รีวิว Halo Infinite เกมยิงระดับตำนานคู่บุญของทาง Microsoft ที่รูปแบบการเล่นมีการปรับเปลี่ยนให้ทันสมัย แถมยังมีโหมด Multiplayer แบบ Free to Play ให้เล่นอีกด้วย
Halo นั้น ถือว่าเป็นซีรีย์เกมที่เรียกได้ว่าอยู่มานานถึง 20 ปี เป็นเกมยิง FPS ที่โดดเด่นและมีแฟนๆ ของ Xbox ประทับใจด้วยตัวเกมที่เป็นโลกแบบไซไฟยุคอวกาศ ต่อสู้กับเอเลี่ยน มีเนื้อเรื่องที่ต่อเนื่องเป็นมหากาพย์มาถึง 5 ภาคด้วยกัน
เนื้อเรื่องของ Halo Infinite ทิ้งช่วงห่างจากภาคก่อนหน้าอย่าง Halo 5: Guardians อยู่นานถึง 6 ปี ภาคนี้เป็นการพัฒนาของ 343 Industries ที่ประกาศว่า ภาคนี้จะเป็นการรีบู้ตซีรีย์เกม Halo ให้กลับไปสู่ความคลาสสิคอีกครั้ง ซึ่งตัวเกมออกมาทำได้ค่อนข้างสมบูรณ์ ทั้งในโหมดผู้เล่นคนเดียวที่มีเนื้อเรื่องเข้มข้น และยังมีโหมด Multiplayer ที่ออกมาให้เล่นกันฟรีๆ ทำให้เป็นเกมที่ทำให้เล่นสนุกทั้งแบบเนื้อเรื่องและแบบออนไลน์แข่งกับผู้เล่นอื่น
เริ่มกับ รีวิว Halo Infinite ในโหมดเนื้อเรื่องเล่นคนเดียว เป็นการกลับมาอีกครั้งของ Master Chief ที่ต้องเผชิญกับการต่อสู้ที่อลังการยิ่งขึ้น เรื่องราวในเกมต่อจาก Halo 5 เลย และในเนื้อเรื่องเราจะมีผู้ช่วยคนใหม่เป็น AI ชื่อว่า Weapon ที่สร้างบรรยากาศฮาๆ ได้บ้าง ต่างจาก Cortana ผู้ช่วยคนก่อนที่ดูออกไปทางจริงจังมากกว่า
โลกในเกมภาคนี้ จะมีความเป็น Open-World ที่ต่างจากภาคก่อนๆ และทำออกมาได้ค่อนข้างลงตัว ผู้เล่นจะต้องออกเดินทางในพื้นที่ในสภาพแวดล้อมต่างๆ พร้อมกับมีเควส, ปริศนา และเนื้อเรื่องต่างๆ ที่ซุกซ่อนอยู่ให้เราได้ค้นหา
แต่ถึงแม้ว่าโลกจะเหมือนเป็น Open-World แต่การเล่นหลักยังคงคล้ายกับของเดิม และในการเล่นที่เป็นโลกกว้าง ก็จะมีเรื่องของยานพาหนะให้เลือกใช้ ส่วนอาวุธก็มีให้เลือกเล่นค่อนข้างเยอะ ให้เราได้เล่นได้หลายอารมณ์
ความรู้สึกหลังลองเล่นโหมดผู้เล่นคนเดียว
สำหรับแฟนรุ่นเก๋า อาจจะต้องเปิดใจรับกับรูปแบบใหม่ๆ ในโลกของ Halo ที่ต่างจากเดิมไปพอสมควร แต่ก็ไม่ได้สลัดทิ้งของเก่าแล้วยัดแต่ของใหม่เข้ามาอย่างเดียว ในหลายๆ จุดก็ยังได้ความรู้สึกที่คล้ายเดิมอยู่ ความเป็น Open-world ส่วนตัวผมชอบเกมรูปแบบนี้ เพราะได้รู้สึกที่ได้ค้นหา และได้ดูทัศนียภาพในเกมที่กว้างขวาง และอิสระในการเล่นได้เพลินๆ แต่ใน Halo Infinite มีแอบน่าเบื่อในหลายพื้นที่ๆ เป็นภูเขาป่าพงไพรซะเยอะ
เนื้อเรื่องในโหมดผู้เล่นคนเดียว ทำได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะตัวศัตรู AI ที่ไม่โง่แถมยังกวนประสาทเราได้พอครร ไม่ได้โหดร้ายจนอยากปาจอย และมีรูปแบบการโจมตีเราแบบมียุทธวิธี และศัตรูก็มีความหลากหลายทำให้สนุกและท้าทายในการที่จะดวลกับพวกมัน
มาเรื่องกราฟิก โดยรวมถือว่าอยู่ในระดับที่ดี แต่ไม่ได้สวยอลังการ ตัวเกมจัดภาพและแสงที่ดูสบายตา รวมกับงานศิลป์ของ Halo ก็ทำออกมาได้ลงตัวดี แต่มีจุดที่ต้องบอกก่อนว่า ตัวเกมตอนนี้ยังไม่รองรับ Ray Tracing
