dtac

ดีแทค ช่วยร้านค้าออนไลน์เติบโตบน ช้อปปี้ จับกระแสอีคอมเมิร์ซ มหกรรม Shopee 12.12 Birthday Sale

dtac business ร่วมกับ ช้อปปี้ มอบสิทธิประโยชน์ผ่าน แคมเปญ “ดีแทคช่วยร้านค้าออนไลน์เติบโตบนช้อปปี้” ยกระดับขีดความสามารถเอสเอ็มอีไทย จับกระแสอีคอมเมิร์ซโค้งสุดท้ายปลายปี ในมหกรรม Shopee 12.12 Birthday Sale

บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค โดย dtac business บริการเทคโนโลยีสื่อสารและโซลูชันสำหรับ กลุ่มองค์กรธุรกิจ ขนาดเล็ก กลางและองค์กรขนาดใหญ่ และ ช้อปปี้ ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน เดินหน้าสนับสนุนภาคธุรกิจและร่วมฉลองมหกรรม Shopee 12.12 Birthday Sale มอบสิทธิประโยชน์ผ่าน แคมเปญ “ดีแทคช่วยร้านค้าออนไลน์เติบโตบนช้อปปี้” ให้กับผู้ประกอบการรายย่อยบนแพลตฟอร์มช้อปปี้ เพื่อสนับสนุนทรัพยากรที่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอินเทอร์เน็ต และโซลูชันช่วยขายออนไลน์ เพิ่มขีดความสามารถให้ผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจบนโลกอีคอมเมิร์ซได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมจับกระแสการเติบโตของอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี

โดยผู้เข้าร่วมโครงการได้รับสิทธิประโยชน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟจากแคมเปญ“ดีแทคช่วยร้านค้าออนไลน์เติบโตบนช้อปปี้” นั่นก็คือ แพ็กเกจ WorryFree Plus Pro เพียง 499 บาทต่อเดือน มีให้เลือก 2 แพ็กเกจตามความต้องการใช้งาน

  • แพ็กเกจ A โทรฟรีทุกเครือข่าย 24 ชั่วโมง ฟรีอินเทอร์เน็ต 4 Mbps พร้อมรับ Shopee Ads 1,000 เครดิตจาก dtac business พร้อมฟรีอินเทอร์เน็ตเมื่อใช้แอป Shopee
  • แพ็กเกจ B ฟรีอินเทอร์เน็ต 10 Mbps รับสิทธิ์ใช้ Google Workspace รวมถึงรับฟรี อีเมลโดเมนธุรกิจ ยกเว้น co.th พร้อมรับ Shopee Ads 1,000 เครดิตจาก dtac business พร้อมฟรีอินเทอร์เน็ตเมื่อใช้แอป Shopee
นางสาวสุชญา ปาลีวงศ์ 

นอกจากนั้น ช้อปปี้ยังมีสิทธิพิเศษสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ที่ยังไม่มีร้านค้าบนช้อปปี้ นั่นก็คือโปรแกรม Power SME ซึ่งได้ถูกริเริ่มขึ้นเพื่อส่งเสริมกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยให้สามารถเริ่มต้นธุรกิจ และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนจากโอกาสที่มีอยู่อย่างมหาศาลบนโลกอีคอมเมิร์ซ ผ่านการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ โดยปราศจากค่าใช้จ่ายตลอดแคมเปญ ไม่ว่าจะเป็น องค์ความรู้ในแง่มุมต่าง ๆ จากทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ ทีมสนับสนุนตั้งแต่การเปิดร้าน ตอบคำถามลูกค้า และให้คำปรึกษาแบบส่วนตัว ตลอดจนสิทธิประโยชน์ทางด้านการตลาดและการส่งเสริมการขาย ไม่ว่าจะเป็นเครดิตสำหรับลงโฆษณาผ่าน Shopee Ads และโค้ดส่วนลดพิเศษอีกมากมาย สามารถสมัครได้ที่ https://bit.ly/3lvL5hFxx

นายศิริพงศ์ นกทนงค์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานธุรกิจลูกค้า SME บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “dtac business ต้องการเสริมจุดยืนในการเป็นเป็นคู่คิดธุรกิจ ที่เข้าใจ SME ในทุกกลุ่มธุรกิจ และเราได้เล็งเห็นว่า กลุ่มของธุรกิจการผลิต มีศักยภาพการเติบโตบนช่องทางออนไลน์ได้อีกมาก แต่เขายังขาดคนที่จะมาคอยช่วยสอนการทำการตลาดบนช่องทางออนไลน์ รวมถึงโซลูชันและเครื่องมือการทำงานต่าง ๆ  dtac business ตั้งใจที่จะเป็น One Stop Shop ให้กับ SME ที่ต้องการนำเอาเทคโนโลยีความเชี่ยวชาญและโซลูชันมาช่วยดำเนินธุรกิจบนยุคดิจิทัลได้อย่างสบายใจไร้ความกังวล ด้วยโซลูชันที่ตอบโจทย์การทำธุรกิจออนไลน์ที่ครบวงจร พร้อมติดอาวุธ เพิ่มโอกาสทางธุรกิจบนช่องทางออนไลน์ โดยการจับมือร่วมกับช้อปปี้ มอบแพ็กเกจการทำธุรกิจออนไลน์สุดพิเศษ เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน และการแข่งขันได้ในระยะยาว”

นางสาวสุชญา ปาลีวงศ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด ช้อปปี้ ประเทศไทย กล่าวว่า “นอกจากดีลและโปรโมชันสุดพิเศษมากมายที่ช้อปปี้เตรียมมาเซอร์ไพรส์ให้กับนักช้อปทุกคนแล้ว อีกหนึ่งพันธกิจสำคัญในช่วงมหกรรม Shopee 12.12 Birthday Sale คือการเดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยบนแพลตฟอร์มช้อปปี้ ให้สามารถสร้างการเติบโตทางธุรกิจจากการจับกระแสอีคอมเมิร์ซที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด และการฟื้นตัวของกำลังซื้อในหมู่ผู้บริโภคชาวไทยในช่วงปลายปี ในโอกาสนี้ ช้อปปี้รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสจัดแคมเปญพิเศษร่วมกับพันธมิตรคนสำคัญอย่าง dtac business เพื่อเปิดโอกาสผู้ประกอบการในโครงการ Power SME ได้สามารถเข้าถึงทรัพยากรที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจบนโลกอีคอมเมิร์ซ ยังผลไปสู่การเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนไปพร้อมกับเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศตามเจตนารมณ์ของบริษัท”

สำหรับกลุ่มเอสเอ็มอี นับเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญอย่างมากในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม มีมูลค่าอยู่ที่ 5.38 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 34.2% ของมูลค่า GDP ประเทศไทย ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 3 ของ GDP ประเทศ ในขณะที่มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซไทยในปี 2564 ถูกคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าแตะ 4.01 ล้านล้านบาท หรือเติบโต 6.11% จากปี 2563 และยังจะมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดมีแนวโน้มที่ดีขึ้น