เอบีม คอนซัลติ้ง ชูกลยุทธ์ธุรกิจสีเขียว รับต้นทุนพลังงานสูง สาเหตุมาจากราคาพลังงานโลกที่เพิ่มสูงขึ้นและเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน
สีเขียว เอบีม คอนซัลติ้ง ร่วมกับ สถาบันด้านการวิจัยของญี่ปุ่น (JRI) ได้เสนอแนะหน้าที่ประการเพื่อเป็นแนวทางให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมายการปฏิรูปสีเขียว ดังนี้
กำหนดแผนงานความเป็นกลางของคาร์บอน
การกำหนดแผนงานที่ต้องดำเนินการเพื่อให้เกิดการปฏิรูปสีเขียวนั้นจำเป็นที่จะต้องสรรหามาตรการลดก๊าซเรือนกระจกหลายรูปแบบและนำมาเรียงลำดับตามความคุ้มค่าทางด้านการลงทุน ซึ่งผลตอบแทนจากการลงทุนในมาตรการนั้น ๆ อาจมีความผันผวนตามราคาของพลังงาน ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจจึงจำเป็นต้องประเมินผลตอบแทนจากการลงทุนในมาตรการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงในตลาด และแผนงานดังกล่าวจะต้องมีความยืดหยุ่นพอที่จะสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม
มาตรการความร่วมมือกับห่วงโซ่อุปทานเพื่อลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ในขณะที่การประสานงานและต้นทุนจะสร้างปัญหาให้กับบริษัทในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดห่วงโซ่อุปทาน การทำงานร่วมกันระหว่างบริษัททั้งต้นน้ำและปลายน้ำถือเป็นสิ่งจำเป็น และแนวทางการทำงานร่วมกันที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือการสร้างโครงสร้างที่จะช่วยคำนวณอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและตั้งโมเดลมาตรการลดก๊าซเรือนกระจกที่จะเป็นประโยชน์ต่อทุกบริษัท
แยกตัวออกจากการจัดการข้อมูลตามกฎหมาย
เนื่องจากการจัดการข้อมูลและการรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมีพื้นฐานตามกฎหมายเท่านั้น ระบบการจัดการข้อมูลองค์กรในปัจจุบันจึงพบปัญหาการจัดการกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของตลาดในอนาคต ดังนั้น ขั้นตอนแรกที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปฏิรูปสีเขียว คือการจัดการข้อมูลต้นทุนเพื่อเลือกมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เหมาะสมตามการคาดการณ์ความผันผวนของราคาพลังงาน
การสร้างความยืดหยุ่นด้านอปสงค์เพื่อสร้างรายได้ใหม่
ในอนาคต การสร้างโมเดลธุรกิจที่จะสร้างรายได้ใหม่ให้กับบริษัทจะมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นเพื่อบรรลุการจัดการองค์กรและเป้าหมายการปฏิรูปสีเขียว ตลอดจนถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ยั่งยืน ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงจำเป็นต้องมองเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2608 ทั้งในแง่ของความเสี่ยงสำหรับการจัดการองค์กรและโอกาสทางธุรกิจ และหมั่นใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและทรัพย์สินของบริษัทให้มีประสิทธิภาพ
“บริษัทไทยเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการใช้แผนการปฏิบัติการเชิงรุกในแง่ของการปฏิรูปสีเขียว และคอยจับตาดูแนวโน้มนโยบายและความท้าทายอย่างใกล้ชิด เอบีม คอนซัลติ้ง ได้มีโอกาสร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าของเราในประเทศญี่ปุ่นเพื่อช่วยให้พวกเขาบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ และเราหวังว่าบริษัทในประเทศไทยจะได้รับผลประโยชน์แบบเดียวกันจากประสบการณ์และคำแนะนำของเอบีม” ฮิชิโร ฮาระ กล่าวเสริม
จากผลการสำรวจของ เอบีม คอนซัลติ้ง และ สถาบันด้านการวิจัยของญี่ปุ่นในหมู่ผู้นำทางด้านธุรกิจในญี่ปุ่น พบว่า ในขณะที่บริษัทมากกว่า 70% ในญี่ปุ่นมีความประสงค์ที่จะบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางด้านคาร์บอน แต่มีเพียง 16% เท่านั้นที่ได้จัดทำแผนงานที่ชัดเจนสำหรับเป้าหมายนี้
นอกจากนี้ บริษัทน้อยกว่า 15% ได้มีการเก็บข้อมูลต้นทุนพลังงานแบบละเอียด เช่น ข้อมูลราคาต่อหน่วยตามสัญญา ข้อมูลพลังงานหมุนเวียน ต้นทุนการปรับเชื้อเพลิงและวัตถุดิบ และข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการคาดการณ์ราคาพลังงานในอนาคต
เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) พร้อมสนับสนุน และให้คำปรึกษาในการทำดิจิทัลทรานสฟอร์เมชันเพื่อให้องค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายสู่การเป็น “องค์กรสีเขียว” และสามารถดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม โดยทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนจนสามารถบรรลุตามเจตนารมณ์ที่ประเทศไทยได้ประกาศไว้ในการประชุม COP 26