ส่วนเรื่องของระบบเสียง อันนี้ทำได้ดีมาก ทั้งเสียงอาวุธระเบิดบึ้มบั้ม ทำให้บรรยากาศในเกมดูสนุกเร้าใจ และยังมีเรื่องของเสียงที่มีมิติ ที่ทำให้เรารู้ทิศทางและจำนวนของศัตรูที่อยู่ในสมรภูมิ แนะนำเลยใช้หูฟังแบบ 7.1 หรือรองรับเสียงแบบรอบทิศทาง ทำให้ได้บรรยากาศมากขึ้น
ใครที่เป็นแฟนเก่าดั้งเดิมของ Halo ก็สามารถเชื่อมต่อได้ไม่ยาก แต่ถ้าไม่เคยเล่นมาก่อน บอกเลยว่าน่าจะมีงงๆ กันบ้าง และอาจจะไม่อินกับความยิ่งใหญ่ของ Master Chief และการกล่าวถึงตัวละครหลายตัวที่มีในภาคก่อนๆ ดังนั้นหน้าใหม่อาจจะมีงงอยู่บ้างกับเนื้อเรื่อง อีกอย่างที่เสียดายที่ไม่มีให้มาใน Halo Infinite คือโหมดเนื้อเรื่องที่ไม่มี Co-Op มาให้ซึ่งปกติเป็นจุดเด่นของเกมซีรีย์นี้ และเกมที่เป็นพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล ถ้ามีเพื่อนมาออนไลน์เล่นด้วยก็จะรู้สึกสนุกมากขึ้น
ประทับใจมากๆ กับโหมด Multiplayer ที่สนุกเกินคาด
ในโหมดผู้เล่นคนเดียว อาจจะรู้สึกสนุกแต่ก็ยังไม่ได้สุด แต่มาที่โหมด Multiplayer ที่เป็นไฮไลต์ของเกมซีรี่ย์นี้มาทุกภาค และใน Halo Infinite ก็ทำได้แบบไม่ผิดหวัง
โหมดมัลติเพลเยอร์จะมีแผนที่ให้เลือกเล่น 10 แผนที่ แบ่งเป็นในโหมด Quick Play 7 แผนที่ และโหมด Big Team Battle อีก 3 แผนที่ ขนาดของแผนที่นั้น ออกแบบมาให้อยู่ในระดับที่ไม่ได้เล็กหรือใหญ่เกินไป และตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบเล่นแบบ Quick Play ที่มีผู้เล่น 4vs4 ที่ตัวเกมรวดเร็ว และสนุกมาก ทั้งโหมด Team Deathmatch, Capture the Flag, Strongholds และ Slayer
หรือถ้าอยากเล่นแบบใหญ่ๆ ก็มีโหมด Big Team Battle ที่จะเป็นศึกของผู้เล่น 24 คน แบ่งฝั่งทีมละ 12 คน ลงเล่นในโหมดย่อย อย่าง Total Control, Stockpile และ Capture the Flag
ทำให้ผู้เล่นที่ชอบเล่นแบบเร็วๆ ก็สนุก หรือชอบรวมเป็นกลุ่มวิ่งในฉากกว้างๆ ก็มีให้เล่น ปีที่ผ่านมาต้องยอมรับเลยว่า โหมด Multiplayer ของ Halo Infinite ได้รับความนิยมจากผู้เล่นเป็นอย่างดี ที่พื้นฐานเป็นเกมเล่นฟรีแบบ Free to Play แต่ก็มีเพิ่มระบบ Battle Pass ที่มีความยากพอสมควร
สรุป รีวิว Halo Infinite
แฟนๆ ของ Helo แน่นอนว่าคุณได้ฟินกับภาคต่อที่รอมาหลายปีสักที กับประสบการณ์แปลกใหม่ในโลกกว้าง แถมด้วยโหมดผู้เล่น Multiplayer ที่ทำให้คุณไม่ผิดหวัง ถือว่าเป็นอีกเกมดีที่น่าเล่น สำหรับสาย FPS แต่อาจจะไม่ได้ดีสุดในเรื่องกราฟิกที่ไม่ได้สวยจัดอลังการ โดยรวมแล้วอยากให้ได้ลองเล่นกันกับเกมยิงที่สนุก และก็ฝากเอาใจช่วยให้ทีม 343 พัฒนา Halo ภาคต่อไปให้ยกระดับความสมบูรณ์ให้ดีขึ้นไปอีก
ตัวเกม สามารถดาวน์โหลดเล่นทาง Steam ได้แล้ว โดยเล่นฟรีในโหมด Multiplayer และสำหรับโหมดแคมเปญ (เนื้อเรื่อง) ราคา 1,899 บาท