DJI ประกาศเปิดตัว Mavic 3 series รุ่นต่อจาก Mavic 2 ที่ทางบริษัทเคลมว่ามีฟังก์ชั่นครอบคลุมที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา โดยโดรนตัวนี้จะมาพร้อมกล้อง Hasselblad และ กล้องซูม 28x
Mavic 3 มีระบบกล้อง 2 ตัวคือกล้องซูมไฮบริด 28x และกล้อง Hasselblad ขนาด 24 มม. พร้อมเซ็นเซอร์ 4/3 โดยกล้อง Hasselblad สามารถจับภาพนิ่งความละเอียด 20 เมกะพิกเซลและบันทึกวิดีโอ 5.1K ที่ 50 เฟรมต่อวินาที หรือวิดีโอ 4K ที่ 120 เฟรมต่อวินาทีสำหรับวิดีโอสโลว์โมชั่นได้
เซ็นเซอร์ภาพถูกปรับปรุงให้สามารถบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงขึ้น และลด Noise ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย มีรูรับแสงที่ปรับได้ตั้งแต่ f/2.8 ถึง f/11
ส่วนกล้องรองนั้นมีเลนส์เทเลโฟโต้ขนาด 162 มม. พร้อมรูรับแสง f/4.4 และโดรนรุ่นนี้ยังรองรับ Apple ProRes 422 HQ มาพร้อมกับ SSD ขนาด 1TB และสายเชื่อมต่อความเร็วสูง 10Gbps สำหรับการถ่ายโอนข้อมูล
นอกจากนี้โดรนยังมาพร้อมกับ Omnidirectional Obstacle Sensing เซนเซอร์ที่ช่วยในการหลบหลีกสิ่งกีดขวาง โดยอาศัยการตรวจจับวัตถุรอบ ๆ ตัวเพื่อบินหลบโดยอัตโนมัติ
มีการอัปเกรดฟีเจอร์ ActiveTrack 5.0 สำหรับการติดตามที่ดีขึ้น รวมถึงการใช้อัลกอริธึมการกำหนดตำแหน่งที่รวมสัญญาณจากดาวเทียม GPS, GLONASS และ BeiDou เอาไว้ โดยระบบจะทำการเตือนผู้ใช้ทันทีที่มีเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ในบริเวณใกล้เคียง และมีการแจ้งเตือนตำแหน่งในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างเสี่ยงด้วย
แบตเตอรี่ที่ได้รับการออกแบบใหม่นั้น ทำให้โดรนสามารถเวลาบินได้นานสูงสุด 46 นาทีในสภาวะที่เหมาะสม และมันยังสร้างแรงต้านน้อยลงกว่ารุ่นก่อนถึง 35 เปอร์เซ็นต์ ทำให้บินได้เร็วขึ้น มีการเพิ่มคุณสมบัติใหม่อื่น ๆ ได้แก่ ระบบ Advanced Return to Home และระบบส่งสัญญาณที่ได้รับการอัปเกรด เพื่อการส่งวิดีโอที่ชัดเจนยิ่งขึ้นแม้ในสภาวะที่ท้าทาย
DJI จะเริ่มวางจำหน่าย Mavic 3 บนเว็บไซต์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยแต่ละรุ่นจะมีราคาดังนี้:
- DJI MAVIC 3 – ราคา 2199 ดอลลาร์ (ประมาณ 73,390 บาท)
- DJI MAVIC 3 Fly More Combo – ราคา 2999 ดอลลาร์ (ประมาณ 100,090 บาท)
- DJI MAVIC 3 Cine Premium Combo – ราคา 4999 ดอลลาร์ (ประมาณ 166,790 บาท)
ที่มา macrumors