บทสรุปความสำเร็จ LINE ประเทศไทย ปี 2564 การเติบโตที่พร้อมรุกหน้ายกระดับแพลตฟอร์มให้ตอบโจทย์คนไทยอย่างไม่หยุดยั้ง
เปิดความสำเร็จ LINE ประเทศไทย ปี 2564 ปีแห่งการติดเครื่องเต็มกำลัง ตอกย้ำบทบาทการเป็นแอปพลิเคชันโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับทุกไลฟ์สไตล์ของชีวิต พร้อมเคียงข้างและสนับสนุนคนไทยสู่การเป็นพลเมืองดิจิทัล สร้างโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ใช้งานฯ สามารถดำเนินชีวิตประจำวันผ่านนานาบริการบนแพลตฟอร์มฯ ท่ามกลางความท้าทายอย่างสะดวกไม่มีสะดุด สมกับการเป็นแพลตฟอร์มเพื่อชีวิตวิถีใหม่แบบ NOW NORMAL เพียงหนึ่งเดียว
ครบรอบ 10 ปี พิชิตผู้ใช้ไทยครบ 50 ล้านราย เชื่อมโยงทุกมิติการสื่อสารและไลฟ์สไตล์
ปี 2564 เป็นปีที่ LINE ครบรอบ 10 ปี สามารถพิชิตยอดผู้ใช้งานถึง 50 ล้านคน นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นพลเมืองดิจิทัลของคนไทยมากกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนประชากรไทยทั้งหมด LINE ยังคงทำหน้าที่ช่วยเชื่อมผู้คนผ่านฟีเจอร์สื่อสารต่าง ๆ ให้ได้ใกล้กันอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกันกับในสถานการณ์ล็อกดาวน์ที่การสื่อสารของคนไทยไม่สะดุดแม้ต้องรักษาระยะห่าง เห็นได้จาก LINE Group VDO Call ที่ทะยานสูงถึง 99% (ระหว่างม.ค. – ต.ค. เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า) ในขณะเดียวกัน LINE Meeting ก็เติบโตสูงขึ้นถึง 191% (นับตั้งแต่ช่วงเปิดตัวเมื่อ ส.ค. 2563) สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยนั้นนอกจากจะใช้ LINE สื่อสารในชีวิตประจำวันแล้ว ยังใช้ในการทำธุรกิจและการทำงานช่วง Work From Home อีกด้วย
ขณะเดียวกัน LINE OpenChat ก็เป็นคอมมูนิตี้ออนไลน์ที่ต้องจับตามอง เพราะนอกจากจะมียอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 52% มีกรุ๊ปใหม่ๆ เกิดขึ้นถึง 106% (ม.ค. – ก.ย. 64 เทียบกับปีก่อนหน้า) ตัวเลขดังกล่าว ไม่ได้ใช้เพียงแค่การเติบโตของตัวเลขเท่านั้น แต่ยังเห็นโอเพนแชทในหลายบทบาท โดยเฉพาะการเรียนออนไลน์, เกม, แฟนด้อม, คอมมูนิตี้แหล่งรวมความรู้ด้านการเงินและการลงทุน หรือแม้แต่การใช้โอเพนแชทเพื่อเป็นศูนย์ประสานงานและศูนย์ให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์เกี่ยวกับโควิด-19 ของโรงพยาบาล มูลนิธิ และกลุ่มอาสาสมัครต่างๆ มากมาย
ไม่เพียงเท่านี้ ก่อนส่งท้ายปี ได้มีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ LINE VOOM แท็บที่สามบนแอปฯ LINE ที่มาเสริมบริการด้านโซเชียลมีเดียให้แข็งแรงและชัดเจนยิ่งขึ้น โดยผู้ใช้ LINE สามารถเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ได้ง่ายๆ โดยเฉพาะวิดีโอสั้นรูปแบบต่าง ๆ
“LINE Official Account” โตก้าวกระโดด ดันโซลูชันใหม่ช่วยธุรกิจไทยโตยั่งยืนบนสนาม Social Commerce
LINE Official Account ยังคงครองตำแหน่งช่องทางยอดนิยมของธุรกิจไทยในการนำเสนอสินค้าและบริการ พร้อมการพูดคุยและปิดการขาย ด้วยยอดการใช้งานที่เพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านบัญชี (ณ เดือน ส.ค. 2564) เป็นการเติบโตถึง 25% ภายใน 1 ปี ครองใจผู้ประกอบการทุกขนาดทั้งองค์กรใหญ่, MSMEs รวมไปถึงแบรนด์แฟชันลักชัวรี ด้วยการเป็นช่องท่างที่ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าอย่างถึงลูกถึงคน
