รีวิว Seagate FireCuda 530 with heatsink อัปเกรด เพิ่มความจุให้ PS5 สปีดเร็วยิ่งกว่าเดิม

สวัสดีครับ พบกับ รีวิว Seagate FireCuda 530 with Heatsink เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล SSD แบบ PCIe Gen4 NVMe รุ่นล่าสุด ที่ออกแบบมาพร้อมสำหรับอัปเกรดเพิ่มความจุให้ PlayStation 5 หรือ PS5 ให้มีพื้นที่ในการเก็บข้อมูลภายในเครื่องมากขึ้น โดยได้ประสิทธิภาพในการใช้งานที่รวดเร็วกว่า SSD ที่ติดตั้งมาในเครื่อง

เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2564 ทาง Sony มีการอัปเกรดเฟิร์มแวร์ของ PS5 ให้รองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายในเครื่องได้ จากตอนแรกที่จะให้เพียงแค่ให้ใช้ External HDD เสียบทางช่อง USB ซึ่งมีข้อจำกัดตรงที่ใช้ติดตั้งได้เฉพาะเกม PS4 เท่านั้น แถมความเร็วในการอ่านข้อมูลก็ค่อนข้างช้า

การเพิ่มหน่วยความจำในเครื่อง ทาง Sony มีเตรียมไว้ให้ใน PS5 ไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่เพิ่งมาเปิดให้ใช้งานในช่วงที่เทคโนโลยี DDR4 พร้อมวางจำหน่ายกัน เราสามารถนำเอา SSD M.2 มาใส่เพื่อเพิ่มความจุได้ โดยรองรับตั้งแต่ 250GB ไปจนถึง 4TB โดยมีข้อกำหนดว่าจะต้องเป็น SSD ที่มีการติดตั้ง Heatsink เพื่อช่วยระบายความร้อนมาด้วย

และเจ้า Seagate FireCuda 530 ที่ทางทีมงานล้ำหน้าฯ เราได้มา รีวิว ครั้งนี้ เป็นหนึ่งใน M.2 SSD ที่ทาง Sony แนะนำสำหรับใช้ในการอัปเกรดพื้นที่เก็บข้อมูลภายในให้กับ PlayStation 5 เพราะตรงตามมาตรฐานที่ต้องการ และมี Heatsink ติดตั้งมาให้เรียบร้อยพร้อมใช้งานได้เลย

แกะกล่อง : Seagate FireCuda 530 with heatsink

ในตัวแพ็กเกจของ Seagate FireCuda 530 with heatsink ตัวกล่องแพ็กเกจจะมีการใส่ฟองน้ำกันกระแทกตัวสินค้าให้มาอย่างดี โดยภายก็จะมีคู่มือการใช้งานเบื้องต้น และสติกเกอร์แบรนด์ Firecuda โดยรุ่นที่ทางทีมงานล้ำหน้าฯ เราได้รับมา รีวิว จะเป็นรุ่นความจุ 1TB

หน้าตาของ Seagate FireCuda 530 with heatsink นั้นจะดูแข็งแกร่งกว่า SSD ทั่วไป ที่เราจะคุ้นเคยเป็นรูปแบบของแผงชิปวงจร แต่ตัวนี้มีการเพิ่ม Heatsink ที่เป็นวัสดุโลหะประกอบครอบทับตัวแผงชิป เพื่อช่วยในเรื่องการระบายความร้อนระหว่างการทำงาน เพราะ SSD รุ่นนี้ เป็นมาตรฐาน PCIe Gen4 x4 NVMe ที่มีสเปคในการอ่านข้อมูลสูงสุดถึง 7,300 MB/s เรียกว่าเร็วกว่าเวอร์ชั่นก่อนที่เป็น PCIe Gen3 ถึง 2 เท่า และเร็วกว่าไดร์ฟ SSD แบบ SATA ถึง 12 เท่า

ไดร์ฟรุ่นนี้มีตัวคอนโทรลเลอร์ E18 ที่ได้การรับรองจากทาง Seagate และใช้เทคโนโลยี 3D TLC NAND ล่าสุด ช่วยให้การทำงานในระดับความเร็วสูงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและมีความทนทานมากขึ้น

ตัวฮีทซิงก์ที่ครอบตัว SSD ไว้ วัสดุเป็นอะลูมิเนียมคุณภาพสูง เคลือบผิวแบบอะโดไนซ์ ทำหน้าที่ช่วยระบายความร้อนระหว่างที่ทำงานอย่างหนัก เพื่อยืดอายุการใช้งานของ SSD ให้ยาวนานยิ่งขึ้น

