รีวิว Kingston KC3000 สำหรับที่ใครมองหา SSD ที่พร้อมสำหรับเทคโนโลยีใหม่ มาตรฐาน PCIe 4.0 ที่ทำสปีดได้เร็วสูงสุดถึง 7,000 MB/s ที่พร้อมสำหรับการใช้งานหนักๆ ไม่ว่าจะเป็นงานตัดต่อวิดีโอความละเอียดสูง หรือเล่นเกมก็โหลดไว เล่นเกมไม่มีสะดุด พร้อมทั้งยังมีขนาดความจุให้เลือกได้ตั้งแต่ 512GB ไปจนถึง 2TB
สำหรับปี 2022 ถือว่าเป็นปีที่เทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์นั้นมีการปรับมาตรฐานใหม่ขึ้นมาจากปีก่อนๆ ในหลายด้าน และตอนนี้ในเรื่องของพื้นที่เก็บข้อมูลหรือ Storage สำหรับคนที่ต้องการประสิทธิภาพในการทำงานขั้นสูงสุด ก็ต้องเลือกใช้ในมาตรฐาน PCIe 4.0 ที่สามารถทำความเร็วมากกว่าเวอร์ชั่นก่อนถึงเกือบเท่าตัว
Kingston KC3000 เป็น SSD แบบ NVMe ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับมาตรฐาน PCIe 4.0 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลได้สูงสุดถึง 7000MB/s ก่อนจะเริ่ม รีวิว เรามาเริ่มดูกันตั้งแต่แพ็กเกจกันเลย
ตัวแพ็คจะเป็นแบบกระดาษซีลประกบ ที่จะมีโชว์ตัวสินค้าให้เห็นด้านหน้า แนะนำว่าให้กรีดขอบๆ ด้านนอกแล้วแกะออก แล้วพลิกดูด้านใน จะมีโค้ดสำหรับใช้ Activate โปรแกรม Acronis True Image HD สำหรับใช้ในการก็อปปี้ไฟล์จาก HDD หรือ SSD ตัวเดิม มาลงใน SSD ตัวใหม่ กรณีที่ใครอยากเอามาใช้งานแทนตัวหลักเดิม ก็จะไม่ต้องเสียเวลาย้ายไฟล์ให้วุ่นวาย
ตัว SSD ในรุ่นความจุ 2TB ที่ทางทีมงานเราได้รับมาทดสอบ จะเป็นแบบ Double side ที่จะมีชิปวงจรทั้ง 2 ด้านของตัว SSD โดยด้านบนจะเป็นสีดำพร้อมชื่อรุ่น และด้านหลังจะเป็นสีขาวที่เป็นข้อมูลรายละเอียดของตัวสินค้า โดยทั้ง 2 ด้านนี้จะเป็นแผ่น Thermal Pad ที่ช่วยระบายความร้อนของตัว SSD ด้วย
สิ่งที่แรกที่ต้องรู้ก่อนเลือกซื้อ Kingston KC3000 ก็คือเรื่องของขนาด โดยที่รุ่นความจุ 512GB และ 1024GB นั้นจะเป็นชิปด้านเดียว จะใช้งานได้ทั้งกับคอมพิวเตอร์ PC และแล็ปท็อป แต่สำหรับรุ่น 2048GB ที่มีความหนามากกว่า (เนื่องจากเป็นชิป 2 ด้าน) จะเหมาะสำหรับใช้กับบอร์ดของคอมพิวเตอร์ PC ที่มีพื้นที่มากกว่า
แต่ถ้าจะใช้กับแล็ปท็อป แนะนำว่าให้แกะเช็คดูด้านในเครื่องก่อนว่าตัวสล็อตที่ให้ใส่เพิ่มได้นั้น เป็นแบบไหน อย่างตัวที่เราทดสอบ ตัวเครื่องภายในทำไว้ให้รองรับใช้งานอัปเกรดได้ทั้งแบบ SATA และ NVMe จึงทำให้มีพื้นที่เหลือให้ใส่ได้อย่างไม่มีปัญหา
เมื่อติดตั้งเรียบร้อย ก็พร้อมใช้งานได้แล้ว สำหรับรุ่น 2048ฌฺพื้นที่ใช้งานจริงจะอยู่ที่ 1.86TB ส่วนเรื่องของความเร็วในการใช้งาน ในรุ่น 2048GB นั้น ความเร็วในการเขียนและอ่านจะเท่ากัน สูงสุดคือ 7000/7000MB/s ซึ่งตอนใช้งานจริงและทดสอบความเร็ว ก็มีเร็วกว่าสเปคขึ้นไปด้วยนิดหน่อย
และถ้าในรุ่นความจุน้อยลงมา ทั้ง 512GB และ 1024GB สปีดในการอ่านจะเท่ากับตัว 2048GB ที่ 7000MB/s แต่ความเร็วในการเขียนจะน้อยกว่า โดยในรุ่น 1024GB ความเร็วการเขียนตามสเป็คจะอยู่ที่ 6000MB/s และรุ่น 512GB จะอยู่ที่ 3900MB/s ตามลำดับ
สรุปแล้ว สำหรับ Kingston KC3000 ถือเป็น SSD ตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับใครที่เครื่องเดิมอยากอัปเกรดให้ได้ความจุและความเร็วที่ดีขึ้น (แต่เครื่องเก่าของคุณก็ต้องรองรับ PCIe 4.0 NVMe ด้วยนะ) หรือถ้าใครอยากจะประกอบเครื่องใหม่ สำหรับใช้ทำงานหนักๆ อย่างตัดต่อวิดีโอ ก็ถือว่าคุ้มมาก เพราะสเปคนั้นมีอายุการใช้งานที่ดีมาก และถึงแม้จะเป็นรุ่นที่ไม่มี Heatsink แต่การควบคุมอุณหภูมิก็ทำได้ค่อนข้างดี
สำหรับใครที่สนใจ Kingston KC3000 สามารถหาซื้อได้แล้วโดยจะมีให้เลือก 3 ขนาดความจุด้วยกันคือ
- 512 GB ราคา 4,190 บาท
- 1TB ราคา 6,890 บาท
- 2 TB ราคา 15,900 บาท
ทางทีมงานล้ำหน้าฯ ขอขอบคุณ Kingston ประเทศไทย สำหรับสินค้าตัว Kingston KC3000 ในการทดสอบ รีวิว สามารถติดตามรายละเอียดข่าวสาร และสินค้าใหม่ๆ ของทาง Kingston ได้ทาง www.facebook.com/kingstonthailand
สรุป สเปค Kingston KC3000
- อินเทอร์เฟซ : PCIe 4.0 NVMe
- ฟอร์มแฟคเตอร์ : M.2 2280
- ความจุ : 512GB, 1024GB, 2048GB
- NAND : 3D TLC
- ขนาด
- 80 x 22 x 2.21 มม. (512GB-1024GB)
- 80 x 22 x 3.5 มม. (2048GB)
- น้ำหนัก
- 512GB-1024GB : 7 กรัม
- 2048GB : 9.7 กรัม
- ความเร็วเขียน/อ่าน
- 512GB : 7,000/3,900MB/s
- 1024GB : 7,000/6,000MB/s
- 2048GB : 7,000/7,000MB/s
- TBW จำนวนไบต์ในการเขียนข้อมูล
- 512GB – 400TBW
- 1024GB – 800TBW
- 2048GB – 1.6PBW
- MTBF : 1,800,000 ชั่วโมง
- อุณหภูมิการทำงาน : 0°C~70°C
- การรับประกัน : รับประกันแบบจำกัดเงื่อนไข 5 ปี