รีวิว RAZER NOMMO PRO ลำโพง 2.1 เสียงกระหึ่ม ดูหนังเล่นเกมเต็มอารมณ์

27 ธันวาคม 2021

รีวิว RAZER NOMMO PRO ลำโพงระบบ 2.1 จัดมาชุดใหญ่อลังการ ให้มิติของเสียงที่กระหึ่มสะใจ สนุกได้เต็มที่ เล่นเกมได้เต็มอารมณ์ ทั้งเกม PC และคอนโซล หรือจะต่อเป็นมินิโฮมเธียร์เตอร์สำหรับดูหนังตอบโจทย์ได้ดี ด้วยมาตรฐาน THX และ Dolby Audio

นี่คือลำโพงตัวท็อปสุดของทางแบรนด์ RAZER เพื่อนรักนักเล่นเกม ที่บอกเลยว่าไม่ธรรมดา ด้วยทรงของลำโพงที่แยกซ้ายขวา โดยแต่ละด้านจะมีไดร์เวอร์ 2 ตัว แยกตัวย่านเสียงสูง และเสียงทุ้ม รวมเป็น 4 ตัว พร้อมทั้งยังมี Sub woofer ขนาดใหญ่ยักษ์มากๆ อีกตัว ทำให้เสียงที่ได้มีมิติแยกได้คมและชัดเจนมาก

ตัวงานประกอบนั้นยกนิ้วให้ในเรื่องของความปราณีตและดูพรีเมียมดีมาก ในส่วนยูนิตลำโพงที่วางบนโต๊ะ ไดร์เวอร์จะแยกเป็น 2 ตัวตั้งซ้อนกัน ตั้งบนฐานตั้งที่แข็งแรงแน่นหนา โดยตัวไดร์เวอร์หลักจะมีขนาด 3 นิ้ว เคลือบด้วยไฟเบอร์ Kevlar ส่วนไดร์เวอร์ทวีตเตอร์เสียงสูง ขนาด 0.8 นิ้ว หุ้มด้วยวัสดุไหมทอ

และขึ้นชื่อว่า RAZER ขาดไม่ได้แน่นอนกับอภินิหารแสงสี Chroma RGB ที่บริเวณฐาน แสดงสีได้ถึง 16 ล้านสี ที่สามารถเลือกควบคุมการแสดงสีผ่านทางโปรแกรม Razer Synapse บนพีซี หรือในแอปพลิเคชัน Razer Nommo Pro บนสมาร์ทโฟนที่รองรับทั้ง iOS และ Android

ตัว Sub Woofer นั้นมีขนาดใหญ่มากๆ จึงสร้างพลังเสียงได้กระหึ่มดีมาก ตัวเสียงเบสที่มีความหนักแน่นดีมาก โดยการวางแนะนำให้ตั้งไว้ใต้โต๊ะ ตำแหน่งกึ่งกลางระหว่างตัวลำโพง 2 ตัวบนโต๊ะ และการตั้งลำโพงบนโต๊ะ ให้วางแยกแล้วหันตัวเสียงให้ยิงมาตรงกลางบริเวณที่เรานั่ง เพื่อให้มิติของเสียงที่ดีที่สุด

นอกจากนี้ตัวของ Sub Woofer ยังทำหน้าที่เป็น HUB ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ โดยจะมีพอร์ตซีเรียลสำหรับเสียบสัญญาณเสียงจากลำโพงทั้ง 2 ด้าน

สายของอุปกรณ์ต่างๆ , USB, Optical, AUX, ปลั๊กไฟ, Control Pod

ตัวลำโพง RAZER NOMMO PRO จะมีอุปกรณ์ Control Pod ที่เป็นชุดควบคุมการทำงานแบบสาย สำหรับต่อจากตัวลำโพงมาวางไว้บนโต๊ะ เพื่อปรับควบคุมการใช้งานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดปิด, ปรับระดับเสียง เลือกเปลี่ยนโหมดการเชื่อมต่อ โดยออกแบบเป็นแป้นแบบ Dial ที่ดูเท่ สวยงาม

ตัว Control Pod เวลปรับระดับเสียง จะมีไฟขึ้นบอกระดับความดัง พร้อมทั้งยังมีพอร์ตหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร เอาไว้สำหรับเสียบสายหูฟัง ช่วยให้สะดวกในการเสียบใช้ได้ง่าย ไม่ต้องอ้อมไปเสียบที่ด้านหลังคอมพิวเตอร์ให้ยุ่งยาก

