หลังจากที่ต้องพ่ายแพ้ในคดีความกับทาง Sonos วันนี้ Google ก็ออกมาเผยการเปลี่ยนหลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับวิธีการควบคุม Speaker Groups และการทำงานของ Assistant ที่มีในลำโพง Google Home และ Google Nest
หลาย ๆ คนคงจะพอทราบกันอยู่แล้วว่า Google และ Sonos นั้นมีคดีฟ้องร้องกันมาตั้งแต่ปี 2020 ในเรื่องของการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา หลังจากที่ทั้ง 2 บริษัทเคยพัฒนาลำโพงอัจฉริยะร่วมกัน แล้วทางกูเกิ้ลได้เปิดตัว Google Home/Nest Mini ที่มีฟีเจอร์แบบเดียวกับของ Sonos นั่นเอง
หลังจากการต่อสู้ที่ยาวนาน ในที่สุดทางคณะกรรมการการค้าระหว่างประเทศ (ITC) ของสหรัฐอเมริกา ก็มีคำสั่งตัดสินว่ากูเกิ้ลละเมิดสิทธิบัตรของ Sonos จริง ทำให้กูเกิ้ลต้องออกมาเปลี่ยนแปลงการควบคุม Speaker Groups และการทำงานของ Assistant
ผู้ใช้ของกูเกิ้ลจะได้รับการแจ้งเตือนให้ดาวน์โหลดแอป Device Utility (DUA) เพื่อทำการติดตั้งและอัปเดตอุปกรณ์ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ของคุณมีการเชื่อมต่อ Wi-Fi เอาไว้แล้วก่อนการอัปเดต ซึ่งทางกูเกิ้ลยืนยันว่าจะต้องใช้แอป DUA แค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้ผู้ใช้จะต้องปรับตั้งค่าลำโพงแต่ละตัวด้วยตัวเอง แทนการปรับครั้งเดียวแล้วได้การตั้งค่าเหมือนกันหมดในลำโพงทุกตัวแบบเดิม และคุณจะไม่สามารถเปลี่ยนระดับเสียงของลำโพงทุกตัวผ่านการปรับเสียงสมาร์ทโฟนได้อีกต่อไป แต่เซสชั่น Single-speaker จะไม่ได้รับผลกระทบในการเปลี่ยนแปลงนี้
กูเกิ้ลกล่าวว่าฟังก์ชั่น Speaker Group จะยังคงทำงานได้เหมือนเดิม ถึงแม้วิธีการใช้งานจะถูกปรับให้ยุ่งยากขึ้นสักหน่อย ส่วนอุปกรณ์ของบริษัทอื่น ๆ เช่น JBL หรือ Lenovo จะต้องอัปเดตเป็นเฟิร์มแวร์ Cast 1.52.2272222 เพื่อใช้งานฟังก์ชั่นนี้ต่อไป
“ถึงเราจะไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินที่ออกมา เราก็ขอขอบคุณคณะกรรมการการค้าระหว่างประเทศที่อนุมัติคำขอดัดแปลงการตั้งค่าต่าง ๆ ของเรา และเราหวังว่าสิ่งนี้จะไม่มีผลกระทบต่อความสามารถและการขายสินค้าของเรา เราจะยังคงตรวจสอบข้อเท็จจริงเหล่านี้ และปกป้องตนเองจากการเรียกร้องที่ไร้เหตุผลของ Sonos เกี่ยวกับการเป็นหุ้นส่วนและทรัพย์สินทางปัญญาของเราต่อไป” กูเกิ้ลกล่าว
ที่มา 9to5google