ผู้พิพากษารัฐบาลกลางสหรัฐตัดสินแล้วว่า Apple ไม่ได้หลอกลวงลูกค้าเกี่ยวกับการกันน้ำของ iPhone เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนว่าแอปเปิลโฆษณาเกินจริง และราคาของไอโฟนก็แพงเกินไป
Apple ได้ปโฆษณาว่า iPhone สามารถกันน้ำได้ในแคมเปญการตลาด นับตั้งแต่ที่มีการเปิดตัว iPhone 7 และมีการกล่าวอ้างด้วยว่า ไอโฟนบางรุ่นสามารถกันน้ำได้ในระดับความลึกสูงสุด 4 เมตรเป็นเวลานาน 30 นาที
จากกรณีดังกล่าวทำให้มีโจทก์ 2 คนจากรัฐนิวยอร์กและเซาท์แคโรไลนา ยื่นฟ้อง Apple ในข้อหาแจ้งข้อมูลเท็จ และสื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด เกี่ยวกับกับมาตรฐานการกันน้ำ ทำให้บริษัทสามารถตั้งราคาไอโฟนแพงเป็น 2 เท่าของราคาสมาร์ทโฟนโดยเฉลี่ย
ล่าสุด Denise Cote (เดนิส โกต) ผู้พิพากษาประจำเขตของสหรัฐฯ ตัดสินว่า ในขณะที่โจทก์กล่าวหาว่าโฆษณาของ Apple อาจทำให้ลูกค้าบางคนเข้าใจผิดนั้น พวกเขากลับไม่ได้แสดงให้เห็นว่า iPhone ของพวกเขาได้รับความเสียหายจาก “การสัมผัสของเหลวหรือน้ำ” ตามที่ Apple ได้โฆษณาไว้
นอกจากนี้ทางผู้พิพากษายังกล่าวด้วยว่า ไม่พบหลักฐานว่า Apple ตั้งใจที่จะพูดเกินจริงเกี่ยวกับการกันน้ำเพื่อสร้างผลประโยชน์ทางการค้า และได้ตัดสินว่าฝั่งโจทก์นั้นไม่มีหลักฐานที่เพียงพอ โดยทนายความที่เป็นตัวแทนของโจทก์กล่าวว่า ลูกค้าของเขารู้สึกผิดหวังกับคำตัดสินของศาลมาก และตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อหรือเปล่า
ถึงแม้ Apple จะเป็นฝ่ายชนะไปในคราวนี้ แต่ก็เคยมีกรณีที่แอปเปิลโดนผู้พิพากษาชาวอิตาลีสั่งปรับเป็นเงินกว่า 12 ล้านดอลลาร์ ในฐานโฆษณาให้ลูกค้าเข้าใจผิดเกี่ยวกับการกันน้ำของ iPhone เมื่อช่วงปลายปี 2020
โดยศาลให้เหตุผลว่าการทดลองของแอปเปิ้ลนั้นเป็นการทดลองในห้องปฏิบัติการ ที่น้ำมีความคงที่และบริสุทธิ์ซึ่งแตกต่างจากน้ำที่ผู้บริโภคต้องเจอในการใช้งานจริง และทางหน่วยงานที่กำกับดูแลก็คิดว่าแอปเปิ้ลไม่ควรนำคุณสมบัติดังกล่าวมาเป็นจุดเด่นของไอโฟนด้วย
จากข้อมูลของแอปเปิลนั้นการกันน้ำและกันฝุ่นไม่ใช่การป้องกันแบบถาวร และอาจเกิดการเสื่อมสภาพตามกาลเวลาและการใช้งาน รวมถึงการรับประกันของแอปเปิลเองก็ไม่ครอบคลุมความเสียหายที่จากของเหลว ดังนั้นผู้ใช้ไอโฟนจึงควรระมัดระวังในการใช้งานและเลี่ยงการสัมผัสกับน้ำเพื่อปกป้องสมาร์ทโฟนของคุณเอาไว้
ที่มา macrumors