Seagate FireCuda 530 with heatsink ที่มีเข้ามาจำหน่ายในไทย ตอนนี้จะมีทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกัน โดยแต่ละรุ่นจะมีความต่างในเรื่องความเร็วในการอ่านเขียน และค่าการเขียนข้อมูลทั้งหมด (Total Bytes Written : TBW)

• ความจุ 500GB ความเร็วอ่าน/เขียนข้อมูลสูงสุด : 7000/3000 MB/s TBW : 640TB
• ความจุ 1TB ความเร็วอ่าน/เขียนข้อมูลสูงสุด : 7300/6000 MB/s TBW : 1275TB

ขั้นตอนในการติดตั้งกับ PlayStation 5

ทาง Sony ออกแบบให้ผู้ใช้งานสามารถทำการเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลแบบ Internal SSD ได้เอง โดยไม่ต้องวุ่นวายในการแกะเครื่อง และไม่จำเป็นต้องถอด SSD ตัวเก่าที่มีอยู่แล้วในเครื่อง เริ่มต้นเราต้องทำการกรอบฝาเครื่องออก ด้วยการดันสไลด์ออกจากตัวเขี้ยวล็อก สำหรับวิธีการถอดฝาเครื่องออก สามารถดูได้ที่นี่

ด้านในตัวเครื่อง จะมีเพลทโลหะที่ปิดช่องติดตั้งไดร์ฟ ใช้ไขควงถอดออก

จากนั้นด้านในจะมีน็อตฐานยึดติดตั้ง ให้เลื่อนมาในตำแหน่งที่พอดีกับ SSD ของเรา โดยให้เลื่อนมาที่ตำแหน่ง 80

จัดการเสียบ Seagate FireCuda 530 แล้วไขน็อตล็อคให้เรียบร้อย ปิดฝาเพลทโลหะและปิดฝาครอบเครื่องก็เป็นอันเสร็จ

จะเห็นว่า ตัว Seagate FireCuda 530 with heatsink ออกแบบมาสำหรับใช้กับ PlayStation 5 อย่างปราณีต ตัว Heatsink เมื่อติดตั้งเรียบร้อย จะอยู่ในตำแหน่งที่พอดีอย่างลงตัว

เมื่อทำการเปิดเครื่อง ระบบจะแจ้งว่าพบตัว SSD ของเราที่ติดตั้งใหม่เข้าไป และสั่งให้เราทำการ Format เพื่อเตรียมพร้อมใช้งาน

รอแป๊บเดียวก็เรียบร้อย พร้อมมีแจ้งค่าทดสอบความเร็วในการอ่านข้อมูลของไดร์ฟที่เราติดตั้งใหม่ ที่เราทดสอบได้อยู่ที่ราวๆ 6500MB/s ซึ่งเร็วกว่า SSD หลักที่ติดตั้งมาในเครื่อง ตัวนั้นตามสเปคจะได้สูงสุดที่ประมาณ 5000MB/s

เพียงเท่านี้ ไดร์ฟ Seagate FireCuda 530 ที่ติดตั้งไปใหม่ก็พร้อมใช้งานใน PS5 ของคุณแล้ว คุณสามารถเข้าไปเลือกย้ายเกมเดิมที่ติดตั้งไว้ใน SSD หลักมาเก็บในตัว M.2 SSD และไปตั้งค่าใน Setting ให้เครื่องเลือกติดตั้งข้อมูลเกมใน M.2 SSD เป็นพื้นที่ใช้งานหลักได้

สำหรับคนที่มี PlayStation 5 แล้วเล่นเกมเยอะ ตัว Seagate FireCuda 530 นั้นถือว่าน่าสนใจมาก เพราะว่าตัวพื้นที่เก็บข้อมูลที่ให้มาในเครื่องนั้น หักลบแล้วมีให้ใช้งานจริงๆ เพียงแค่ ราวๆ 600GB เท่านั้น ซึ่งมันใช้สำหรับติดตั้งเกมใหญ่ได้ไม่ถึง 10 เกม การเพิ่มพื้นที่สำหรับติดตั้งเกมจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับสายดองเกม (5555) ที่ไม่อยากโหลดๆ ลบๆ เกมในเครื่อง แถมตัว Seagate FireCuda 530 ยังมีสปีดที่เร็วกว่า SSD หลัก ก็ช่วยลดเวลาในการโหลดเกมระหว่างเล่นได้ด้วย

ราคา Seagate FireCuda 530 with heatsink M.2 PCIe Gen4 SSD

Seagate FireCuda 530 พร้อมวางจำหน่ายในไทยแล้ว ราคา สำหรับรุ่นความจุ 500GB อยู่ที่ 6,490 บาท และรุ่น 1TB ราคา 10,500 สามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ www.seagate.com