การเชื่อมต่อ

จุดเด่นที่น่าสนใจของ RAZER NOMMO PRO คือเป็นลำโพงที่สามารถเชื่อมต่อใช้งานกับอุปกรณ์ได้หลากหลายมาก ทั้งแบบสายและไร้สาย โดยแบบต่อสายจะมีพอร์ตเชื่อมต่อให้ 2 แบบด้วยกันคือ

USB สำหรับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ PC
Optical สำหรับเครื่องเสียงโฮมเธียร์เตอร์ และเครื่องเล่นเกมคอนโซลอย่าง PlayStation 4, PlayStation 5, Xbox ฯลฯ

สำหรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย จะเป็นแบบ Bluetooth ที่ใช้งานได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน, แท็บเล็ต ฯลฯ

การควบคุมใช้งาน

นอกจากการควบคุมการใช้งานผ่านทางตัว Control Pod แล้ว เรายังสามารถสั่งการใช้งานและปรับตั้งค่าระดับสูงของ ลำโพง RAZER NOMMO PRO ผ่านทาง โปรแกรม Razer Synapse บนพีซี หรือในแอปพลิเคชัน Razer Nommo Pro

สำหรับ Razer Synapse จะเอาไว้ตั้งค่าเวลาเชื่อมต่อลำโพงกับเครื่องพีซี ที่ปรับตั้งค่าเรื่องเสียง และยังปรับการแสดงสี RGB ให้ซิงค์กับระบบ RAZER Chroma RGB ให้แสดงสีในธีมเดียวกับอุปกรณ์ RAZER อื่นๆ อย่างเม้าส์, คีย์บอร์ด ฯลฯ ได้อย่างที่ต้องการ

หรือจะใช้แอป Razer Nommo Pro ก็เลือกปรับโปรไฟล์เสียง, THX, Dolby Audio ได้จากในแอป รวมถึงการปรับการแสดงสีไฟ RGB ได้ด้วย แต่จะเลือกได้น้อยกว่าใน RAZER Synape แต่ก็สะดวกและสำหรับคนที่เอาไว้ต่อกับทีวีหรือเครื่องเกมคอนโซล ก็เลือกปรับผ่านสมาร์ตโฟนได้เลย

สรุป รีวิว RAZER NOMMO PRO หลังลองใช้งาน

วัสดุและการออกแบบ ทำได้ดีมากๆ ผมให้ 10 คะแนนเต็มเลย RAZER มีความพิถีพิถันกับการออกแบบที่สวยดุดันตามสไตล์ หน้าตาดูล้ำสมัยแต่ก็ไม่ได้หลุดโลก วางตั้งบนโต๊ะคอมหรือหน้าทีวีได้อย่างลงตัว

แต่ด้วยขนาดและพลังเสียงของน้องนั้น จะเหมาะสำหรับบ้านหรือห้องที่ต้องกว้างพอสมควร อาจจะไม่ค่อยเหมาะสำหรับห้องคอนโด, หอพัก หรือทาวน์เฮ้าส์ เพราะเสียงอันทรงพลังอาจจะทำเอาคนร่วมชั้นและเพื่อนบ้านไม่รื่นรมย์ไปกับเราด้วยก็ได้ และถ้าใครห้องมีพื้นที่จำกัด ก็อาจจะลำบาก เพราะแค่ตัว Sub Woofer ก็กินพื้นที่ไป 40 x 40 เซนติเมตรแล้ว

เรื่องเสียงนี่ ถือว่าเป็นระบบ 2.1 ที่น่าประทับใจมาก ลำโพงซ้ายขวาที่แยกเสียงสูงกับเสียงทุ้ม ทำให้มิติของเสียงมีความคมชัด ร่วมกับ Sub Woofer ตัวใหญ่ยักษ์ ที่ขับพลังเบสได้สะใจ และระบบเสียงที่เลือกเป็น THX หรือ Dolby ก็มีคาแรคเตอร์ที่ทำให้ได้อรรถรสในการเล่นเกม รวมถึงดูหนังดูซีรีย์แบบสะใจเต็มอารมณ์

การเชื่อมต่อถือว่าทำได้ดี แบบสายที่รองรับ USB และ Optical เพื่อให้ได้เสียงดิจิตอล เสียดายที่ไม่มี HDMI ARC เพราะว่าตอนนี้ Smart TV รุ่นใหม่ๆ บางตัวไม่มี Optical แล้ว ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth ก็ทำได้ดี คุณสามารถใช้เป็นลำโพงกลางสำหรับหลากหลายอุปกรณ์ได้ โดยเลือกปรับ Output ได้สะดวก ผ่านตัว Controler หรือแอปในสมาร์ทโฟน