาดว่า เขารู้สึกว่าสมาร์ทโฟนในช่วงไม่กี่ปีมานี้นั้น ใหญ่และเทอะทะเกินไป ดังนั้นบริษัทจึงออกแบบ Balmuda Phone ให้มีขนาดกะทัดรัดและดูสง่างามเป็นหลัก
หน้าจอแสดงผลมีขนาด 4.9 นิ้ว อัตราส่วนหน้าจอ 16:9 ความละเอียดระดับ FHD ตัวเครื่องมีความหนา 13.7 มิลลิเมตร วัดจากจุดที่หนาที่สุด แผงด้านหลังจะมีความเรียว โค้งมน และบางลงเรื่อยๆ เมื่อเข้าใกล้กับขอบของตัวเครื่อง
ตัวกรอบและบอดี้ของเครื่องทำจากพลาสติก แต่ดูแล้วคุณภาพงานสร้างน่าจะแข็งแรงดี มีความคอนทราสต์กันที่ด้านหลังเครื่อง ระหว่างขอบที่มีความมันวาว กับ หลังเครื่องที่เป็นสีแบบด้าน
หลังเครื่องมาพร้อมกล้องหลังตัวใหญ่ที่มีเซ็นเซอร์ 48 ล้านพิกเซลที่มุมขวาบน ส่วนรอยบุ๋มที่มุมซ้ายบนเป็นเซ็นเซอร์ที่ใช้สแกนลายนิ้วมือ
กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มาพร้อมหน้าจอแบบ punch-hole เจาะรูอยู่มุมขวาบนของด้านหน้าจอ
สเปคโดยรวมของมือถือจะอยู่ประมาณพวกมือถือระดับ mid-range โดยชิปที่ใส่มาเป็นชิป Snapdragon 765 มาพร้อม RAM 6GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 128GB ระบบปฏิบัติการที่ใช้เป็น Android 11
แบตเตอรี่ความจุ 2,500 mAh ที่น่าจะชดเชยกับโปรเซสเซอร์ที่ใช้พลังงานต่ำ นอกจากนี้โทรศัพท์ยังรองรับการชาร์จแบบไร้สาย
Balmuda Phone จะวางจำหน่ายในญี่ปุ่นแบบติดสัญญากับทาง SoftBank ในช่วงปลายเดือนนี้ และ Balmuda จะขายเครื่องเปล่าที่ไม่ติดสัญญาเองในราคา 104,800 เยน หรือประมาณ 30,000 บาท เครื่องมีให้เลือก 2 สี คือ สีขาว และ สีดำ
หากดูจากราคาแล้ว ก็ถือว่าเป็นราคาที่แรงเอาเรื่องสำหรับสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 11 (เหมือนกับที่มีคนแซวเครื่องปิ้งขนมปังอะไร ราคาตั้ง 329 ดอลลาร์ หรือประมาณ 10,800 บาท) แต่ทั้ง 2 กรณีนี้ ผู้ซื้อไม่เพียงแต่ซื้อสินค้าเท่านั้น แต่น่าจะจ่ายเงินให้กับค่าของการออกแบบและประสบการณ์ผู้ใช้มากกว่า ดังนั้นมันอาจไม่ใช่สินค้าที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสมาร์ทโฟนเรือธงของฝั่ง Android
ที่มา : 9to5google | Balmuda