ขณะเดียวกันก็ยังเพิ่ม 2 โซลูชันที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพ LINE Official Account ให้ครบรอบด้านยิ่งขึ้นได้แก่ MyRestaurant โซลูชันสำหรับธุรกิจร้านอาหารยุคใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการร้านอาหารทั่วประเทศ และ MyCustomer โซลูชันในการจัดการบริหารข้อมูลลูกค้า สำหรับธุรกิจองค์กรให้สามารถขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ กลุ่มการเงิน ประกัน และการธนาคาร (Financial, Insurance/Banking), กลุ่มรีเทลและอีคอมเมิร์ช (Retail & E-commerce) และกลุ่มภาครัฐ (Government & Public Sector)
ทางด้านช่องทางการลงโฆษณาอย่าง LINE Ads Platform ก็เติบโตถึง 42% (ณ ตุลาคม 2564 เทียบกับปีก่อนหน้า) โดย Smart Channel ยังคงครองตำแหน่งโฆษณายอดฮิต ครองใจนักการตลาดในตลาดโฆษณาออนไลน์ที่มีตัวเลขการเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 63% นับตั้งแต่ต้นปี
ช้อปปิง – สั่งอาหารออนไลน์ หัวใจหลักช่วยให้ไลฟ์สไตล์ NOW NORMAL ไม่สะดุด
ด้าน LINE SHOPPING ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ยังคงครองตำแหน่งแพลตฟอร์ม Social Commerce ในใจคนไทย ด้วยยอดขายเติบโตเกือบ 5 เท่า จากปีก่อนหน้า โดยสินค้าความงาม แฟชั่น และอาหารครองแชมป์ยอดขายสูงสุด ขณะเดียวกันด้าน LINE SHOPPING Seller ทั้งธุรกิจเล็กใหญ่ก็เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า โดยมีโซลูชัน MyShop ช่วยเพิ่มขีดการแข่งขันให้ผู้ค้าบนสนามอีคอมเมิร์ซเมืองไทย
ส่วนทางด้าน LINE MAN จะเรียกว่าเป็นปีทองก็คงไม่ผิด เพราะการเติบโตแบบก้าวกระโดด รุกหนักเพิ่มพื้นที่ให้บริการครอบคลุม 77 จังหวัด 222 อำเภอ ดันยอดผู้ใช้ทั่วประเทศเติบโต 2.5 เท่า ครองแชมป์ฟู้ดเดลิเวอรีที่มีร้านอาหารเยอะที่สุดกว่า 500,000 ร้าน ความสำเร็จในการขยายบริการครอบคลุมทั่วประเทศ ถือเป็นหลักไมล์แรกที่ตั้งเป้าช่วยพัฒนาและยกระดับธุรกิจท้องถิ่นในไทย ผ่านการเชื่อมต่อลูกค้า ไรเดอร์ และร้านอาหารท้องถิ่นเข้าด้วยกัน
คอนเทนต์โดนใจ ครบรส ทั้งสาระ บันเทิง ไลฟ์สไตล์ สายมู จัดเต็มตลอดปี
ขณะที่ LINE STICKERS ช่วยให้ทุกช่วงเวลาแชท สนุกยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยจำนวนสติกเกอร์ที่วางขาย ณ ปัจจุบันกว่า 4.4 ล้านเซต เพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนถึง 20% ปัจจุบันมีครีเอเตอร์กว่า 9 แสนราย ขณะที่เสียงรอสายเสียงเรียกเข้า LINE MELODY ก็เดินหน้าเพิ่มเพลงฮิตใหม่ ๆ รวมกว่า 37,000 เพลง ยอดดาวน์โหลดเติบโต 57% จากปีก่อน ถือเป็นบริการที่ได้รับความนิยมขึ้นเรื่อย ๆ โดยปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 2.4 ล้านราย
ส่วนคอนเทนต์และความบันเทิง LINE TV ก็ขอส่งท้ายด้วยความประทับใจด้านงานคุณภาพ เพราะสามารถพาออริจินัลคอนเทนต์กวาดรางวัลทั้งในและต่างประเทศตลอดปี โดยเฉพาะ “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” กับรางวัล International Drama of The Year จากเวที Seoul International Drama Awards เกาหลีใต้
ขณะที่ฟาก LINE TODAY ที่กลายเป็นแพลตฟอร์มคอนเทนต์ที่มากกว่าแค่สาระ ให้ตามทันทุกเทรนด์ก็มียอดเพจวิวโตถึง 50% จากปีก่อน เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ด้วยสารพันคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์หลากหลาย คอนเทนต์วิดีโอสั้นมาแรงที่มีผู้ชมเพิ่มถึง 7 เท่า และไม่ลืมที่จะเอาใจสายมูด้วยฟีเจอร์เซียมซีจาก 80 วัดดัง แล้วไปมูกันต่อยาวๆ กับ LINE DOODUANG บริการใหม่ที่ออกมาเพื่อเสริมประสบการณ์ขอพร – แก้บนออนไลน์ได้โดยไม่ต้องออกจากบ้าน
ด้าน LINE GAME ก็ไม่เคยทำไมคอเกมต้องเบื่อ เพราะมียอดผู้เล่นเติบโตในทุกเกม โดยเกมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ LINE Let’s Get Rich ในขณะที่เกมที่เติบโตและขายไอเท็ม (Gross Sale) ได้มากที่สุดคือ LINE Rangers ส่วนสายการ์ตูนอย่าง LINE WEBTOON ก็มียอดวิวของออริจินัลคอนเทนต์สูงขึ้นถึง 16% (เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า) ส่งให้ยอดขายโดยรวมสูงขึ้นถึง 85% โดยหมวดหมู่คอนเทนต์ที่มาแรงมากในปีนี้ได้แก่แอกชัน แต่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดยังคงเป็นแนวโรแมนติก
แชท – ยืม – โอน – จ่าย ดันบริการ Fintech ของ LINE โตถ้วนหน้า
จากความสามารถในการตอบโจทย์และความต้องการการใช้งานในแบบ แชท-ยืม-โอน–จ่าย ที่ทำให้บริการด้าน Fintech ของแอปฯ LINE สมบูรณ์และโดดเด่นสำหรับผู้ใช้ในเมืองไทย เห็นได้จากการเติบโตของบริการด้านการเงิน อย่าง LINE BK บริการ social banking รายแรกของไทย ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา LINE BK มีผู้ใช้บริการกว่า 3.9 ล้านราย มีการเปิดใช้งานบัญชีเงินฝาก 4.5 ล้านบัญชี บัตรเดบิต 2 ล้านบัตร ส่วนใหญ่เป็นบัตรประเภทออนไลน์ ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมช้อปปิงออนไลน์ที่สูงขึ้น ขณะที่ด้านบริการให้กู้ยืมนั้นมีวงเงินให้ยืมทั้งสิ้นกว่า 5 แสนบัญชี เพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เชื่อถือได้สำหรับเหล่าฟรีแลนซ์และผู้ที่ไม่มีรายได้ประจำ
ขณะที่ Rabbit LINE Pay ก็ไม่น้อยหน้า มีผู้ใช้รายเดือนเติบโตขึ้น 35% เมื่อเทียบกับต้นปี พบผู้บริโภคมีแนวโน้มหันมาใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและเดบิตมากขึ้นเป็น 31% ขณะที่มูลค่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตสูงขึ้น 126% เมื่อเทียบกับต้นปีเพราะความสะดวกและคุ้มค่าเช่นเดียวกัน
บทสรุป
ปี 2564 นอกจากจะเป็นความท้าทายสำหรับผู้ใช้ในทุกแง่มุมของการใช้ชีวิตและดำเนินธุรกิจ ขณะเดียวกันก็เป็นช่วงเวลาที่ LINE ไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะพิสูจน์บทบาทการเป็นแอปพลิเคชันโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดำเนินชีวิตและมีไลฟ์สไตล์ในหลากมิติได้อย่างราบรื่นและพร้อมที่จะเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยนำผู้ใช้ไปสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในปี 2565 อย่างแน่นอน